เป็นที่ทราบกันดีว่าพ่อแม่ผู้ปกครองมักเป็นแบบอย่างให้ลูกๆ ได้ทำตาม ถ้าคนเป็นพ่อแม่มีการกระทำที่ไม่เหมาะสมก็อาจปลูกฝังให้ลูกๆ เลียนแบบได้เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่
ผลการศึกษาล่าสุดระบุว่าพฤติกรรมการขับรถของพ่อแม่ยังเป็น “แรงบันดาลใจ” ให้ลูกๆ ส่วนใหญ่ทำตามเมื่อโตขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้น พ่อแม่ควรฝึกสอนลูกตั้งแต่ยังเด็กหรือยังเป็นวัยรุ่นด้วยการแสดงพฤติกรรมให้เห็นจริงๆ ไม่ใช่แค่การพูดสอนเท่านั้น
วันนี้เรามี 4 พฤติกรรมที่พ่อแม่ไม่ควรปฏิบัติเพราะจะส่งผลถึงลูกได้มาฝากกัน
พิมพ์ข้อความขณะขับรถ
ผลการศึกษาของกองทุนประกันของสหรัฐอเมริการะบุว่า 59% ของนักเรียนเคยเห็นพ่อแม่ใช้โทรศัพท์พิมพ์ข้อความขณะขับรถ นั่นทำให้วัยรุ่นถึง 78% ยอมรับว่าพวกเขาใช้สมาร์ทโฟนพิมพ์ข้อความขณะขับรถเช่นกัน ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้
คุยโทรศัพท์
เราได้ยินคำแนะนำอยู่บ่อยครั้งไม่ให้คุยโทรศัพท์ขณะขับรถ แต่เราก็ยังเห็นพฤติกรรมนี้มากมายบนท้องถนน เด็กและวัยรุ่น 91% เผยว่าพวกเขาเห็นพ่อแม่พูดคุยโทรศัพท์ขณะขับรถ นั่นทำให้วัยรุ่น 90% ทำสิ่งเดียวกันเมื่อพวกเขานั่งอยู่หลังพวงมาลัย
เข็มขัดนิรภัย
เข็มขัดนิรภัยมักถูกผู้ขับขี่บางคนมองข้าม แต่จริงๆ แล้วเข็มขัดนิรภัยถือเป็นสุดยอดนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยที่ดีที่สุดเท่าที่โลกคิดค้นมาก็ว่าได้ ผลสำรวจระบุว่าเด็กและวัยรุ่น 47% ได้พบเห็นพ่อแม่ของพวกเขาขับรถโดยไม่คาดเข็มขัดนิรภัย นั่นทำให้ 33% ของวัยรุ่นเลียนแบบพฤติกรรมคือการไม่คาดเข็มขัดเช่นกันไม่ว่าจะขับรถใกล้หรือไกล
ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และขับรถ
การดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถไม่เพียงเป็นพฤติกรรมทีผิดกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นอันตรายต่อทั้งตนเองและเพื่อนร่วมท้องถนนด้วย พ่อแม่ผู้ปกครองบางคนอาจพาลูกๆ ไปทานอาหารเย็นพร้อมจิบเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์แล้วขับรถกลับบ้าน โดยผลการศึกษาระบุว่ามีเด็กและวัยรุ่น 20% เคยมีประสบการณ์เช่นนี้และ 15% ยอมรับว่าทำสิ่งเดียวกัน
ความคิดเห็น