ซิกท์ ไทยแลนด์เร่งเครื่องบุก 7 ประเทศอาเซียนใน 3 ปี Share this

ซิกท์ ไทยแลนด์เร่งเครื่องบุก 7 ประเทศอาเซียนใน 3 ปี

Golf Autospinn
โดย Golf Autospinn
โพสต์เมื่อ 23 April 2557

ซิกท์ ประเทศไทย เร่งเครื่องขยายธุรกิจ 7 ประเทศในอาเซียนภายใน 3 ปี เริ่มจากการทุ่มงบ 350 ล้านบาทในปีนี้ ขยายสาขาในไทย พร้อมเดินหน้าบุกลาว, มาเลเซีย, เวียดนามและพม่า มั่นใจดันสัดส่วนรายได้รถเช่าระยะสั้นเป็น 30%

ศุกลกานต์ ธรรมชวนวิริยะ กรรมการบริหาร บริษัท มาสเตอร์ คาร์ เร้นเทิล จำกัด ในเครือเอ็มจีซี-เอเชีย ผู้ให้บริการรถเช่าระยะสั้นภายใต้แบรนด์ "ซิกท์ ไทยแลนด์" เปิดเผยว่าจากการที่บริษัทได้เป็นตัวแทนของซิกท์ใน 7 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน ได้ตั้งเป้าหมายที่จะขยายเครือข่ายการให้บริการให้ครบภายใน 3 ปีนับจากนี้

Sukolkarn

ทั้งนี้ ซิกท์ ไทยแลนด์ จะดูแลการบริหารงานในประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ลาว พม่า เวียดนามและกัมพูชา ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการปรับโฉมการให้บริการในประเทศไทยและขยายสาขาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันมีสาขาที่ให้บริการในประเทศไทยทั้งสิ้น 14 สาขา และพบว่ามีอัตราการเติบโตกว่า 30% ในช่วง 2 ปีทีผ่่านมาหลังร่วมมือกับซิกท์

สำหรับในปีนี้ มีแผนที่จะใช้งบประมาณกว่า 350 ล้านบาทในการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ โดยในประเทศไทยจะมีการเพิ่มการให้บริการอีก 4 สาขา ที่จ.พิษณุโลก, จ.นครศรีธรรมราช, จ.ภูเก็ต และสนามบินดอนเมือง รวมถึงการซื้อรถยนต์รุ่นใหม่เข้าพอร์ตอีก 200 คัน ซึ่งจะทำให้มีรถยนต์สำหรับธุรกิจรถเช่าระยะสั้นเกือบ 1,000 คันในปีนี้

นอกจากนี้ ยังเริ่มเดินหน้าทำตลาดในต่างประเทศอย่างจริงจัง ด้วยการทดลองเปิดให้บริการที่เวียงจันทร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในช่วงที่ผ่านมา ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ และยังมีแผนที่จะเปิดตัวในมาเลเซียและเวียดนามเพิ่มเติม ขณะที่พม่าก็อยู่ในแผนงานที่จะเปิดให้ทันในปีนี้ แต่ก็ยังติดปัญหาบางประการอยู่

"เราจะพยายามเดินหน้าทำตลาดพม่าให้ได้ในปีนี้ และอีก 2 ประเทศที่เหลือก็จะตามมาภายใน 3 ปีนับจากนี้ ซึ่งจะเป็นการเปิดตลาดอย่างเต็มรูปแบบของซิกท์ภายใต้การดูแลของเอ็มจีซี-เอเชีย ซึ่งเรามั่นใจว่าในช่วงเวลาดังกล่าว รายได้ของซิกท์จะเพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วนไม่น้อยกว่า 30% ของมาสเตอร์ฯ จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนราว 15% เท่านั้น"

Sixt

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา มาสเตอร คาร์ เร้นเทิล มีรายได้รวมกว่า 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจให้เช่ารถยนต์ระยะยาว 85% และธุรกิจให้เช่ารถยนต์ระยะสั้น 15% โดยมีรถยนต์ในพอร์ตมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของผู้ให้บริการรถเช่าในประเทศไทย และมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้สถานการณ์ทางด้านการเมืองและการท่องเที่ยวอาจจะชะลอตัว แต่ก็น่าจะเกิดในช่วงสั้น ๆ เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจากการที่สายการบินโลว์คอสต์เปิดให้บริการมากขึ้น ทำให้ผู้ที่เดินทางใช้บริการสายการบินและเช่ารถยนต์เพื่อการท่องเที่ยวมากขึ้น จะทำให้ธุรกิจรถเช่าเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับที่บริษัทฯ ก็ปรับตัวด้วยการเลือกหารถยนต์ที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคมาให้บริการ ซึ่งคาดว่าหากมีการสร้างโครงข่ายทั้ง 7 ประเทศแล้ว ธุรกิจรถเช่าระยะสั้นอาจจะมีการเติบโตถึง 100% ก็เป็นไปได้


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ