ลองขับฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต เก็บของดี ปีนป่ายได้...

หลังจากที่ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดตัวฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต รถเอสยูวีระดับบี ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโตในประเทศไทย เราก็เริ่มเห็นเจ้ารถยนต์หน้าตาประหลาดคันนี้ออกมาวิ่งบนท้องถนนกันมากขึ้นเรื่อย ๆ

ด้วยการวางแผนการตลาดมาอย่างยาวนาน มีการโปรยกิจกรรมทางการตลาดมาอย่างต่อเนื่องกว่าครึ่งปี ทำให้ไม่อาจมองข้ามได้ว่าเอคโค่สปอร์ตน่าจะเป็นอีกหนึ่งสินค้าธงของฟอร์ดในการทำตลาดนับจากนี้

ด้วยการวางตลาดของสินค้าที่แตกต่างจากรถยนต์รุ่นเดิม ๆ ตัวเลือกที่มีให้เลือกมากกว่าถึง 4 รุ่น มีเกียร์ธรรมดาให้เลือกในรุ่นล่างสุด แถมรุ่นท๊อปที่เอามาขับทดสอบนั้นก็ใส่อุปกรณ์กันมาอย่างเต็มที่ จนทำให้กลายเป็นรถยนต์ที่ราคาถูกที่สุดที่มีระบบซันรูฟเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ในสนนราคา 8.29 แสนบาทในรุ่นไทเทเนียม เอที

ภาพรวมของรถคือการนำฟอร์ด เฟียสต้ามาทำการยกสูง เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง ขณะที่รายละเอียดทางเทคนิคเกือบทั้งหมดขอยืมมาจากเฟียสต้าและปรับแต่งเพียงเล็กน้อยเพื่อให้เหมาะสม โดยในตลาดขณะนี้มีคู่แข่งหลัก ๆ ก็แค่รถยนต์สุดแนวอย่างนิสสัน จู๊ค เท่านั้น

ในช่วงนี้ถือเป็นการทำตลาดกันอย่างจริงจัง ก่อนที่คู่แข่งตัวจริงอย่างฮอนด้า วีเซลจะตามมาเปิดตัวห่าง ๆ ในช่วงก่อนสิ้นปีนี้ ตัวเอคโค่สปอร์ตเองก็เป็นรถที่มีข้อดีเยอะ ข้อด้อยพอสมควร โดยรวม ๆ แล้วถ้าต้องการรถกลุ่มนี้ไปใช้งานจริง ๆ ก็ถือว่าไม่เลวร้ายอะไร

ภายนอกทรงกล่อง เสริมหล่อด้วยรายละเอียด

รูปร่างหน้าตาภายนอกของเอคโค่สปอร์ตนั้นให้ความรู้สึกของคำว่ารถทรงกล่องได้อย่างชัดเจน ด้วยตัวถังทรงเหลี่ยมที่ไม่ได้พยายามเน้นเรื่องรูปทรงโค้งมนเหมือนรถยนต์ยุคใหม่ ซึ่งก็กลายเป็นจุดเด่นในด้านดีไซน์ที่มองปราดเดียวก็รู้เลยว่าเป็นรถอะไร

รูปทรงของรถออกแบบมาในทรงเอสยูวีที่มีระยะสูงของรถจากพื้นมากกว่ารถยนต์นั่ง ซึ่งเป็นจุดขายในเรื่องของการที่สามารถลุยได้มากกว่าปกติ และในการใช้งานจริงก็ทำให้การปีนป่ายพื้นที่ไม่สูงมากนักเป็นเรื่องง่ายดาย ถ้ามีความจำเป็นต้องตะกายฟุตบาธต่าง ๆ ก็ทำได้ไม่ยาก

ฟอร์ดเองก็พยายามเสริมแต่งรายละเอียดของรถคันนี้ให้ดูมีลูกเล่นต่าง ๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าโครเมียม แร็คหลังคาที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสีเมทัลลิก ฝาครอบล้ออะไหล่สีเดียวกับตัวรถ ออกแบบมาได้อย่างลงตัว

บานประตูหลังแบบเปิดออกด้านข้างนั้น น่าจะเป็นจุดดีในด้านการใช้งานที่ทำให้การขนของเข้าออกทำได้อย่างง่ายดาย แม้จะสวิงออกไปได้ไม่สุดนักก็ตาม ซึ่งถ้าเป็นคนขับที่ตัวไม่สูงนักน่าจะชอบ เพราะไม่ต้องกระโดดคว้าบานประตูหลังเมื่อต้องการปิดเหมือนรถรุ่นอื่น ๆ ทั่วไป

เครื่องยนต์เบนซินจับคู่กับเกียร์เพาเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด

อย่างที่บอกว่าฟอร์ดเองแชร์พื้นฐานของรถคันนี้กับเฟียสต้ามาเลย เพราะฉะนั้นเครื่องยนต์และระบบเกียร์จะเป็นรุ่นเดียวกันเป๊ะ แต่น่าจะมีการเซตอัพเล็ก ๆ ที่ทำให้มีกำลังและแรงบิดสูงกว่าในตอนที่อยู่ในเฟียสต้าเล็กน้อย และได้รับการปรับอัตราทดเฟืองท้ายใหม่ เพื่อให้เหมาะกับรถที่มีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น

เครื่องยนต์ดูราเทคแบบ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 110 แรงม้าที่ 6,300 รอบต่อนาทีและให้แรงบิดสูงสุดที่ 142 นิวตันเมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์เพาเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด ที่ยกมาจากเฟียสต้าเช่นเดียวกัน ไปที่ล้อหน้าในการขับเคลื่อนรถ

การตอบสนองของเครื่องยนต์เป็นแบบจัดจ้าน รอบเครื่องยนต์สูงเกือบตลอดเวลา ในเวลาเร่งแซงนั้นจะรู้สึกว่าเครื่องยนต์เร่งรอบไปสูงก่อนที่เกียร์จะตอบสนอง ซึ่งทำให้รู้สึกว่าน่าจะเปลืองน้ำมันเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

ในเรื่องของการขับขี่เป็นไปได้อย่างเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ ไม่ให้อารมณ์จี๊ดจ๊าดเหมือนเฟียสต้า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวรถที่สูงขึ้นทำให้มีอาการต้านลมและอาการโคลงเคลงมากกว่า ถ้าไม่พอใจกับการขับแบบนี้ แนะนำให้เข้าโหมดสปอร์ตแล้งชิฟท์เกียร์เอง จะทำให้ขับขี่สนุกขึ้น

ภายในโอ่โถง ของเล่นเพียบพร้อม

อย่างที่กล่าวมาตอนแรกแล้วว่าของเล่นที่ติดตั้งมาค่อนข้างเพียบพร้อม โดยเฉพาะซันรูฟที่ใส่มาในรุ่นนี้ถือว่าเป็นของเล่นใหม่สำหรับรถยนต์ในกลุ่มบี-คลาสเลยทีเดียว นอกจากนี้ ฟอร์ดยังให้อุปกรณ์ของเล่นทั้งหมดมาอย่างครบครันแบบไม่ต้องคิดไปแต่งอะไรเพิ่มเติม

ข้อดีของห้องโดยสารของฟอร์ด เอคโค่สปอร์ตก็คือตำแหน่งการนั่งของเบาะหลังที่ดูดี นั่งสบาย และน่าจะใช้งานได้ดีกว่าคู่แข่งอย่างเป็นทางการ การรองรับน้ำหนักของเบาะก็ถือว่าดี ขับทางไกลแล้วไม่ค่อยเกิดอาการเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวสักเท่าใด

พื้นที่เก็บสัมภาระตอนหลังสามารถเพิ่มได้ด้วยการพับเบาะแถวกลาง ซึ่งทำให้สามารถขนของชิ้นใหญ่โตไปได้อย่างง่ายดาย และหากไม่พับเบาะลงมาก็ยังสามารถบรรจุของได้มากกว่าคู่แข่งเล็กน้อย แถมยังไม่ลืมผ้าคลุมสำหรับห้องเก็บสัมภาระมาให้อย่างครบครัน

มาตรวัดที่หน้าตาแทบไม่แตกต่างจากเฟียสต้า แต่จริง ๆ มีปรับปรุงพวกตำแหน่งของช่องแอร์เล็กน้อย ก็ยังให้อารมณ์สปอร์ตด้วยลายเส้นและสีสันต่าง ๆ ขณะที่ระบบการใช้งานก็ยังเป็นอะไรที่ต้องเรียนรู้อยู่ดี หากต้องการจะใช้งานในชีวิตประจำวัน

ขับขี่ไม่จี๊ดจ๊าด ไม่เด่นแต่ก็ไม่ด้อยอะไร

ในการทดลองขับเอคโค่สปอร์ตนั้น ต้องบอกว่าเป็นรถที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรในความรู้สึกของผมเอง แม้จะให้เกียร์เพาเวอร์ชิฟท์มาแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ได้เห็นการปรับปรุงให้เหมาะสมกับน้ำหนักรถที่เพิ่มขึ้นมา ซึ่งอาจจะเพียงพอต่อการใช้งานในเมืองหลวง แต่ถ้าเอาออกไปต่างจังหวัดก็คงเหนื่อยหน่อย

แต่เอาจริง ๆ การตอบสนองของรถกลุ่มนี้ที่ทำตลาดอยู่ทั้ง 2 รุ่นก็ไม่ได้ให้อารมณ์จี๊ดจ๊าดอยู่แล้ว เป็นการเซตรถมาแบบขับไปเรื่อย ๆ เน้นในเมืองสัก 80-90% ออกต่างจังหวัดก็ได้แต่เป็นการขับขี่แบบไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พักกินกาแฟเสียมากกว่า

ถ้าต้องการรถยนต์ที่ตอบสนองในเรื่องของการขับขี่ ด้วยงบประมาณใกล้เคียงกันมีรถยนนต์นั่งขนาดกลางให้เลือกอีกหลายรุ่น แต่หากความต้องการอยู่ที่รถยนต์ยกสูง เก็บของได้มากกว่า ปีนป่ายลุยน้ำท่วมหรือพื้นถนนห่วย ๆ ได้มากกว่า เอคโค่สปอร์ตก็คงตอบสนองความต้องการนี้ได้ค่อนข้างดี

หรือจะรอให้ฟอร์ดตัดสินใจเอาเครื่องอีโคบูสต์มาลงก่อนค่อยตัดสินใจเป็นเจ้าของก็ไม่ได้เสียหายอะไร แต่อาจจะต้องจ่ายแพงขึ้นไปอีกมากพอสมควร แถมไม่รู้จะมาเมื่อไหร่เสียด้วยนี่สิ...

รายละเอียดทางเทคนิค 2013 ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต เทไทเนียม เอที

ราคาจำหน่าย	8.29 แสนบาท
เครื่องยนต์	ดูราเทค 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร
กำลังสูงสุด	110 แรงม้าที่ 6,300 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด	142 นิวตันเมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลัง	เพาเวอร์ชิฟท์ 6 สปีดลงสู่ล้อหน้า