หลังจากที่เมื่อวานนี้ได้พาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 2014 ซูซูกิ เซเลริโอ ซึ่งเป็นรถอีโคคาร์รุ่นที่ 2 ของซูซูกิ ซึ่งแม้จะเป็นน้องใหม่ในตลาดรถยนต์ในประเทศไทย แต่ก็เป็นค่ายรถที่มุ่งมั่นในธุรกิจอีโคคาร์อย่างต่อเนื่องที่สุดรายหนึ่ง
ซูซูกิเองนั้นตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในตลาดอีโคคาร์ในประเทศไทย และในปีที่ผ่านมาก็สามารถรักษาแชมป์ในตลาดรถยนต์อีโคคาร์ แฮชท์แบ็กเอาไว้ได้ โดยมีซูซูกิ สวิฟท์เป็นหัวหอกในการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
และในปีนี้ ซูซูกิน่าจะเป็นผู้ประกอบการเพียงรายเดียวที่มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ และสินค้าใหม่รุ่นที่ 2 ของซูซูกิก็ยังเป็นรถนต์แฮชท์แบ็กอยู่ โดยได้ทำการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่ต้องการรถยนต์ที่ใช้งานในเมืองมากขึ้น โดยแลกกับมาด้วยค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของที่ลดลงไป
แม้จะยังไม่ประกาศราคาอย่างเป็นทางการจนกว่าจะถึงวันเปิดตัวในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ แต่ก็ได้รับการยืนยันมาค่อนข้างแน่นอนแล้วว่าซูซูกิจะทำการเปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้ให้มีสนนราคาต่ำกว่ารถอีโคคาร์ที่ราคาต่ำที่สุดในตลาด ที่มีคนทำราคาไว้ที่่ 3.8 แสนบาท
เพราะโดยแนวคิดของซูซูกิซึ่งเป็นเจ้าพ่อรถเล็กในตลาดโลกก็คือการทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงสินค้าของบริษัทได้ และการเปิดตัวรถยนต์เครื่องยนต์เล็กนั้น ก็เชื่อว่ายังมีกลุ่มลูกค้าที่พร้อมจะตัดสินใจเลือกคบหากับรถรุ่นนี้ในท้ายที่สุด โดยตั้งเป้าหมายการจำหน่ายที่ 1,000 คันต่อเดือน
รูปร่างภายนอกแปลกตา เน้นดีไซน์แบบตลาดยุโรป
รูปร่างหน้าตาภายนอกของเซเลริโอนั้น ไม่เป็นที่คุ้นตาของคนไทยสักเท่าไรนัก ด้วยรูปทรงที่แคบกว่าปกติ คือมีความกว้างของตัวรถราว 1.6 เมตร แต่กลับมาพร้อมความสูงเกิน 1 เมตรครึ่งและความยาวถึง 3.6 เมตร ซึ่งทำให้ตัวรถดูออกทรงสูง ๆ แคบ ๆ แปลกตา ไม่เหมือนรถญี่ปุ่นทั่ว ๆ ไป
เส้นสายออกมาในแนวแข็งและใช้เส้นตรงในการทำลายรอบคัน ซึ่งทำให้ตัวรถดูไม่อ้วนป้อมแบบทรงนิยมในการออกแบบอีโคคาร์ทั่วไป ซึ่งทำให้มองดูเหมือนว่ารถคันนี้ยิ่งเล็กลงไปอีก ขณะที่คู่แข่งทุกรายรวมถึงรถรุ่นแรกของค่าย ต่างก็ใช้เส้นโค้งในการเล่นกับตัวถังให้ดูป่องทั้งสิ้น
ซูซูกิเองมีแผนที่จะส่งรถคันนี้ไปทำตลาดในยุโรป ทำให้ต้องออกแบบรถที่เหมาะสมกับถนนหลาย ๆ แห่งในยุโรปรวมไปถึงรูปร่างของรถก็เช่นกัน ผมเดาว่าด้วยรูปทรงของรถที่หน้าแคบและมีความสูงของห้องโดยสารของรถพอตัว น่าจะเหมาะสมในตลาดตะวันตกมากพอสมควร
แม้จะเป็นรถเล็กที่ราคาย่อมเยา แต่การออกแบบภายนอกนั้นไม่ได้ตัดทอนในเรื่องของความทันสมัยและความสวยเก๋ลงไปแต่อย่างใด โคมไฟหน้าและหลังออกแบบมาอย่างลงตัว แม้จะใช้เทคโนโลยีหลอดไฟแบบดั้งเดิม แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งาน
ใน 3 รุ่นย่อยนั้นมีความแตกต่างกันในรายละเอียดเล็กน้อย ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือรูปแบบของล้อ ที่แม้จะเป็นล้อขนาด 16 นิ้วเหมือนกัน แต่ในรุ่นล่างสุดจะมาพร้อมกระทะล้อ รุ่นรองลงมามีฝาครอบมาให้ และในรุ่นท๊อปถึงจะเป็นล้อแมกซ์มาให้
รุ่นท๊อปยังมาพร้อมชุดแต่งรอบคันที่ติดตั้งมาให้เลย ทำให้รถดูหรูหราขึ้นอีกเล็กน้อย จุดที่น่าตำหนิก็คือการตัดที่ปัดน้ำฝนหลังในรุ่นล่างสุดออกไป ซึ่งจริง ๆ แล้วถือเป็นออพชั่นด้านการใช้งาน ซึ่งในประวัติศาสตร์เมืองไทยก็เคยมีค่ายรถที่โดนด่าเรื่องนี้มาแล้วแท้ ๆ
เครื่องยนต์เล็ก ขับขี่ในเมืองอย่างเลิศ ออกนอกเมืองก็พอไหว
เครื่องยนต์เค10บี แบบ 3 สูบ 12 วาล์ว ปริมาตรกระบอกสูบ 998 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 68 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 90 นิวตันเมตรที่ 3,500 รอบต่อนาที รองรับการใช้งานเชื้อเพลิงอี20 ซึ่งตามสเปกของอีโคคาร์ รถคันนี้ต้องประหยัดน้ำมันมากกว่า 20 กิโลเมตรต่อลิตร
ใช้โซ่ในการขับเครื่องยนต์ซึ่งส่งผลดีต่อายุการใช้งานที่ยาวนานตลอดอายุการใช้งานของเเครื่องยนต์ และมีระยะชักกระบอกสูบที่ยาวกว่า ส่งผลดีในเรื่องของการให้แรงบิดสูงสุดที่รอบต่ำกว่า โดยใช้อลูมิเนียมอัลลอยเข้ามาเพื่อให้น้ำหนักเครื่องยนต์ที่เบากว่า
แม้จะบอกว่าเป็นเครื่องยนต์เล็กที่สุดในท้องตลาด แต่ในเรื่องของการตอบสนองในการขับขี่ถือว่าไม่แตกต่างอะไรจากรุ่นพี่ที่ใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตรมากนัก การออกตัวในช่วงแรกอาจจะอืดไปบ้าง ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะมาจากเกียร์ซีวีทีที่ไม่ตอบสนองแบบปรู๊ดปร๊าดอยู่แล้ว
การทำความเร็วที่ระดับ 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงซึ่งเป็นความเร็วที่เหมาะสมต่อการใช้งานทำได้อย่างไม่มีปัญหา และยังเหลือกำลังให้วิ่งแซงได้ต่อเนื่องแบบไม่ต้องเค้นกำลังของเครื่องยนต์มากไปที่ระดับ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ง่าย ๆ แต่หากคิดจะทำความเร็วมากกว่านั้น ก็ต้องทนฟังเสียงเครื่องยนต์โหยหวนตามมา
เรื่องของการใช้งานในเมืองไม่มีปัญหาอะไร แถมหากต้องการออกไปต่างจังหวัดที่มีระยะการเดินทาง 200-300 กิโลเมตรก็ยังสามารถใช้งานได้อยู่ เครื่องยนต์สามารถพาคุณวิ่งไปไหนมาไหนได้อย่างสบาย ด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันจากการใช้งานจริงที่ระดับ 17-18 กิโลเมตรต่อลิตรสบาย ๆ
งานประกอบภายในเนี๊ยบ ของเล่นไม่มาก นั่งไม่ค่อยสบาย
ด้วยความที่เป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กนั้น แน่นอนว่าความคาดหวังในเรื่องของความสะดวกสบายก็ย่อมต้องลดลงไปด้วย เอาจริง ๆ ก็ยังไม่มีอีโคคาร์คันไหนที่นั่งได้สบาย 100% เหมือนกัน เซเลริโอก็อยู่ในข่ายนี้ เมื่อห้องโดยสารมีขนาดเล็กลงมาก การจัดวางตำแหน่งเบาะที่นั่งก็ทำได้ยากขึ้นตามไปด้วย
แม้จะให้พื้นที่วางขาด้านหน้าและด้านหลังที่มากพอ และเฮดรูมที่มีมาให้อย่างล้นเหลือ แต่ในเรื่องของลักษณะเบาะที่ค่อนข้างสั้นทั้งด้านหน้าและด้านหลังทำให้ไม่สบายเวลานั่ง เบาะที่นั่งไม่ค่อยรับน้ำหนักตัวในทุกตำแหน่ง ทำให้การเดินทางระยะไกลน่าจะเมื่อยเอาเรื่อง
เบาะหน้ามาพร้อมที่รองศีรษะแบบปรับไม่ได้ ขณะที่เบาะหลังไม่มีหมอนรองศีรษะมาให้ ทำให้นั่งแล้วหัวลอย ดูยังไงก็เมื่อยคอแน่นอน ตำแหน่งของเบาะที่นั่งสูงกว่าตำแหน่งนั่งปกติ ซึ่งส่งผลดีต่อการขับขี่ที่ทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ดีขึ้นตามมาด้วย
ตำแหน่งของเกียร์อัตโนมัติวางอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม พวงมาลัยมีขนาดเล็กไปสักเล็กน้อยและยังใช้วัสดุที่ทำให้รู้สึกลื่นมือเวลาจับ ขณะที่งานประกอบภายในทำได้อย่างดี ด้วยมาตรฐานงานประกอบที่รับต่อเนื่องมาจากรุ่นพี่ ทำให้รถไม่ได้ดูราคาถูกเหมือนที่คาด
ไปลองขับแล้วเลือกคันที่ใช่จริง ๆ
ในเมื่อผู้บริหารยังไม่ยอมบอกราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการออกมา ก็เลยมีการคาดการณ์กันว่ารถคันนี้น่าจะมีระดับราคาที่ราว ๆ 3.5 แสนบาทบวกลบกันไป ซึ่งหากออกมาที่ราคานี้จริง ๆ ก็ถือเป็นราคาจำหน่ายที่คุ้มค่า
กลุ่มลูกค้าใหม่ที่ซูซูกิมองอยู่ก็คือกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อไม่มาก แต่อยากได้รถยนต์เพื่อใช้งานในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงกลุ่มนักศึกษา วัยรุ่นและบุคคลที่เริ่มทำงาน ทำให้มีการเตรียมสีไว้รองรับกลุ่มยัง เจน มากมายถึง 8 สีกันเลยทีเดียว
ในเรื่องของการใช้งานนั้น อย่างที่บอกว่าหากความต้องการอยู่ที่การใช้งานในเมืองเป็นหลัก วิ่งออกนอกเมืองบ้างเล็กน้อย ขับรถในช่วงความเร็วที่กฎหมายกำหนด รถคันนี้ก็คงตอบสนองความต้องการเหล่านั้นได้ แต่หากจะเอาไปวิ่งปรู๊ดปร๊าดเร่งแซงก็ดูจะมากไปนิด
เพราะจริง ๆ แล้วมันก็ดูจะเป็นการใช้งานรถยนต์ผิดประเภทมากเกินไป แม้จะมีเสียงร่ำลือมาว่ามีคนทำความเร็วได้ถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ถามหน่อยว่าคุณจ่ายเงินซื้อรถยนต์เครื่องยนต์ 1.0 ลิตรมาเพื่ออะไรกันแน่
อยากให้ไปลองก่อนครับสำหรับเซเลริโอ ไม่อยากให้ความรู้สึกที่มีกับรถยนต์เครื่อง 1.0 ลิตรกลายเป็นอคติที่ทำให้รู้สึกว่ารถคันนี้ไม่ดีหรือไม่ไหว จะใช้งานบนท้องถนนได้หรือ เพราะได้ทำการพิสูจน์มาให้แล้วว่าทำได้จริง และทำได้ดีในเงื่อนไขของตัวรถเองเสียด้วย
แว่วมาว่าทางผู้บริหารก็อยากให้คนเข้ามาทำการทดสอบเหมือนกัน และเตรียมแคมเปญแจกรถให้ผู้ที่มาทำการทดลองขับที่โชว์รูม ซึ่งยังไงคงต้องติดตามรายละเอียดกันอีกครั้ง!!!
รายละเอียดทางเทคนิค 2014 ซูซูกิ เซเลริโอ
เครื่องยนต์ | เค10บี แบบ 3 สูบ 12 วาล์ว ขนาด 998 ซีซี. |
กำลังสูงสุด | 68 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาที |
แรงบิดสูงสุด | 90 นิวตันเมตรที่ 3,500 รอบต่อนาที |
ระบบส่งกำลัง | เกียร์อัตโนมัติซีวีที |
ความจุถังน้ำมัน | 35 ลิตร |
รองรับเชื้อเพลิง | สูงสุดถึงอี20 |
ขอขอบคุณ ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) สำหรับรถยนต์ทดสอบในครั้งนี้
ผู้เขียน golfautospinn พูดคุยกันได้ที่ pisan.i@icarasia.com และเฟซบุ๊ค Autospinn.Fans
ชมภาพ 2014 ซูซูกิ เซเลริโอ เพิ่มเติมได้ ที่นี่
พบซูซูกิมือสองได้ที่ไทยคาร์ดอทคอม
ความคิดเห็น