โปรสตรีมลุยสร้างนวัตกรรมธุรกิจล้างรถยนต์ด้วยไอน้ำรายแรกของประเทศไทย เร่งขยายเครือข่ายแฟรนไชส์ ขยายธุรกิจล้างรถเคลื่อนที่ พร้อมเล็งขยายตลาดประเทศเพื่อนบ้านในปีนี้
ปรกฤษฎ์ หงษ์โสภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส เอ็ม จี แมชชีเนอรี่ ผู้ให้บริการศูนย์ดูแลรถยนต์ครบวงจรโปรสตรีม เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ทดลองทำตลาดเครื่องล้างรถยนต์ด้วยไอน้ำในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีความน่าสนใจ โดยลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่มรถซูเปอร์คาร์หันมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น
บริษัทฯ จึงได้เดินหน้าขยายตลาดอย่างเต็มรูปแบบในปีนี้ จากที่มีศูนย์บริการในปัจจุบัน 5 สาขา ก็จะเพิ่มสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์อีก 10 แห่ง เพิ่มการให้บริการล้างรถแบบเคลื่อนที่ 5 คัน รวมถึงการจำหน่ายเครื่องล้างรถยนต์แบบไอน้ำ ซึ่งบริษัทฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายในอาเซียนอีก 30 ยูนิต ทำให้คาดหวังรายได้ที่ 15 ล้านบาทในปีนี้
นอกจากนี้ ยังเดินหน้าขยายธุรกิจในประเทศใกล้เคียง โดยอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชนลาว ด้วยรูปแบบของการขยายไปตามสถานีบริการน้ำมันของพันธมิตรที่มีอยู่กว่า 30 แห่ง รวมถึงการขยายในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกง ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 3 ของปีนี้
อัตราค่าให้บริการของการล้างรถยนต์ด้วยไอน้ำที่ศูนย์บริการจะอยู่ที่ 280-1,150 บาท ขณะที่การให้บริการล้างรถเคลื่อนที่เริ่มที่ 450 บาท ขณะที่ผู้ที่สนใจแฟรนไชส์จะเริ่มต้นที่ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น 5 แสนบาททั้งในแบบสาขาและแบบเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นอัตราสำหรับปีนี้เท่านั้น จากนั้นจะคิดค่าเครื่องต่างหากอีกประมาณ 2.59 แสนบาท
"เรามองว่าผู้ประกอบการที่พร้อมจะลงทุนกับบริษัทฯ ในปีนี้ถือเป็นกลุ่มเริ่มต้น ซึ่งเราได้รวมค่าเครื่องยนต์เข้ากับค่าแฟรนไชส์ไปเลย ขณะที่ผู้ประกอบการหลังจากนี้อาจจะต้องจ่ายในส่วนนี้เพิ่มเติม นอกจากนี้ เรายังได้เจรจากับตัวแทนจำหน่ายรถปิกอัพมิตซูบิชิรายหนึ่งในการจัดไฟแนนซ์รถปิกอัพพร้อมเครื่อง เพื่อให้ผู้ที่สนใจเริ่มธุรกิจได้ง่ายขึ้น"
ทั้งนี้ ปรกฤษฎ์กล่าวว่าได้วางแผนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจเอาไว้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการอบรมพนักงาน หรือการเตรียมในเรื่องของคอลล์เซนเตอร์สำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้บริการล้างรถเคลื่อนที่ ซึ่งบริษัทฯ จะทำหน้าที่ในการจัดส่งลูกค้าให้กับแฟรนไชส์ในการให้บริการ โดยคิดค่าสมาชิกจากแฟรนไชส์ซีเดือนละ 5,000 บาท
สำหรับนวัตกรรมการล้างรถยนต์ด้วยไอน้ำถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของประเทศไทย โดยมีข้อดีในเรื่องของการทำความสะอาดรถยนต์ที่ไม่ทิ้งน้ำยาหรือฟองสบู่เอาไว้ที่รถ และรับประกันในเรื่องของการป้องกันไม่ให้เกิดรอยจากการล้าง 99-100% และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้น้ำเพียง 4 ลิตรต่อการล้างรถ 15 นาที ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับการล้างรถแบบปกติ
ความคิดเห็น