เดินหน้าบุกตลาดประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบแล้วสำหรับรถยนต์ยี่ห้อเอ็มจี ที่หลังจากเข้ามาประกาศแผนงานตั้งโรงงานในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ ก็ส่งรถยนต์รุ่นแรกจากสายการผลิตอย่าง เอ็มจี6 เข้าทำตลาดทันที
เอ็มจี6 คือรถยนต์คันแรกหลังการเปลี่ยนถ่ายมือผู้ถือหุ้นรายใหญ่มาเป็นเอสเอไอซี มอเตอร์ และยังคงยึดมั่นหลักการออกแบบทั้งด้านดีไซน์และวิศวกรรมทั้งหมดจากโรงงานที่เบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษไว้อย่างเหนียวแน่น
เมื่อเอ็มจีทำการประกาศราคารถยนต์รุ่นนี้ออกมาสู่สาธารณชน ก็ได้รับปฏิกิริยาที่ไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะราคาจำหน่ายถือว่าไม่ได้เป็นรองผู้ผลิตรถสัญชาติญี่ปุ่น แถมในรุ่นท๊อปที่เรานำมาทดสอบยังปาเข้าไปถึง 1.128 ล้านบาท
โอเค รถยนต์แบรนด์นี้มีเกียรติประวัติที่ยิ่งใหญ่ มีเทคโนโลยีจากทวีปยุโรปที่ส่งผ่านกันมา มีเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรเทอร์โบรุ่นแรกของซี-เซกเมนต์ มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง มีช่วงล่างที่เน้นความหนักแน่น แต่มันจะเพียงพอหรือไม่ที่จะทำให้ลููกค้ายอมเปลี่ยนใจจากรถญี่ปุ่น แล้วควักกระเป๋าซื้อรถรุ่นนี้
ไม่มีอะไรจะช่วยตัดสินใจได้ดีไปกว่าการทดลองขับ ซึ่งเอ็มจีก็ได้จัดให้อย่างรวดเร็วทันใจเหมือนกัน เพื่อให้เราได้รับรู้กันว่า รถยนต์ที่สืบสัญชาติอังกฤษนั้น มีความเป็นสปอร์ตอยู่ในดีเอ็นเออย่างเต็มพิกัด ไม่แพ้ใครหน้าไหนทั้งสิ้น
ลองจนจบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้องบอกว่ารถคันนี้สปอร์ตจริง แต่เป็นความสปอร์ตที่ยังห่างไกลคำว่ากลมกล่อมลงตัวนัก...
ภายนอกแปลกใหม่ ดูนานสักพัก จะรักได้ไม่ยาก
การออกแบบภายนอกของเอ็มจี6 นั้น แม้ว่าการมองในครั้งแรกจะให้ความรู้สึกแปลกประหลาดตาไปบ้าง แต่เมื่อมองไปนาน ๆ ดูในรายละเอียดแล้ว ก็เป็นรถที่หน้าตาชวนให้หลงรักได้ไม่ยาก โดยเฉพาะในรุ่นฟาสต์แบ็คคันนี้
ความโดดเด่นของรถในรูปทรงนี้ ทำให้ดูรถมีความใหญ่โตกว่ารถซีเซกเมนต์สักเล็กน้อย เส้นสายที่นำมาใช้เกือบทั้งคันเป็นเส้นโค้งที่ตีโป่ง ทำให้ขนาดของรถขยายออกไปด้านข้างมากขึ้น จนมองเผิน ๆ เหมือนจะล้ำหน้าเพื่อนร่วมเซกเมนต์ไปบ้าง
โคมไฟหน้าออกแบบมาอย่างมีมิติ ด้วยการแยกตำแหน่งของไฟแต่ละประเภทออกจากกัน แม้จะรวมอยู่ในโคมเดียวกันก็ตาม การไล่เส้นสายของรถเป็นไปอย่างสวยงามมีมัดกล้ามพองาม ขณะที่ล้อแม็กซ์ 17 นิ้วออกแบบมาอย่างสวยงามวิจิตรใช่ย่อย
ทริมของตัวถังภายนอกจะเน้นสีดำมันที่ตัดกับพื้นสีของรถอย่างลงตัว ทำให้รถมีบรรยากาศที่สปอร์ตและให้อารมณ์ดุดันมากขึ้น ขณะที่เสริมความหรูหราเข้าไปด้วยเสาอากาศแบบครีบปลาและซันรูฟขนาดเล็กเหนือตำแหน่งผู้โดยสารตอนหน้า
ด้านหลังของตัวรถที่เป็นตัวถังแบบฟาสต์แบ็ค มาพร้อมกับแนวเส้นหลังคาที่สูงกว่าเวอร์ชั่นซีดาน และเป็นของเล่นใหม่สำหรับตลาดรถยนต์กลุ่มซีเซกเมนต์ ที่หากไม่เป็นซาลูนก็จะเป็นแฮชท์แบ็คไปเลย ซึ่งตัวถังแบบนี้จะดูสปอร์ตกว่าแฮชท์แบ็คและมีอรรถประโยชน์ที่เหนือกว่าซีดาน
เป็นรถที่ไม่ใช่งามแบบโฉบเฉี่ยว แต่นั่งดูไปนาน ๆ ในรายละเอียดแล้วจะชอบมากขึ้นเรื่อย ๆ
เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 เทอร์โบ จับคู่เกียร์ดูอัลคลัตช์ 6 สปีด
เป็นครั้งแรกของเซกเมนต์นี้เช่นเดียวกัน กับการแนะนำเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ซึ่งทำงานสอดประสานกับเกียร์อัตโนมัติแบบดูอัลคลัตช์ 6 สปีด ที่เอ็มจีเชื่อมั่นว่าจะตอบสนองต่อการขับขี่แบบสปอร์ตได้อย่างดีเยี่ยม
เครื่องยนต์รุ่นนี้ของเอ็มจี สามารถรีดแรงม้าได้สูงสุด 161 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 215 นิวตันเมตรตั้งแต่ 2,000-4,500 รอบต่อนาที โดยตามสเปกระบุว่ามีการล็อกความเร็วสูงสุดที่ 193 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และใช้เวลาวิ่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่ชั่วโมงในเวลาน้อยกว่า 9 วินาที
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ระบุไว้ 7.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรน่าจะเป็นการขับขี่แบบตั้งใจจะให้ประหยัดเป็นพิเศษ ในการขับขี่จริงไม่น่าจะทำได้ เพราะว่าลักษณะของเครื่องยนต์ที่ลากรอบเครื่องค่อนข้างสูงตลอดกเวลา
ในการขับขี่จริงนั้น ในโหมดการขับขี่แบบธรรมดาอาจจะรู้สึกตื้อ ๆ ในช่วงของการออกตัว เครื่องยนต์ทำงานที่รอบสูง และเกียร์ทำงานแบบไม่ต่อเนื่องกันเท่าที่ควร ทำให้การขับขี่นั้นสนุกแต่ไม่เต็มที่เท่าไรนัก
วิธีการแก้ไขปัญหาที่ง่ายที่สุดก็คือการผลักคันเกียร์ไปทางขวาเพื่อเข้าโหมดสปอร์ต อาการติด ๆ ขัด ๆ ของระบบต่าง ๆ จะเริ่มดีขึ้น และจะทำให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างไหลลื่นจนเข้าใกล้ความเร็วสูงสุดได้ไม่ยาก หากมีทางให้วิ่งเพียงพอ
ปัญหาก็คือเสียงเครื่องยนต์และเสียงลมปะทะทางด้านหน้าของตัวรถที่ดูดังไปหน่อย และรบกวนสมาธิอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าจะบอกว่าเพื่อให้อารมณ์แบบสปอร์ตก็คงว่ากันไม่ได้ แต่ฟังนาน ๆ แล้วแอบรำคาญมากกว่า
ภายในผิดที่ผิดทาง อุปกรณ์ขาด ๆ เกิน ๆ
อุปกรณ์ภายในที่ให้มา กลายเป็นเรื่องที่ถูกกล่าวถามถึงมากที่สุดหลังจบการทดสอบ เพราะหลาย ๆ คนต่างก็รู้สึกตรงกันว่าอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาภายในรถคันนี้นั้น ดูไม่ค่อยเหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันของคนไทยสักเท่าไรนัก
ไม่ว่าจะเป็นที่วางแก้วน้ำที่ให้มาเพียงตำแหน่งเดียว ช่องต่อยูเอสบีและ Aux in ที่ไปติดตั้งในตำแหน่งที่เก็บเศษเหรียญด้านขวามือของคนขับ ที่เปิดฝากระโปรงหน้าอยู่ที่ด้านซ้ายมือของผู้โดยสารตอนหน้า
ขณะที่ปุ่มการควบคุมต่าง ๆ ที่ให้มาก็อยู่ในตำแหน่งที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับการใช้งานสักเท่าใดนัก ตำแหน่งของระบบปรับอากาศถูกซ่อนไว้ที่ด้านล่างของแผงคอนโซลหน้า ตำแหน่งด้านบนเป็นระบบเครื่องเสียงที่ควบคุมยากเอาเรื่อง ขณะที่ปุ่มคอมมานด์หน้าจอเล็กอยู่กึ่งกลางคอนโซลพอดี
ยิ่งปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยยิ่งไม่ต้องพูดถึง แม้จะดูเหมือนด้านซ้ายจะเป็นการควบคุมเครื่องเสียง ขวาเป็นการควบคุมระบบความเร็วอัตโนมัติก็ตาม แต่ปุ่มปิดเสียงกลับอยู่ที่ตำแหน่งในสุดของฝั่งขวามือแทนข้าง ๆ ครูสคอนโทรลนั่นแหละ
หน้าจอดิติจอลแบบโบราณทำให้รถดูราคาถูกลงเล็กน้อย แต่งานประกอบภายในรถถือว่าทำออกมาได้อย่างไร้ที่ติ งานประกอบเนี๊ยบกว่าบางบริษัทที่ผลิตรถออกมานาน ๆ เสียอีก ขณะที่หน้าตาของแผงคอนโซลพยายามออกแบบมาให้ทันสมัยงามตา
เบาะที่นั่งแบบห่อหุ้มตัวผู้โดยสารเป็นหนังพร้อมเดินด้ายแดงให้อารมณ์สปอร์ต และนำเทคนิคเดียวกันไปใช้กับหนังหุ้มคันเกียร์ ทำให้บรรยากาศในรถดูสปอร์ตขึ้น หากไม่เหลือบตาไปมองผ้าหุ้มหลังคาสีอ่อนด้านบนศีรษะ
ขาด ๆ เกิน ๆ บางอย่างน้อยไป บางอย่างมากไป น่าจะเป็นคำสรุปที่ดีสำหรับห้องโดยสารรถคันนี้...
ช่วงล่างที่เลอค่า พวกบ้าขับรถจะต้องชอบ
เอาล่ะ มาถึงจุดที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องหาอะไรมาเปรียบเกี่ยวกับรถคันนี้อีกแล้ว อย่างที่เรารู้กันว่าเอ็มจี6 คือเจ้าของรางวัลรถยนต์ที่ควบคุมได้อย่างยอดเยี่ยมจากนิตยสารบางเล่มมา แน่นอนว่าแม้แต่ทีมงานของเอ็มจีก็พยายามชูจุดขายนี้เช่นกัน
ช่วงล่างที่ไว้ใจได้ เฟิร์ม แน่นหนึบ ในทุกย่านความเร็ว ไม่ว่าคุณจะขับรถไปจ่ายตลาด หรือขับรถไล่ตามลูกหนี้ที่ขับรถยี่ห้ออื่นหนีด้วยความเร็วสูงก็ตาม ตัวรถนั้นนิ่งมาก และให้ความรู้สึกมั่นใจเป็นอย่างยิ่งในทุก ๆ ย่านความเร็ว
เอาล่ะว่าพวงมาลัยของเอ็มจี6 นั้นหนักมาก เมื่อเทียบกับรถยนต์ยุคใหม่ ๆ และไม่ได้สัมผัสถึงระบบผ่อนแรงที่ความเร็วสูง แต่ในการใช้งานจริงนั้น พวงมาลัยของรถกลับให้ความรู้สึกที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับรถมากขึ้น
เอาเป็นว่าถ้าคุณชอบรถที่ให้การตอบสนองแบบปรู๊ดปร๊าด ช่วงล่างที่หนักแน่น เอ็มจี6 น่าจะเป็นรถที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ นั่นก็ต้องแลกกับอุปกรณ์แบบรถสปอร์ตที่เอ็มจีเลือกติดตั้งให้มาที่อาจจะไม่ตรงใจใครหลาย ๆ คน
จริง ๆ แล้วการเปิดตัวของเอ็มจีในประเทศไทยก็ถือว่าเป็นงานใหญ่ เพราะเล่นมาเปิดตัวในเซกเมนต์ที่มีการแข่งขันรุนแรงและเจ้าของตลาดเดิมก็ถือว่ามีความแข็งแกร่งและจุดขายที่แตกต่างและโดดเด่นอยู่แล้ว เอ็มจีก็มีจุดขายเฉพาะตัวที่น่าสนใจ เพียงแต่จะตรงใจลูกค้าชาวไทยหรือไม่ก็อีกเรื่อง
แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นการเปิดตัวที่ไม่ทิ้งศักดิ์ศรีของแบรนด์ โดยเฉพาะช่วงล่างสุดหนึบนั้นน่ะ ของจริง!!!
รายละเอียดทางเทคนิค 2014 เอ็มจี6 1.8เอ็กซ์ เทอร์โบ ซันรูฟ ดีซีที
ราคาจำหน่าย | 1.128 ล้านบาท |
เครื่องยนต์ | เบนซิน เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 1.8 ลิตร |
กำลังสูงสุด | 161 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที |
แรงบิดสูงสุด | 215 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,500 รอบต่อนาที |
ระบบส่งกำลัง | เกียร์อัตโนมัติดูอัลคลัตช์ 6 สปีด |
ความเร็วสูงสุด | ล็อกด้วยระบบอีเลกทรอนิกส์ที่ 193 กิโลเมตรต่อชั่วโมง |
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย | 7.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร |
ขอขอบคุณ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับการทดสอบรถยนต์ครั้งนี้
ผู้เขียน golfautospinn พูดคุยกันได้ที่ pisan.i@icarasia.com และเฟซบุ๊ค Autospinn.Fans
ชมภาพ 2014 เอ็มจี 6 เพิ่มเติมได้ ที่นี่
ความคิดเห็น