รีวิว 2014 Lexus ES300h ใหม่ Mid Sized Sedan ที่หรูหรา นั่งสบายไม่แพ้รถเยอรมัน Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

รีวิว 2014 Lexus ES300h ใหม่ Mid Sized Sedan ที่หรูหรา นั่งสบายไม่แพ้รถเยอรมัน

Pon Piantanongkit
โดย Pon Piantanongkit
โพสต์เมื่อ 20 May 2557

เมื่องาน  Bangkok International Motor Show 2014  ที่ผ่านมานี้   ทาง Lexus Group โดย Toyota Motors  ประเทศไทย  ได้เปิดรถยนต์ Midsized Sedan หรู รุ่นใหม่ของค่าย   Lexus ES300h    ซึ่งถือเป็นรุ่นโฉม Generation ที่ 6 แล้ว ในตระกูล ES  กับนิยาม The Peak of Luxury

การที่ Lexus  ได้จับแทรก New ES ใหม่  ให้ทำตลาดอยู่ระหว่าง GS กับ IS   นั้นก็เพราะ ES300h  นี้เป็นรถยนต์ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FF)  ซึ่งอาจจะไม่ได้เน้นรูปแบบการขับขี่แบบสปอร์ตเหมือนรถขับเคลื่อนล้อหลัง อย่าง GS   เพราะใน ES ใหม่นี้  เน้นพื้นที่ห้องโดยสารที่สะดวกสบายหรูหรา มากกว่า และนั่นเองในวันนี้  19 พค. 2014  ทาง Lexus Group   โดย Toyota Motors  ก็ได้จัดทริปทดสอบรถ Lexus ES300h  คันนี้ขึ้นในรูปแบบ 1 day trip     โดยเริ่มเดินทางออกจากตึก All Season   โดยมีที่หมายยัง Black Mountain   หัวหิน  เพื่อพักทานอาหารกลางวัน  ก่อนที่จะขับเดินทางกลับมายัง All Season  อีกครั้ง เพื่อให้พวกเราได้ลองสัมผัสความหรูหรากันแบบพอหอมปากหอมคอ

ในการทดสอบครั้งนี้ทางเราได้รับมอบหมายให้ขับรถคันสีขาว  หมายเลข 06  รุ่น Premium     ซึ่งได้รับช่วงขับตั้งแต่  Black Mountain  กลับมายัง All Season  ซึ่งรวมเป็นระยะทางเกือบๆ 200 กม.

2014-Lexus-ES300h-GroupTest_35

เริ่มที่รูปลักษณ์ภายนอก    Lexus ES300h  ถือเป็นรถ Mid Sized Sedan  หรูแบบเต็มตัว  กับฐานล้อที่กว้างขึ้นถึง 45 มม.    ทำให้ตัวรถมีระยะฐานล้อถึง 2,820มม.  กับความยาวรถระดับ 4,900 มม.   และมีน้ำหนักตัว ร่วม 1.7 ตัน     ES300h  ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงาม สง่า  ทั้งจาก กระจังหน้าแบบ Spindle Grille  ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของ Lexus สมัยใหม่       โคมไฟหน้าแบบโปรเจ็คเตอร์ HID  ที่ปรับสูงต่ำ อัตโนมัติ   ร่วมกับไฟ DRL ในตัว    ที่บริเวณไฟท้าย นั้นได้ถูกดีไซน์ ให้มีครีบเรียงอากาศ  ช่วยจัดระเบียบลมปะทะด้วย

ในรุ่น Premium นี้จะได้ระบบ Auto Wiper  ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ โดยมีเซ็นเซอร์  ฝังอยู่ที่กระจกบานหน้า      ข้างบนหลังคา จะพบ Moon Roof  ติดตั้งมาให้เพิ่มความหรูหรา        ด้านล้ออัลลอย  เลือกใช้ขอบ 17”  หุ้มยาง Yokohama DB E70   ไซส์ 215/55/17   เพื่อความสุนทรีย์ในการโดยสารมากกว่า การขับขี่แบบเน้นสมรรถนะ

Lexus ES300h มีสีตัวถังให้เลือก สูงถึง 10 สี ได้แก่    Silver Blue Metallic,  Red Mica Crystal Shine,  Fire Agate Metallic,  Lapis Lazuli Mica,  White Pearl Crystal Shine,  Mercury Gray Mica,  Platinum Silver Metallic,  Sleek Ecru Metallic,  Starlight Black,  Glass Flake Black

2014-Lexus-ES300h-GroupTest_65

รูปโฉมภายใน   ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาในห้องโดยสาร  จะพบกับห้องโดยสารที่ดูโอ่โถงหรูหรา  ภายได้ถูกปรับปรุงเรื่องของการจัดวาง ใหม่     ซึ่งถือเป็นจุดขายสำคัญของ ES300h คันนี้เลยก็ว่าได้     ห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุหนังแท้สีดำ แบบ Semi-Aniline  ในรุ่น Premium คันนี้   ซึ่งที่จริงแล้ว  ภายในมีให้เลือก สีเบจ Ivory  กับสีดำ    ที่แผงคอนโซลด้านบน  จะพบหน้าจอแสดงผล 8”   มาพร้อมระบบนำทางและปุ่ม RIT  ใช้ควบคุม    ในรุ่น Premium   นี้  พร้อมถ่ายทอดคุณภาพเสียงชั้นเยี่ยมผ่านสำโพง 8 ตัว แบบ Surround

2014-Lexus-ES300h-GroupTest_16

เมื่อหันลงมามองที่บริเวณแผงคอนโซลด้านหน้า จะพบนาฬิกาติดตั้งเป็นเอกลักษณ์ของรถ Lexus ในแทบทุกรุ่น  และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 zone   ซึ่งผู้นั่งตอนหลังสามารถปรับ    พร้อมระบบปรับสภาพอากาศ Nano-e  ช่วยไม่ให้อากาศภายในห้องโดยสารดูแห้งอึดอัด   จากการรักษาความชื้นสัมพัทธ์      เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง  พร้อมตัวดันหลัง  กับ memory 3 ค่า    ด้านหลังมีม่านบังแดดหลัง  และ ม่านที่แผงประตูคู่หลัง  ในรุ่น Premium  อีกด้วย

2014-Lexus-ES300h-GroupTest_58

ขุมพลังเครื่องยนต์  Atkinson Cycle   4 สูบ  ขนาด 2.5 ลิตร Dual VVT-I   พร้อมระบบมอเตอร์ไฟฟ้า  ให้พละกำลังรวมทั้งระบบ  205 (แรงม้า) PS@5,70rpm   และ แรงบิด  213Nm@4,500rpm      ซึ่งเมื่อเครื่องยนต์บล๊อกนี้จาก Camry Hybrid ถูกยกเข้ามาวางใน Lexus ES300h คันนี้  และได้มีการปรับจูนสมรรถนะใหม่     ได้ตัวเลขเคลม 0-100 กม./ชม. ใน  8.5 วินาที   ความเร็วปลายที่ 180 กม./ชม.    อัตราสิ้นเปลือง  21.8 กม./ลิตร   (ECE standard)

ในการขับขี่ สามารถปรับ   Drive Mode  ได้ 3 โหมด  Eco Normal Sport   ผ่านปุ่มวงกลมที่อยู่เหนือหัวเกียร์เล็กน้อย

2014-Lexus-ES300h-GroupTest_77

ใน  Eco Mode คันเร่งจะแข็งมาก  กดคันเร่งลงลึกไป 50%  คันเร่งยังดูหาไม่เจอ   ซึ่งเอาไว้เพื่อการขับขี่แบบเชื่องช้าค่อยๆ เปิดคันเร่ง เน้นประหยัดโดยเฉพาะ        และเมื่อบิดไปทางขวา Sport Mode  คันเร่งจะตอบสนองได้ไว ทันท่วงที ทันใจ    กดปุป  มาตามเท้าสั่ง  รอบสวิงฟาดมาทันที      และเมื่อต้องการปรับกลับมาโหมด Normal  เพียงกดลงไปตรงกลางปุ่ม ก็จะกลับสู่โหมดปกติ

ในการขับขี่ใช้งาน  พบว่ากำลังเครื่องยนต์รวม  205 แรงม้า   ถือว่าในช่วงออกตัว  ทำได้ดีในระดับที่ไม่แพ้รถ Compact Car พิกัด 2.0   และการแซงที่ความเร็วปานกลาง ขึ้นไป จนถึงความเร็วสูง  เป็นอะไรที่ดูน่าประทับใจมาก   จากความเร็ว 140 กม./ชม.   ขึ้นไปจนถึงระดับ 190 กม./ชม.  ถือว่าทำได้แบบอึดใจเดียวไม่นาน อย่างที่คิด  แต่จากที่เราได้ลองทดสอบ พบว่า ความเร็วไปตันอยู่ที่ 193 กม./ชม.  ไม่สามารถไหลไปได้เกินกว่านี้ แล้ว  แต่ก็ถือว่าเกินเคลม  ที่เคลมไว้เพียง 180กม./ชม. เท่านั้น

2014-Lexus-ES300h-GroupTest_28

ด้านอัตราสิ้นเปลืองช่วงที่เราเดินทางในทริปนี้อยู่ที่เฉลี่ยราว  12.5 กม./ลิตร   ซึ่งไม่ได้ขับแบบเน้นประหยัดแต่อย่างใด  ใช้ความเร็วเฉลี่ย 130 กม./ชม. และมีเร่งแซงในหลายครั้ง  รวมถึงลองไล่เพื่อหา Top Speed  ด้วย    ขณะที่ช่วงรถติดในเมือง  อัตราสิ้นเปลืองจะหล่นลงมาอยู่ที่ 10.98 กม./ลิตร

2014-Lexus-ES300h-GroupTest_78

ระบบส่งกำลัง   ใช้เกียร์แบบ  E-CVT    ขณะ Kick Down รอบสวิงขึ้นอย่างรวดเร็ว   แต่เมื่อยกคันเร่งรอบเครื่องจะตกลงทันทีแบบฮวบฮาบ  ซึ่งเกียร์อาจยังดูไม่ฉลาดเท่าที่ควรพอที่จะ Hold รอบสูงไว้ให้  ใช้เร่งแซง     แต่เมื่อลอง Shift Gear ที่ตำแหน่งคันเกียร์  ดูพบว่าหาก เกียร์อยู่ที่รอบสูงเกินไป  ระบบจะมีเสียงเตือนและจะไม่ Shift ลงให้  ซึ่งอาจทำให้เสียจังหวะ   การเหยียบคันเร่งลงเต็มเท้า ดูจะเป็นทางเลือกที่ง่ายดายกว่า    และในจังหวะที่เปลี่ยนเกียร์ขึ้นเกียร์  ก็ช่างนุ่มนวลไร้ซึ่งการกระชาก ใดๆ   จนแทบไม่รู้สึกถึงช่วงรอยต่อในการเปลี่ยนเกียร์

2014-Lexus-ES300h-GroupTest_04

ระบบบังคับเลี้ยว    พวงมาลัยผ่อนแรงไฟฟ้า  ขนาดใหญ่ชนิด 3 ก้านหุ้มหนัง  และไม้ Bird Eye Maple ช่วยให้ผิวสัมผัสระหว่างง่ามนิ้ว  จับได้อย่างสบายนิ้วมือ    สามารถปรับระดับได้ 4 ทิศทาง  แบบปรับไฟฟ้าที่ปุ่มด้านข้างซ้ายของพวงมาลัย          พวงมาลัยวงนี้  ช่วยผ่อนแรงขณะทำการสาววงเลี้ยว ได้อย่างเบาหวิว    และ ในทางที่ขับขี่ผ่านโค้งต่อเนื่อง จากซ้าย มาขวา ก็ทำให้การสาววงเลี้ยว ผ่านทางโค้งเหล่านั้น  ทำได้อย่างคล่องแคล่ว ว่องไว    แต่ในขณะที่ขับเจอทางโค้ง  กลับพบว่า  น้ำหนักพวงมาลัยนั้นดูจะเบาเกินไป หน่อย  จะต้องประคองพวงมาลัยในโค้งให้ดี    และที่ความเร็วสูงระดับ 140 กม./ชม. ขึ้นไปก็ยังพบว่า ดูจะเบาเกินอีกเช่นกัน

2014-Lexus-ES300h-GroupTest_40

ระบบช่วงล่าง  ด้านหน้าแบบแม็กเฟอร์สัน สตรัท   ด้านหลังแบบ Dual-Link    หุ้มยาง 215/55/17     อาการของช่วงล่าง   นั้นให้ความรู้สึกหนักแน่น   แต่ยังคงไว้ซึ่งความนุ่มนวลในห้องโดยสาร   การขับขี่ที่ความเร็วสูงบนพื้นผิวที่ราบเรียบ ให้ความรู้สึกนิ่งมั่นคงเหมือนขับอยู่ที่ความเร็วต่ำ    แต่เมื่อขับผ่านเส้นทางที่มีลอนคลื่น   จะพบว่าเสียงอาการของช่วงล่าง จะไปตามลอนคลื่นนั้นๆ    และในจังหวะที่เข้าโค้ง  ยังพบว่าด้วยช่วงล่างที่นิ่มตามประสารถ Midsized หรู  จึงอาจทำให้การเข้าโค้งนั้นยังไม่ดูแน่นหนึบเท่าที่ควร    สำหรับการขับขี่ผ่านลูกระนาด  หรือการเดินทางผ่านช่วงจั๊มพ์  คอสะพาน พบว่ามีอาการซับแรงได้ดี  ให้ความรู้สึกนิ่ม  แต่ยังคงความหนักแน่นเฟิร์ม  ไม่รู้สึกอาการหวิวบริเวณท้องน้อยให้เห็น

2014-Lexus-ES300h-GroupTest_38

ระบบเบรก   แบบดิสก์ 4 ล้อ  ที่มาพร้อมระบบช่วยเบรก  ABS, BA, EBD       ฟีลลิ่งแป้นเบรก  เหมือนไม่มีหม้อลมเบรก   อาจดู  ด้านๆ ทื่อๆ เท้าไปนิด  สำหรับบางคน    ซึ่งฟีลลิ่งแบบนี้ก็   คล้ายกับ Camry Hybrid   แต่การชะลอ รถที่ความเร็ว  ยังทำได้อย่างดีเยี่ยม  ไร้ปัญหา   แม้การหน่วงความเร็วจากระดับ 190 กม./ชม. ลงมาเหลือเพียง 120 กม./ชม.  ก็ถือว่าทำได้อย่างน่าประทับใจ   และไม่มีปัญหาในการหยุดรถแล้ว รู้สึกว่า เบรกไม่อยู่เท้าให้น่ารำคาญใจ

2014-Lexus-ES300h-GroupTest_34

ด้านระบบความปลอดภัย   มีมาให้ครบครันตามยุคสมัย   TRC (Traction Control), VSC (ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว),  HAC (ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน) , Airbag  ,Curtain Airbag  , Side Airbag,  Knee Airbag     และระบบช่วยจอด   กับกล้องมองหลัง

2014-Lexus-ES300h-GroupTest_41

สรุป Lexus ES300h   รถ Sedan หรูขนาดกลาง  ซึ่งถือเป็นนิยามใหม่ของ รถ Lexus  ที่มาพร้อมความหรูหรา  และ พื้นที่โดยสารที่นั่งสบายแบบจริงจัง    สมรรถนะในแบบรถขับเคลื่อนล้อหน้าที่ทำได้ค่อนข้างดี    แม้เกียร์ E-CVT  นี้ดูอาจจะไม่ชาญฉลาดนัก      แต่ระบบ Full Hybrid  ที่ขึ้นชื่อของ Toyota   เมื่อถูกนำมาวางใน Lexus ES300h นี้  และปรับจูนใหม่  มันกลับวิ่งดีกว่า Camry Hybrid  ทั้งที่น้ำหนักตัวก็มากกว่า

หากคุณกำลังมองหารถยุโรปหรู  อย่าง  BMW 520i,  520d   หรือ Mercedes  E-Class  Blue Tech Hybrid   ถ้าหากสนใจที่ความหรูหรานั่งสบาย  ในราคาระดับ 3 ล้านกลางๆ แล้วล่ะก็  ควรได้ลองสัมผัสความหรูหราจาก Lexus  ES300h   ดูสักหน่อย  ว่าคุณภาพงานของรถญี่ปุ่นในราคาไล่เลี่ยกับ รถยุโรป  นี้มันดีพอที่จะได้รับคำนิยามว่า The Peak of Luxury  หรือไม่

Lexus  ES300h  Luxury  ราคา 3.49 ล้านบาท   และ  Lexus ES300h Premium ราคา  3.89 ล้านบาท

ขอขอบคุณ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ส  สำหรับทริปทดสอบในครั้งนี้

ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver

2014-Lexus-ES300h-GroupTest_26

พบรถ Lexus และ Lexus ES มือ 2 ได้ที่ Thaicar.com

2014-Lexus-ES300h-GroupTest_44


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ