ลองเก๋งซีเอ็นจี 2014 โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ซีเอ็นจี อยากประหยัดมาทางนีั้!!!

หากนับสายพันธุ์ของ 2014 โตโยต้า โคโรลล่า อัลติสนั้น รุ่นเครื่องยนต์ก๊าซธรรมชาติซีเอ็นจีนี้ถือเป็นรุ่นที่ 3 ที่โตโยต้าเปิดทำการทดสอบในประเทศไทยต่อเนื่องมาจากรุ่นท๊อปอย่าง 1.8 เนวี่และเอสสปอร์ต

เมื่อสถานการณ์ของบ้านเมืองเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ โตโยต้าก็กลับมาเดินหน้าทำตลาดรถยนต์นั่งอย่างจริงจังอีกครั้ง และเริ่มด้วยการพาสื่อมวลชนไปขับรถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอย่างซีเอ็นจีกันในทันที โดยรุ่นที่นำมาขับกันนั้นเป็นรุ่น 1.6อี ซีเอ็นจี เกียร์อัตโนมัติ ที่มาพร้อมสนนราคา 8.89 แสนบาท

และเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มีให้เลือกไม่มากสำหรับรถยนต์กลุ่มนี้ โดยแนวทางในการพัฒนาทั้งหมด เน้นไปที่การใช้งานที่ประหยัดเหนือกว่าระบบเครื่องยนต์เบนซินธรรมดา และเสริมเข้าไปด้วยความทนทานของระบบการใช้งานต่าง ๆ ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของลดลงอย่างเห็นได้ชัด

แม้ในภาพรวมของการทดสอบจะไม่ได้แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะอันโดดเด่นของรถมากมาย แต่หากมองไปที่เรื่องของการประหยัด ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนารถคันนี้ออกมา ก็ถือว่ารถคันนี้สอบผ่านฉลุุยกับค่าใช้จ่ายบนเส้นทางกทม.-ระยองไม่ถึง 200 บาทเท่านั้น

ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องของการเติมแก๊สซีเอ็นจี และไม่ได้เน้นการขับขี่แบบสั่งได้ รถคันนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย...

รูปลักษณ์ภายนอกไม่แตกต่าง ปรับปรุงในรายละเอียด

ตัวถังภายนอกนั้นแทบจะไม่มีอะไรแตกต่างจากอัลติสรุ่นมาตรฐานสักเท่าไรนัก หากไม่สังเกตเห็นตัวโลโก้แอดวานซ์ ซีเอ็นจีที่ฝากระโปรงท้ายแล้ว ก็ยากที่จะบอกได้ว่ารถคันนี้เป็นเวอร์ชั่นก๊าซธรรมชาติ โดยไฟหน้าฮาโลเจน กระจังหน้าโครเมียมและมือจับสีเดียวกับตัวรถถูกติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ตัวถังด้านหลังไม่ได้มีอะไรแตกต่างนอกจากโลโก้ที่ว่ามา โตโยต้าคุยว่ามีการปรับค่าสปริงด้านหลังใหม่เพื่อให้รองรับกับน้ำหนักถังซีเอ็นจีที่เพิ่มเข้ามาอีก 60 กิโลกรัม ขณะเดียวกันก็มีการจัดการพื้นที่ในห้องเก็บสัมภาระด้านหลังให้สามารถบรรทุกของได้พอสมควร

ภายใต้พื้นที่เก็บสัมภาระที่จัดเก็บมาอย่างสวยงามนั้น โตโยต้าเลือกใช้ถังก๊าซซีเอ็นจีรุ่นเก่าซึ่งเป็นเหล็กทั้งหมด โดยสามารถบรรจุก๊าซได้ 13-16 กิโลกรัม โดยระบุว่ามีความทนทานถึง 20 ปีในการใช้งานปกติ และหากเป็นการใช้งานหนักก็แนะนำให้เปลี่ยนถังที่ 9 ปี

และแน่นอนว่าเมื่อมีการติดตั้งน้ำหนักถังที่เพิ่มขึ้นมาระดับนี้ โตโยต้าก็ต้องทำการปรับในส่วนของช่วงล่างด้านหลัง ด้วยการปรับความของคอยล์สปริงให้สามารถรองรับน้ำหนักได้มากขึ้น เพื่อความมั่นใจของผู้ขับขี่ว่าจะควบคุมรถคันนี้ได้เป็นอย่างดี

เครื่องยนต์พัฒนามาโดยเฉพาะ ไม่แรงแต่ไม่เลวร้าย

เครื่องยนต์ไบฟิว 1แซดอาร์-เอฟอี คือเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนามาสำหรับรถยนต์ที่ใช้พลังงานธรรมชาติโดยเฉพาะ และถูกนำมาติดตั้งในรถรุ่นนี้ ซึ่งวิศวกรของโตโยต้าระบุว่าเป็นเครื่องยนต์ที่มีความเหมาะสมในการใช้งานในเรื่องของความทนทานและการใช้งานระยะเวลานาน

เครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียงแบบดูอัล วีวีที-ไอ ขนาด 1,598 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาทีและแรงบิดสูงสุด 154 นิวตันเมตรที่ 5,200 รอบต่อนาที มาพร้อมระบบซีเอ็นจีแบบหัวฉีด

ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติซีวีที 7 สปีดแบบเกต-ไทป์ พร้อมระบบเลือกเปลี่ยนเกียร์ได้ด้วยตัวเอง ส่งกำลังผ่านล้อหน้า เครื่องยนต์และเกียร์ให้การตอบสนองแบบเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ โดยวิ่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้จะดีกว่ารุ่นเดิม 7% แต่ก็ยังกินเวลานานถึง 16.27 วินาที

โตโยต้าระบุว่ามีการออกแบบเครื่องยนต์ให้มีความทนทานเพื่อรองรับการใช้งานซีเอ็นจีโดยเฉพาะ และมีวาล์วแปรผันอัจฉริยะคู่คอยปรับกำลังอัดให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งาน ทำให้รถคันนี้เป็นรถที่มีความเหมาะสมกับการใช้งานซีเอ็นจีมากที่สุด

แผงข้อมูลอัจฉริยะสำหรับผู้ใช้ซีเอ็นจีโดยเฉพาะ

สิ่งที่ดีงามที่สุดอีกเรื่องหนึ่งในรถคันนี้ก็คือแผงข้อมูลอัจฉริยะที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบของการติดตั้งระบบซีเอ็นจีไปอย่างมาก ด้วยการนำการแสดงผลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับซีเอ็นจีมาไว้ที่แผงแสดงผลข้อมูล โดยไม่ต้องมีแป้นควบคุมเหมือนในรถซีเอ็นจีรุ่นที่ผ่าน ๆ มา

แป้นกดเพื่อเปลี่ยนนระบบเชื้อเพลิงเหลือเพียงแป้นสีดำเล็ก ๆ ด้านขวามือของพวงมาลัยเท่านั้น ขณะที่การแสดงผลอื่น ๆ เช่น ปริมาณแก๊สที่เหลือ ไฟแจ้งระบบการทำงานของแก๊สหรือแม้แต่ระบบเตือนเมื่อเกิดปัญหา ล้วนแล้วแต่อยู่บนหน้าปัทม์ด้วยการทั้งสิ้น

นอกเหนือไปจากความสวยงามแล้ว แน่นอนว่ายังส่งผลดีในเรื่องของการที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากช่องแสดงข้อมูลลงไปที่ตำแหน่งติดตั้งแป้นเหมือนรถรุ่นอื่น ๆ ซึ่งก็ทำให้ตัวรถดูมีราคามากขึ้นมาอีกเล็กน้อย

ขณะที่การออกแบบภายในอื่น ๆ ไม่มีอะไรที่ต้องให้พูดถึงมากนัก เพราะนี่คือโคโรลล่า อัลติสรุ่นเกือบล่างสุดที่ทุกอย่างยังควบคุมด้วยมืออยู่ แผงคอนโซลโดยรวมออกแบบมาดีแต่ใช้วัสดุแบบธรรมดา ทำให้คนที่ต้องการความหรูหราสักเล็กน้อยอาจจะต้องมองผ่านรุ่นนี้ไป

ประหยัดค่าใช้จ่ายในสมรรถนะที่แสนธรรมดา

น่าจะเป็นจุดขายหลักของรถคันนี้ในเรื่องของความประหยัดเมื่อเทียบกับการใช้งานรถ เพราะในเรื่องของการขับขี่นั้น ก๊าซซีเอ็นจีถือเป็นพลังงานที่ถูกที่สุดแล้วในประเทศไทย เมื่อเทียบกับพลังงานเชื้อเพลิงประเภทอื่น ๆ

นอกจากนี้ โตโยต้ายังได้ทำให้รถคันนี้มีความต้องการในการดูแลบำรุงรักษาที่ลดลง เช่น การที่ไส้กรองก๊าซไม่ต้องเปลี่ยนตลอดอายุการใช้งาน เป็นต้น ก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายลงไปอย่างมาก จนสามารถระบุได้ว่ามีค่าใช้จ่ายไม่แตกต่างจากรุ่นธรรมดามากนัก

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของสมรรถนะนั้น ต้องบอกว่ารถรุ่นนี้ไม่ได้มีสมรรถนะที่โดดเด่นอะไร แม้การขับขี่ด้วยซีเอ็นจีจะทำได้ค่อนข้างดี แต่ในการเดินทางไกลก็ต้องถือว่ายังเหนื่อยอยู่เอาเรื่อง

การออกตัวของรถทำได้อย่างอืดอาด ในขณะที่การเร่งแซงนั้น เมื่อกดคันเร่งลงไป อาการ "ดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน" ก็จะแสดงออกมาให้เห็นอย่างค่อนข้างชัด แถมเมื่อความเร็วขึ้นไปถึงระดับสัก 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปแล้ว ตัวรถก็เริ่มมีอาการตื้ออย่างเห็นได้ชัด

ในขณะที่เรื่องอื่น ๆ ถือว่าทำได้ดีทั้งในเรื่องระบบช่วงล่างที่ไว้ใจได้ ให้ความนุ่มนวลพอสมควรบนพื้นฐานของการขับขี่ที่ยังไว้วางใจได้ ตัวรถให้ความสะดวกสบายพอตัวทั้งในฐานะผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

คำถามก็คือความต้องการที่แท้จริงของเจ้าของรถคันนี้คืออะไร ถ้าคำตอบอยู่ที่การประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว แน่นอนว่าอัลติส ซีเอ็นจี สามารถตอบสนองเรื่องนี้ได้อย่างเต็มที่ แม้ว่าจะต้องแลกมาด้วยค่าตัวที่ถือว่าเป็นระดับกลาง ๆ ของรถยนต์กลุ่มซี-เซกเมนต์ก็ตาม

แต่หากต้องการสมรรถนะที่โอเวอร์ล้นเหลือ ก็ต้องเข้าใจว่าการประหยัดพลังงานก็คงเป็นคนละเรื่องกัน แน่นอนว่าอาจจะต้องมองหารถรุ่นอื่น ๆ ที่ในสนนราคาเท่านี้ สามารถเลือกซื้อเลือกช๊อปได้อย่างมากมายหลายรุ่น

ซื้อรถให้ตรงกับการใช้งานของตัวเอง แต่ถ้าการประหยัดค่าใช้จ่ายคือเป้าหมายอันดับ 1 คันนี้โอเคเลย...

รายละเอียดทางเทคนิค 2014 โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ซีเอ็นจี

ราคาจำหน่าย	8.89 แสนบาท
เครื่องยนต์	เบนซิน 1.6 ลิตร พร้อมระบบก๊าซซีเอ็นจี
กำลังสูงสุด	122 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด	154 นิวตันเมตรที่ 5,200 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลัง	อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์
0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง	16.27 วินาที