รถยนต์เอสยูวีพันธ์แท้เป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องยาวนานในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของออกแบบรูปทรงที่แข็งแกร่ง บึกบึน การใช้งานที่หลากหลายกว่ารถยนต์นั่ง และในบ่อยครั้งที่รถยนต์เหล่านี้ ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก รวมไปถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมรุ่นใหม่อย่างเหนือชั้น
เชฟโรเลต แคปติว่า โฉมปี 2014 คือหนึ่งในรถยนต์เอสยูวีรุ่นใหม่ล้ำสมัย ที่มาพร้อมคุณสมบัติดังกล่าวอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาภายนอกที่ดูแข็งแกร่ง ห้องโดยสารกว้างขวางที่ออกแบบมารองรับผู้โดยสารมากถึง 7 ที่นั่ง ซึ่งโดดเด่นและแตกต่างจากรถยนต์เอสยูวีรุ่นอื่น ๆ ในท้องตลาด
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเครื่องยนต์ที่มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลตามความต้องการในการใช้งาน ให้ทั้งสมรรถนะและการประหยัดน้ำมันที่เป็นเลิศ รองรับเชื้อเพลิงที่หลากหลาย ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อตามแต่รุ่น
ระบบอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาอย่างครบครัน ทำให้แคปติว่าเป็นเอสยูวีที่มีความเพียบพร้อมและเหนือชั้น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเชฟโรเลต โดยมียอดจำหน่ายไปแล้วกว่า 3.5 หมื่นคันนับตั้งแต่การเปิดตัวในปี 2554 และยังมีการส่งออกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกหลายพันคัน
ภายนอกของแคปติวาได้ปรับกันชนหน้าใหม่ พร้อมฝาครอบไฟตัดหมอกที่ให้ความหรูหรายิ่งขึ้น กันชนหลังได้รับการออกแบบใหม่คู่กับปลายท่อไอเสียโครเมียมและกรอบไฟหลังสไตล์ใหม่ ติดตั้งบันไดข้างสแตนเลสที่อำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร
รถยนต์เอสยูวีที่รองรับจำนวนผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 7 ที่นั่ง มาพร้อมเบาะที่นั่งโอ่อ่า รองรับน้ำหนักผู้โดยสาร เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน รวมไปการเดินทางไกล ซึ่งนับเป็นเอสยูวีพันธุ์แท้ไม่กี่รุ่นที่รองรับการใช้งานแบบครอบครัวได้อย่างเต็มที่
นอกจากการออกแบบห้องโดยสารมาเพื่อใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ แคปติว่าใหม่ยังมาพร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระที่สามารถเพิ่มปริมาตรห้องเก็บสัมภาระได้มากสุด 930 ลิตร ขณะที่ผู้โดยสารแถว 3 จะรู้สึกสะดวกสบายในการโดยสาร ด้วยระบบปรับอากาศที่ที่นั่งด้านหลังและช่องเก็บสัมภาระที่ออกแบบมาได้อย่างลงตัว
การขับเคลื่อนเป็นหน้าที่ของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ที่รองรับการใช้งานอี85 ที่ให้กำลังสูงสุด 168 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 229 นิวตันเมตร ซึ่งแคปติว่าเป็นเอสยูวีคันแรกของประเทศไทย ที่รองรับเชื้อเพลิงอี85 ที่ทั้งแรงและประหยัดกว่าในการใช้งาน
แต่หากต้องการพละกำลังในการลากจูง เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.0 ลิตร ที่มาพร้อมระบบจ่ายเชื้อเพลิงแรงดันสูง ที่ให้กำลัง 163 แรงม้าและแรงบิดสูงสุดถึง 229 นิวตันเมตร ก็พร้อมที่จะให้เลือกไปใช้งานได้เช่นกัน โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้ให้ทั้งความแรงและความประหยัดไม่แพ้ใครในคลาสนี้
ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 6 สปีดรุ่นใหม่ถูกนำมาติดตั้ง ซึ่งเป็นการสานต่อเกียรติประวัติของแคปติว่า ในฐานะรถยนต์เอสยูวีรุ่นแรกของประเทศไทย ที่มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดในช่วงของการเปิดตัวในปี 2554 ซึ่งเกียร์รุ่นนี้ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นจากเดิม
อุปกรณ์ใหม่ ๆ ที่ได้รับการติดตั้งเข้ามาเพิ่มเติม นอกจากจะเพิ่มความหรูหราแล้ว ยังอำนวยความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ระบบ Keyless Entry ที่มาพร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ช่วยให้สามารถเข้า-ออกจากตัวรถ พร้อมทั้งสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องถือรีโมทคอนโทรล
แคปติว่าใหม่มาพร้อมระบบปรับอากาศแบบแยกส่วน (Dual Climate Control) ที่อนุญาตให้ผู้โดยสารตอนหน้าสามารถปรับอุณหภูมิแบบแยกกันได้ซ้าย-ขวา นอกจากนี้ ผู้โดยสารตอนหลังก็จะได้รับความสะดวกสบายด้วยระดับอุณหภูมิที่สามารถปรับได้มากถึง 3 ระดับ
เข็มขัดนิรภัยที่ช่วยโอบกระชับในยากที่เกิดอุบัติเหตุ ถูกติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มาพร้อมกับถุงลมนิรภัยคู่หน้าและม่านนิรภัย ควบคู่ไปกับเหล็กกันโคลงขนาดใหญ่ มาพร้อมระบบช่วงล่างที่จะยกตัวโดยอัตโนมัติเพื่อรักษาระดับความสูงของตัวรถทางด้านหน้าและด้านหลังให้เท่ากัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมรถ
นอกจากนี้ ตัวรถยังมาพร้อมระบบป้องกันการลื่นไหลของรถเมื่อขึ้นทางลาดชัน (HSA) ซึ่งป้องกันไม่ให้ตัวรถไหลถอยหลังเมื่อผู้ขับขี่ยกเท้าออกจากเบรกบนทางลาดชัน พร้อมด้วยระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) ช่วยรักษาความเร็วของตัวรถเมื่อลงทางลาดชันและมีความลื่น
เชฟโรเลต แคปติว่า ใหม่ มีให้เลือกทั้งสิ้น 7 รุ่นย่อย โดยวางราคาจำหน่ายตั้งแต่ 1.198-1.699 ล้านบาท สนใจสามารถชมและทดลองขับได้ที่โชว์รูมเชฟโรเลตทั่วประเทศ
ความคิดเห็น