ก่อนหน้านี้ ทางAutospinnเราได้เคยทำรีวิวทดสอบยาง MICHELIN Pilot Sport 3 แบบใช้งานจริงในชีวิตประจำวันไปเรียบร้อยแล้ว มาวันนี้เราได้มีบทความเพิ่มเติม ในส่วนของยาง MICHELIN Pilot Sport 3 รุ่นนี้มานำเสนอให้แฟนๆรวมถึงผู้ที่สนใจอยากจะเปลี่ยนยางใหม่ได้ลองอ่านกันอีกครั้ง
การทดสอบในครั้งนี้ได้กูรูผู้เชี่ยวชาญ 2 ท่านจะมาพูดเรื่องยางแบบเจาะลึกให้เราฟังกัน คุณสุรมิส เจริญงาม กับ คุณรณกร พรรณรังสี ซึ่งผู้ทดสอบได้เลือกติดตั้งตัวยางในรถ Mercedes-Benz SLK ซึ่งเป็นรถสปอร์ตแบบ Roadster โดยเริ่มทดสอบตั้งแต่ในตัวเมือง ออกไปยังทางหลวงเพื่อมุ่งหน้าไปทดสอบสมรรถนะเต็มรูปแบบกันในสนามแข่ง
การทดสอบเริ่มตั้งแต่การขับขี่ออกตัวบนถนนในตัวเมือง ซึ่งการขับในตัวเมืองกับรถถกลุ่มสปอร์ตโรดสเตอร์อย่าง Mercedes-Benz SLK คันนี้จะเน้นในเรื่องของ Performance เป็นหลัก แต่สิ่งที่จะตามมากับยางสปอร์ตที่เน้นการยึดเกาะมักต้องแลกมาด้วยอาการแข็งกระด้างจากยางแก้มเตี้ย แต่สำหรับ MICHELIN Pilot Sport 3 นี้ ได้ลบภาพเหล่านั้นทิ้งไปจากเทคโนโลยีของ MICHELIN ที่ช่วยให้ยางแบบสปอร์ตไม่จำเป็นต้องแข็งกระด้างเสมอไป อีกทั้งลายดอกยางที่ออกแบบเป็นชุดเล็ก ชุดใหญ่ สลับกันจะช่วยหักล้างเสียงรบกวนในความถี่ต่างๆจึงทำให้เสียงไม่ดังที่ความเร็วสูงเมื่อเทียบกับยาง Sport ด้วยกัน
เมื่อหลุดพ้นช่วงการจราจรคับคั่งมาแล้ว ก็มาถึงการขับขี่ใช้งานบนทางหลวงที่บางครั้งอาจต้องใช้ความเร็วสูงเป็นเวลานาน ยางที่ดีจะต้องทนต่อความร้อนสูงได้ ซึ่ง MICHELIN PS3 ได้มีค่าTemperature A ซึ่งเป็นค่าสูงสุด จึงทำให้ยางมีการระบายความร้อนได้ดี ที่สำคัญการขับขี่ที่ความเร็วสูงสมรรถนะยางจะต้องเต็มเปี่ยม สร้างความมั่นใจหากเจอสถานการณ์ฉุกเฉินช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมตัวรถได้อย่างปลอดภัย ซึ่ง MICHELIN Pilot Sport 3 นี้ มีเทคโนโลยีหน้ายางแปรผันอัจฉริยะให้การปรับหน้าผิวสัมผัสที่ดี เพื่อให้ยางมีการยืดหยุ่นตัวทำให้การยึดเกาะของผิวยางเต็มหน้าผิวสัมผัส ช่วยเพิ่มgrip การยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น
และบททดสอบสุดท้ายกับการขับขี่แบบเน้นสมรรถนะอัดเต็มในสนามแก่งกระจาน ยางสปอร์ตที่ดีจะต้องดีตั้งแต่เริ่มต้นออกตัว ยึดเกาะถนนได้ดี ช่วยส่งผ่านกำลังของเครื่องยนต์ลงสู่พื้นถนนและรถพุ่งทะยานออกไป โดยที่ไม่มีอาการล้อฟรีทิ้งและนอกจากนั้นในสนามที่มีทางโค้งคดเคี้ยวด้วยการดีไซน์แบบ Asymmetric (ไม่สมมาตร) ด้านในจะมีความละเอียดสูงกว่าและด้านนอกจะมีบล็อกดอกยางขนาดใหญ่คอยช่วยในด้านประสิทธิภาพในการเข้าโค้งได้อย่างเต็มเปี่ยมและยังมีค่า Traction (สมรรถนะในการยึดเกาะบนพื้นผิวเปียก) สูงถึงระดับ AA ช่วยกักและรีดน้ำออกได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ยึดเกาะบนพื้นถนนเปียกได้ดียิ่งขึ้น
สรุป จากบททดสอบ รีวิวการใช้งานทั้ง 3 รูปแบบนี้ คงช่วยให้ผู้ที่เลือกที่คิดจะเลือกซื้อยางใหม่คำนึงถึงความคุ้มค่ากับเงินที่ต้องเสียไปต่อการเลือกยางสักชุดมาใช้ฝากชีวิตด้วย ยางที่ใช้งานแบบธรรมดาทั่วๆไป เงียบ, นุ่ม ใช้งานได้ยาวนานอาจมีสมรรถนะในการยึดเกาะที่ไม่สูงมากนัก หรือผู้ที่ชื่นชอบรักในการขับขี่แบบสปอร์ตอาจต้องทนกับความกระด้างของยางและเสียงรบกวนจากลายดอกยางที่ดูโฉบเฉี่ยวกับอายุการใช้งานที่อาจไม่ยาวนานนัก
แต่ MICHELIN Pilot Sport 3 สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ว่าใช้งานได้ครอบคลุม ทั้ง 3 รูปแบบ ตั้งแต่ในตัวเมือง, ทำความเร็วบนทางหลวงและการอัดเต็มในสนามแข่ง MICHELIN Pilot Sport 3 รุ่นนี้ สามารถตอบโจทย์ ได้อย่างครอบคลุม
ความคิดเห็น