มาร์เซอราติชี้ลูกค้ารถหรูชะลอการซื้อนาน 6 เดือน รับสภาพปรับเป้าหมายการจำหน่ายเหลือ 45 คันในปีนี้ จากเป้าหมายเดิม 60 คัน พร้อมเร่งเครื่องนำเข้าเครื่องยนต์ดีเซลเสริมทัพปลายไตรมาส 3 นี้
พรศริน เมธีวัชานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มไพร์ มอเตอร์ สปอร์ต จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มาเซอร์ราติในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย ทำให้ลูกค้ากลุ่มรถยนต์สปอร์ตหรูหราชะลอการซื้อรถยนต์เป็นระยะเวลานานกว่า 6 เดือน เนื่องจากไม่แน่ใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ว่าลูกค้าจะยังมีกำลังซื้ออยู่ก็ตาม
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ปรับลดเป้าหมายการจำหน่ายลงเหลือ 45 คันในปีนี้ จากเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะทำได้ถึง 60 คัน อย่างไรก็ตาม ยังเติบโตจากปีที่ผ่านมาที่ทำยอดจำหน่ายได้ราว 15 คันเท่านั้น โดยยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างมาเซอร์ราติ กิบลี ซึ่งเป็นรถยนต์ที่มีราคาจำหน่ายที่ลูกค้าจับต้องได้มากขึ้นในประเทศไทย
“ในปีที่ผ่านมาหลังเปิดตัวควอตโตรปอร์เต้ไปแล้ว ก็พบกับสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงปลายปี ซึ่งทำให้เราชะลอการเปิดตัวกิบลีจากเดือนมกราคมที่ผ่านมามาเป็นในเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม เรามั่นใจว่ากิบลีจะประสบความสำเร็จ โดยมียอดการจองก่อนการเปิดตัวเข้ามาแล้ว 6-7 คัน ซึ่งเป็นครั้งแรกของบริษัทฯ ที่มียอดจองก่อนการเปิดตัว”
สำหรับแผนงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทเตรียมร่วมฉลองครบรอบ 100 ปีของมาเซอร์ราติทั่วโลกในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจะมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลทั้งควอตโตรปอร์เต้และกิบลี ที่จะมีราคาจำหน่ายถูกลง รวมถึงรถยนต์รุ่นพิเศษอย่างควอตโตรปอร์เต้ เซนย่า ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ โดยประเทศไทยจะได้รับสิทธิ์การจำหน่าย 2 คันจากยอดการผลิต 100 คันทั่วโลก
ในส่วนของราคาจำหน่ายรถยนต์รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล วี6 ที่ให้กำลัง 275 แรงม้านั้น จะถูกกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซิน โดยควอตโตรปอร์เต้ ดีเซล จะวางราคาจำหน่ายที่ 10 ล้านบาทต้น ๆ เทียบกับรุ่นเครื่องยนต์เบนซินที่วางจำหน่ายที่ 11.5 ล้านบาท และกิบลี ดีเซล จะเริ่มที่ 6.7 ล้านบาท เทียบกับรุ่นเบนซินที่เริ่มที่ 6.9 ล้านบาท
“ความพิเศษของเครื่องยนต์ดีเซลในไทยก็คือการที่โรงงานได้ทำการปรับสเปกให้มีความเหมาะสมกับน้ำมันที่ใช้อยู่ในประเทศไทย ซึ่งมาตรฐานไอเสียของประเทศไทยยังแตกต่างจากในยุโรปมาก ทำให้ต้องปรับสเปกให้เหมาะสม เป็นเหตุให้เรายังไม่สามารถเปิดตัวได้ในขณะนี้ ซึ่งเราพยายามแจ้งลูกค้าให้ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้มาโดยตลอด”
พรศรินกล่าวต่อว่าในส่วนของการให้บริการลูกค้านั้น ในปีนี้มีแผนงานที่จะปรับในเรื่องการให้บริการลูกค้าที่โชว์รูมวิภาวดี-รังสิต ขณะที่จุดขายหลักจะเป็นที่โชว์รูมสยาม พารากอน และในปี 2558 จะมีการขยายตัวแทนจำหน่ายเป็นครั้งแรก โดยคาดว่าจะเพิ่มอีก 2 แห่ง แบ่งเป็นในกทม. 1 แห่ง และหัวเมืองใหญ่ เช่น ภูเก็ตหรือเชียงใหม่ อีก 1 แห่ง ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ยอดขายของมาร์เซอราติในประเทศไทยเพิ่มขึ้นในอนาคต
ด้าน เกทาโน มาริโน ผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก มาร์เซอราติ เอเชียแปซิฟิก เปิดเผยว่ามาร์เซอราติทั่วโลกมีแผนที่จะเพิ่มยอดจำหน่ายจาก 6,000 คันในปีที่ผ่านมาเป็น 5 หมื่นคันภายใน 2 ปี โดยจะเพิ่มรถยนต์รุ่นใหม่ให้มากขึ้น รวมถึงการขยายเครือข่ายการจำหน่ายทั่วโลก
ทั้งนี้ มาร์เซอราติเตรียมเปิดตัวเลวันเต้ รถยนต์เอสยูวีรุ่นแรกของค่ายในปี 2558 ขณะเดียวกันก็เตรียมขยายเครือข่ายการจำหน่ายที่มีอยู่ใน 70 ประเทศทั่วโลกออกไปให้มากขึ้น ซึ่งน่าจะทำให้แผนงานของบริษัทเป็นไปตามที่วางเอาไว้ด้วยการสร้างยอดจำหน่ายเพิ่มในอนาคต
สำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อการทำตลาดพอสมควร และก็หวังว่าสถานการณ์ต่าง ๆ จะคลี่คลายโดยเร็ว ทั้งนี้ ยังมีความหวังและความเชื่อมั่นในประเทศไทยว่าจะเป็นตลาดหลักที่สำคัญของมาร์เซอราติในอนาคต
"ในปัจจุบันประเทศไทยเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 จากตลาดทั้งหมดที่ผมเป็นคนดูแล แต่ก็เป็นตลาดที่ีมีอัตราการเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งผมหวังว่าหากสถานการณ์ต่าง ๆ ผ่านไปได้ ก็จะทำให้บริษัทสามารถกลับสู่การทำตลาดปกติและทำได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน"
พบมาเซอร์ราติมือสองที่ไทยคาร์ดอทคอม
ความคิดเห็น