เอสเอไอซี-ซีพี เล็งลงทุนเพิ่ม 3-4 หมื่นล้านบาท ขยายโรงงานเฟสสอง 500 ไร่ใน 3 ปีข้างหน้า มั่นใจผลิตรถ 6-7 รุ่นทำตลาดในไทย หลังเปิดโรงงานแห่งกำลังผลิต 5 หมื่นคันต่อปี เริ่มผลิต เอ็มจี6 ส่งตลาดไทยเริ่มไตรมาส 3 พร้อมส่งออกอาเซียนปีหน้า เล็งขยายผลิตเพิ่มเอ็มจี3 และเอ็มจี5 ในปี 2558
นายธนากร เสรีบุรี รองประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เปิดเผยว่าหลังจากที่ซีพีร่วมมือกับเอสไอเอซี มอเตอร์ ในการเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ยี่ห้อเอ็มจีในประเทศไทย ด้วยงบประมาณ 9,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 30 ไร่ที่จังหวัดระยอง ด้วยกำลังการผลิต 5 หมื่นคันต่อปี และได้วางแผนที่จะขยายการลงทุนเฟสสอง เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดในอนาคต
ทั้งนี้ เป้าหมายของเอสเอไอซี-ซีพี จะต้องมียอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทยราว 2 แสนคันหรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 10% ภายในปีที่ 3 ของการทำตลาด โดยอยู่ระหว่างการศึกษาแผนการลงทุนมูลค่า 3-4 หมื่นล้านบาท เพื่อลงทุนโรงงานผลิตแห่งใหม่ บนพื้นที่กว่า 500 ไร่ ซึ่งจะสามารถผลิตรถยนต์ได้ถึง 1.5-2 แสนคันต่อปี
“นอกจากโรงงานผลิตแล้ว ยังมีแผนที่จะนำศูนย์วิจัยและพัฒนา รวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ เข้ามาในประเทศไทย ซึ่งก็ต้องขึ้นกับการตอบรับของผู้บริโภชาวไทย โดยเอสเอไอซีมีแผนที่จะผลิตและเปิดตัวรถ 6-7 รุ่น ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์นั่งหรือเอสยูวี เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย”
สำหรับการทำตลาดรถยนต์เชิงพาณิชย์ยี่ห้อแม็กซัสนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของโครงการดังกล่าวได้ แต่ยืนยันว่าจะต้องเป็นการผลิตในประเทศไทยอย่างแน่นอน เนื่องจากรถยนต์นำเข้าไม่สามารถแข่งขันได้จากการเสียภาษีนำเข้ารถยนต์ในประเทศไทย
ด้าน นายหวู่ ฮวน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด เปิดเผยว่า เอ็มจี6 ที่ผลิตในประเทศไทยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ โดยในช่วงที่เหลือของปีจะมีการผลิต 2,000 คันสำหรับตลาดในประเทศ และจะเพิ่มเป็น 1.4 หมื่นคันในปีนี้ ซึ่งรวมถึงการผลิตเอ็มจี3 และเอ็มจี 5 รวมถึงตลาดส่งออก ที่จะเริ่มส่งออกไปยังประเทศมาเลเซียและตลาดอาเซียนในปี 2558
ทั้งนี้ ได้ขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการไว้รองรับในเบื้องต้น 15 แห่ง และจะขยายเพิ่มเป็น 30 แห่งภายในสิ้นปีนี้ โดยรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยนั้น จะใช้ชิ้นส่วนในประเทศ 45-50% เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสำหรับการส่งออกในภูมิภาค ซึ่งเอ็มจีเล็งที่จะส่งออกรถยนต์ที่ผลิตในไทยออกไปจำหน่ายยังตลาดรถยนต์พวงมาลัยขวาทุกแห่งที่มีศักยภาพในอนาคต
“เราวางเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสำหรับรถยนต์ที่ใช้พวงมาลัยขวา โดยจะศึกษาการทำตลาดส่งออกอย่างต่อเนื่อง และจะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้รองรับเชื้อเพลิงอี85 ในอนาคต จากที่เอ็มจี6 สามารถรองรับได้เพียงอี20 เท่านั้น”
เอ็มจี6 ที่เตรียมจะเปิดตัวในประเทศไทยในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ จะมาพร้อมเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรเทอร์โบ และเอ็มจีเตรียมแผนที่จะพัฒนาเครื่องยนต์รุ่นอื่น ๆ เพื่อนำมาติดตั้งในรถรุ่นนี้ในอนาคต โดยฮวนระบุว่ารถยนต์คันนี้จะมีราคาจำหน่ายที่เหมาะสม โดยเชื่อว่าผู้บริโภคจะเลือกที่การออกแบบที่โดดเด่นและสมรรถนะในการขับขี่ที่ดี มากกว่าการพิจารณาเรื่องราคาจำหน่ายเพียงอย่างเดียว
ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ แต่อย่างใด เนื่องจากเข้าใจว่าปัญหาการเมืองเป็นเรื่องปกติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในทุกประเทศ ซึ่งการที่เอ็มจีสามารถเดินหน้าได้ตามแผนงานที่วางไว้ ก็เป็นเรื่องที่ดีและพร้อมที่จะเดินหน้
ความคิดเห็น