หลังจากประกาศเดินหน้านำเข้ารถจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อหวังสิทธิประโยชน์ด้านภาษีมากขึ้น 2014 ฮุนได เอลันทร้า สปอร์ต คือรถยนต์รุ่นแรกหลังประกาศแผนดังกล่าวอย่างจริงจัง ที่ฮุนได ประเทศไทย หวังจะท้าชิงส่วนแบ่งตลาดจากค่ายรถญี่ปุ่นเสียที
ด้วยรูปร่างหน้าตา สิ่งของที่ให้มาและความโดดเด่นในด้านต่าง ๆ นั้น เอลันทร้าถือว่าไม่เป็นรองใคร เพียงแต่ชื่อชั้นของแบรนด์อาจจะยังห่างไกลจากคู่แข่งสัญชาติญี่ปุ่น การปรับแผนนำเข้าเพื่อทำราคามาท้าชนในครั้งนี้ น่าจะทำให้เราเห็นรถรุ่นนี้วิ่งไปมาบนท้องถนนมากขึ้น
เพราะแม้แต่ในรุ่นท๊อปอย่างจีแอลเอส เนวี่ ที่ใส่ทุกอย่างมาให้แบบไม่ต้องไปคิดติดตั้งอะไรเพิ่มในการใช้งานในชีวิตประจำวันนั้น ก็ยังมีราคาจำหน่ายในช่วงแนะนำที่ 8.98 แสนบาทเท่านั้น ซึ่งถือเป็นการทำราคาแบบดุเดือดและตั้งเป้าหมายเพื่อท้าชิงกับค่ายรถญี่ปุ่นอย่างจริงจัง
เรื่องรูปร่างหน้าตามีความโดดเด่นทั้งภายนอก-ภายใน เครื่องยนต์ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ไม่เลว อุปกรณ์ภายในติดตั้งมาให้อย่างครบครัน เหลือเพียงแค่ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคเพิ่มเติมเท่านั้น น่าจะสร้างกลุ่มลูกค้าเล็ก ๆ ของตัวเองได้ไม่ยาก
สินค้ามาดีและน่าสนใจแล้ว ต้องดูว่าฝ่ายการตลาดกับฝ่ายบริการจะวิ่งตามไหวหรือเปล่าล่ะ ทีนี้...
ภายนอกเพิ่มดีไซน์ สวย สปอร์ต ค่าสัมประสิทธิ์ต่ำ
ด้วยความคิดในการออกแบบให้ได้รถยนต์แนวสปอร์ต ฮุนไดจึงค่อนข้างเอาจริงเอาจังกับการออกแบบโครงสร้างตัวถังภายนอกให้ได้ออกมาซึ่งรถยนต์ที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำเพียง 0.28 ซึ่งส่งผลดีอย่างมากในการควบคุมรถที่ความเร็วสูง
ด้านหน้าของรถออกแบบมาให้ดูเพรียวและลู่ลม โดยเน้นการใช้เส้นโค้งรอบตัวรถเป็นหลักในการออกแบบทุกตำแหน่ง โดยมีจุดเด่นที่สุดที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาก็คือไฟแอลอีดี ไกด์ไลท์ที่โคมไฟหน้า ที่กลายเป็นจุดขายหลักที่ทำให้รถดูสวยงามมีมิติมากขึ้น
ไฟหน้าอัตโนมัติแบบ HID ติดตั้งมาในรุ่นท๊อป กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ให้ความโฉบเฉี่ยวกว่าเดิม และไฟท้ายที่ออกแบบมาอย่างโดดเด่น ทำให้ตัวรถมีความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวจากรุ่นเดิมพอสมควร
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวแบบแอลอีดีและไฟตัดหมอกที่พัฒนามาใหม่ช่วยเสริมความสปอร์ตให้กับตัวรถมากขึ้น และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขอบบางขนาด 215/45 R17 ทำให้ตัวรถดูเตี้ยลงและลู่ลมกว่าเดิม แต่ก็แลกมาด้วยการรับแรงสะเทือนที่เพิ่มมากขึ้น
เครื่องยนต์ตอบสนองดีในทุกบรรยากาศการขับขี่
คงไม่เป็นเรื่องเกินไปหากจะบอกว่าเครื่องยนต์ของเอลันทร้า สปอร์ตนั้น ให้การตอบสนองต่อการขับขี่ที่ดี ไม่ว่าคุณจะเป็นแม่บ้านที่ซื้อรถคันนี้เพราะหน้าตามันดูดี หรือจะเป็นนักขับที่เผลอ ๆ ต้องกดคันเร่งรีดสมรรถนะออกมาก็ตาม
เครื่องยนต์เอ็นยู 1.8 เอ็มพีไอ ขนาด 1,797 ซีซี.นั้น ตามสเปกให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาทีและให้แรงบิดสูงสุดที่ 178 นิวตันเมตรที่ 4,700 รอบ ถือว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ให้สมรรถนะระดับต้น ๆ เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ในระดับเดียวกัน แต่น่าเสียดายที่รองรับแค่อี20 เท่านั้น
ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ได้ด้วยตนเอง การตอบสนองของเกียร์เป็นไปอย่างรื่นไหลในทุกตำแหน่ง และหากต้องการการเร่งแซง เพียงแค่ตบเกียร์ลง 1 จังหวะ ก็จะช่วยเรียกกำลังมาใช้อย่างไม่อืดอาดอะไร
ความมั่นใจในการขับขี่มาจากระบบดิสก์เบรก 4 ล้อที่มาพร้อมระบบป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรกและระบบเสริมแรงเบรก ขณะที่ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัทและทอร์ชั่นบีมที่ด้านหลัง ให้ความสบายมากพอสำหรับผู้โดยสารทุกตำแหน่ง แต่นิ่งหนึบเมื่อทำความเร็ว
นอกจากนี้ ในรุ่นท๊อปยังมาพร้อมของเล่นใหม่อย่างระบบ Flex Steer ซึ่งเป็นระบบปรับเปลี่ยนน้ำหนักพวงมาลัยได้ 3 โหมด ตามความต้องการในการใช้งาน โดยน้ำหนักในการควบคุมพวงมาลัยจะเปลี่ยนไปพอสมควร แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ปรับช่วงล่างหรือการทำงานของระบบอื่น ๆ ตามแต่อย่างใด
ภายในออกแบบล้ำยุค ใส่อุปกรณ์มาเต็มพิกัด
ความพยายามของฮุนไดในการทำห้องโดยสารภายในให้มีความพร้อมและเพียงพอต่อการใช้งานโดยที่ผู้เป็นเจ้าของไม่ต้องไปติดตั้งอะไรเพิ่ม เห็นได้จากความสวยงามของคอนโซลรูปตัววายที่ต้องยอมรับว่าดูมีเสน่ห์ไม่ใช่หยอกเหมือนกัน
ในรุ่นจีแอลเอส เนวี่ มาพร้อมหน้าจอแบบสัมผัสความละเอียดสูงแบบ 7 นิ้ว ที่ในรถทดสอบยังจิ้มแบบติด ๆ ดับ ๆ อยู่ในบางจังหวะ แต่ก็ให้ความสามารถในการใช้งานที่น่าชื่นชม ระบบพื้นฐานอย่างเครื่องเล่นดนตรีและระบบนำทางเป็นของเล่นปกติที่ใครก็มีกันอยู่แล้ว
แต่ในรุ่นท๊อปนี้ ยังสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เนตผ่านระบบไว-ไฟ เพื่อเข้าถึงเนื้อหาและข้อมูลต่าง ๆ ได้ รวมถึงยังสามารถเล่นไฟล์มัลติมีเดียต่าง ๆ จากสมาร์ทโฟนได้โดยที่ไม่ต้องเชื่อมต่อสายอะไรให้ยุ่งยากแม้แต่น้อย
การออกแบบภายในสำหรับรุ่นท๊อปเน้นการใช้หนังสลับกับวัสดุสีเมทัลลิกอย่างลงตัว เพื่อไม่ให้เป็นห้องโดยสารที่ดูอายุมากเกินไปหรือก๊องแก๊งเกินไป แถมยังมีการใส่รายละเอียดที่ทันสมัย อาทิ หน้าจอแสดงผลขนาดเล็กที่แผงหน้าปัดด้านหน้า เพื่อบอกข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวรถ
ขณะที่ฟังชั่นส์การใช้งานก็ไม่ได้เป็นรองใคร ด้วยระบบสตาร์ท-ดับเครื่องยนต์แบบกดปุ่ม เบาะนั่งคนขับปรับได้ 10 ทิศทางพร้อมด้วยระบบดันหลัง เบาะนั่งด้านหลังพับได้แบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ รวมไปถึงช่องปรับอากาศด้านหลังสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เป็นต้น
ขับขี่สนุกสนาน มั่นใจและไว้วางใจได้
จริง ๆ แล้วนอกเหนือจากการปรับเปลี่ยนด้านหน้าตาและของเล่นที่ติดตั้งเข้ามาเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการทำราคาจำหน่ายที่ทำให้รถคันนี้น่าสนใจนั้น ต้องบอกว่าตัวรถเองก็มีความน่าสนใจในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะหากมองในเรื่องการเป็นรถยนต์ใช้งานในชีวิตประจำวัน
ฮุนได เอลันทร้า สปอร์ต เป็นรถยนต์ในคลาสที่ใช้โครงสร้างตัวถังแบบนิรภัยที่มาพร้อมวัสดุเหล็กกล้าที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ และยังเพิ่มความปลอดภัยในห้องโดยสารด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า และระบบช่วยในการขับขี่มากมาย เช่น กล้องและระบบสัญญาณช่วยในการถอยจอด
ระบบรักษาเสถียรภาพของรถ ESP และ VSM จะช่วยกันทำหน้าที่ในการควบคุมการทรงตัวของรถ ทำงานประสานกับเซนเซอร์อัจฉริยะเพื่อตรวจจับอาการของช่วงล่างและล้อที่มีการลื่นไถล โดยจะสั่งการการทำงานของเบรกและเครื่องยนต์ให้สามารถตอบสนองและควบคุมรถได้เร็วมากขึ้น
ด้วยรูปร่างหน้าตาของรถเองก็ต้องยอมรับว่ามีความโดดเด่นและสวยงามอ่อนช้อยลงตัว แต่คนที่ชอบรถทรงเหลี่ยม ๆ หน่อยอาจจะมองว่ามันจะโค้งจะมนไปไหน ซึ่งในยามที่วิ่งที่ความเร็วสูงนั้น ความรู้สึกว่ารถแหวกผ่านอากาศไปได้ด้วยดีเป็นสิ่งที่สัมผัสได้
เครื่องยนต์แม้จะไม่ผาดโผนโจนทะยาน แต่ก็ถือว่าทำงานสัมพันธ์กับเกียร์รุ่นนี้ได้อย่างดี ความฉลาดของเครื่องยนต์ที่สามารถรองรับการขับขี่ในรูปแบบที่หลากหลายได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก รถติดก็ชะลอพอมีช่องก็กดคันเร่ง อยากได้แรงกว่าก็ลากเกียร์เล่นเอาเอง
พวงมาลัยที่ปรับน้ำหนักไปมาได้นั้น เอาเข้าจริง ๆ ในโหมด normal ดูจะเป็นโหมดที่ใช้งานได้อย่างสบาย ๆ ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายขับ ตัวโหมด comfort ดูจะน้ำหนักเบาจนไม่น่าใช้ที่ความเร็วสูง แต่ช่วงที่ทดสอบผมเลือกไว้ที่โหมด sport เกือบตลอดเวลา ชอบแรงดึงนิด ๆ ของโหมดนี้มากกว่า
ช่วงล่างนั้นให้ความนุ่มนวลพอใช้ได้ แต่อาจจะรำคาญหน่อยกับแรงสะเทือนที่เป็นของแถมมากับยางแก้มต่ำ แต่เมื่อหักลบกลบหนี้กับความสวยที่เพิ่มขึ้นบนรองเท้าไซส์ 17 นิ้วแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่พอรับได้
ค่าตัวในรุ่นท๊อประดับ 9 แสนบาทยังมีทอนนั้น ทำให้รถคันนี้น่าใช้ขึ้นมาอีกมากพอสมควร แต่ฮุนไดก็ยังเป็นแบรนด์ที่่ต้องเหนื่อยกับการสร้างความไว้วางใจกับผู้บริโภคชาวไทยต่อไป เพราะต้องยอมรับว่ากลุ่มตลาดนี้คู่แข่งจากแดนซามูไรดูแข็งแรงดีเหลือเกิน
ถ้าเบื่อรถยนต์หน้าตาเหมือนคนอื่นบนท้องถนนและอยากลองอะไรใหม่ ๆ ให้ชีวิต ฮุนได เอลันทร้า สปอร์ต คันนี้ก็น่าสนใจอยู่เหมือนกัน ถามใจตัวเองก็พอว่า "กล้าพอป่ะ!!!"
รายละเอียดทางเทคนิค 2014 ฮุนได เอลันทร้า สปอร์ต
ราคาจำหน่าย | 8.98 แสนบาท (ช่วงเปิดตัว) |
เครื่องยนต์ | เอ็นยู 1.8 ลิตร เอ็มพีไอ |
กำลังสูงสุด | 150 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที |
แรงบิดสูงสุด | 178 นิวตันเมตรที่ 4,700 รอบต่อนาที |
ระบบส่งกำลัง | อัตโนมัติ 6 สปีด |
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด | 5.3 เมตร |
ขอขอบคุณ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด สำหรับรถยนต์ทดสอบในครั้งนี้
ผู้เขียน golfautospinn พูดคุยกันได้ที่ pisan.i@icarasia.com และเฟซบุ๊ค Autospinn.Fans
ชมภาพ 2014 ฮุนได เอลันทร้า สปอร์ต เพิ่มเติมได้ ที่นี่
พบฮุนไดมือสองและฮุนได เอลันทร้ามือสอง ที่ไทยคาร์ดอทคอม
ความคิดเห็น