ด้วยเทคโนโลยีที่ขาดแคลนและสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมยานยนต์คาดว่าค่ายรถยักษ์ใหญ่จะใช้วิธีเข้าซื้อกิจการหรือควบรวมกิจการกันมากขึ้น โดยแบรนด์รถยนต์หลักอาจลดลงจาก 30 แบรนด์เหลือเพียงเครือบริษัทเพียง 5 – 6 องค์กรเท่านั้น
Adam Jonas นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ ระบุว่าหลายค่ายรถมักมุ่งเน้นที่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในระยะสั้น มากกว่าการวางแผนรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในระยะยาว ซึ่งค่ายรถที่ไม่มีวิสัยทัศน์ยาวไกลเพียงพอนั้นจะต้องล้มหายตายจากไปหรือถูกซื้อกิจการ
“ปัจจุบันเรามีบริษัทรถยนต์มากเกินไป ปัจจุบันมีเกือบ 30 บริษัทที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในแปดประเทศทั่วโลก สภาพเศรษฐกิจและการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงไปจะทำให้โฉมหน้าอุตสาหกรรมหดเล็กลง อาจเหลือเพียง 5 หรือ 6 แบรนด์เท่านั้น” Jonas กล่าว
เขายังตั้งคำถามถึงบริษัทรถอเมริกันว่ามีความพร้อมมากน้อยเพียงใดในการก้าวสู่ยุคแห่งรถขับขี่อัตโนมัติหรือรถไร้คนขับ
“GM และ Ford มีความพร้อมหรือเทคโนโลยีที่สูงล้ำพอหรือไม่ในการก้าวเป็นผู้นำในยุครถขับขี่อัตโนมัติ ซึ่งเราคิดว่ายังไม่เพียงพอ” Jonas เผย พร้อมกับชี้ว่าค่ายรถยักษ์ใหญ่จากดีทรอยท์จะต้องจับมือกับซัพพลายเออร์ที่มีคุณภาพเพื่อยกระดับเทคโนโลยี
อย่างไรก็ตาม มอร์แกน สแตนลีย์เคยประเมินโฉมหน้าของอุตสาหกรรมยานยนต์คล้ายกันนี้มาแล้วเมื่อราว 10 กว่าปีก่อน ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เข้ามาช่วยอุ้มค่ายรถอเมริกันทำให้การประเมินคลาดเคลื่อน ส่วนการควบรวมกิจการได้เกิดขึ้นเฉพาะบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนมากกว่า
ความคิดเห็น