เชลล์ประกาศเดินหน้าแผน 3 ปี เร่งขยายศูนย์บริการปีละ 30 สาขาตั้งแต่ปี 2558-2560 หลังเริ่มกลับมาขยายศูนย์บริการในช่วงปี 2556 ที่ผ่านมา พร้อมเพิ่มพันธมิตรดูดกลุ่มลูกค้า มั่นใจยอดขายน้ำมันใสโตต่อเนื่องปีนี้ 4% เหนือตลาดที่ขยายตัว 2%
อัษฎา หะรินสุต ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด และกรรมการบริหาร ธุรกิจการตลาดค้าปลีก ภูมิภาคตะวันออก กลุ่มบริษัท รอยัล ดัทช์ เชลล์ เปิดเผยว่า เชลล์ได้กลับมาขยายสถานีบริการในประเทศไทยอีกครั้งนับตั้งแต่ปี 2556 ที่ผ่านมาจำนวน 12 สถานีและคาดว่าจะเพิ่มอีก 22 สถานีในปีนี้
ทั้งนี้ ภายใต้แผนธุรกิจใหม่ตั้งแต่ปี 2558-2560 เชลล์มีแผนที่จะขยายศูนย์บริการเพิ่มปีละ 30 แห่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อชดเชยจำนวนสถานีบริการน้ำมันที่หายไปในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ที่บริษัทไม่ได้ทำการขยายสถานีบริการเพิ่มแต่อย่างใด
"ในช่วงที่ผ่านมา ผู้ให้บริการน้ำมันจำนวนมากปิดสถานีบริการน้ำมันไป หลายแห่งเป็นเรื่องของการหมดสัญญาเช่า ซึ่งเชลล์เคยมีจำนวนสถานีบริการเกือบ 1,000 แห่งในประเทศไทยและลดลงไปเหลือราว 500 แห่งในปัจจุบัน การตัดสินใจกลับมาขยายสถานีบริการใหม่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในประเทศไทย"
นอกจากการขยายสถานีบริการแล้ว เชลล์จะเดินหน้าเจรจาพันธมิตรเพื่อเพิ่มสินค้าที่จำหน่ายในสถานีบริการ อาทิ ร้านค้าปลีก ร้านกาแฟ เป็นต้น ซึ่งอยู่ระหว่างการทดลองกับพันธมิตรหลายราย ซึ่งในแต่ละพื้นที่จะมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป
รวมไปถึงการปรับโฉมสถานีบริการน้ำมันเครื่องเชลล์ เฮลิกซ์ ออยเชนจ์ ซึ่งเป็นการพัฒนาจากศูนย์บริการโปรเซิร์ฟ ซึ่งในปัจจุบันมีการเปลี่ยนรูปแบบไปแล้วราว 50 แห่ง และจะทำการปรับโฉมให้ครบทั้ง 350 แห่งใน 2-3 ปีนี้
อัษฎากล่าวว่าเชลล์อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับเพิ่มและลดจำนวนน้ำมันใสที่จำหน่ายในสถานีบริการให้มีความเหมาะสม โดยคาดว่าจะขยายการจำหน่ายแก๊สโซฮออล์ อี20 ให้ครบทุกสถานีภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ จากที่มีการขายอยู่ใน 75% ของสถานีในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ในปี 2558 จะเพิ่มการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอี 85 ในสถานีบริการบางแห่ง ขณะที่คาดว่าเบนซิน95 จะทำการยกเลิกการจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมันของเชลล์ทั้งหมด ซึ่งจะเป็นการปรับแผนการจำหน่ายสินค้าให้มีความเหมาะสม
"จากข้อมูลของกรมธุรกิจพลังงาน ความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงในไทยอยู่ที่ปีละ 2,700 ล้านลิตร โดยเชลล์มีส่วนแบ่งตลาด 12.5% ในปัจจุบัน และในปีนี้ เราเติบโตประมาณ 4-5% เหนือกว่าตลาดที่เติบโต 2% และเหนือกว่าปีที่ผ่านมาที่เติบโต 3-4% เรามองว่าอยากจะมีสถานีบริการไม่น้อยกว่าที่เราเคยมีในอดีต และจะส่งผลให้เราเติบโตไปมากกว่านี้ในอนาคต"
ความคิดเห็น