เทรเวอร์ คล๊าก อาสาสมัครนักดับเพลิงชาวแคนาดาถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดโทษฐานขับรถขณะสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่กลับพ้นความผิดอาญาข้อหาชนแล้วหนีเนื่องจากศาลเห็นว่าเขา “เมาเกินไปที่จะรู้ว่าได้ขับรถชนคนอื่น”
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2012 คล๊ากในวัย 37 ปีซึ่งมีปริมาณแอลกอฮอล์สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดถึงสี่เท่าได้ขับรถชนนักปั่นจักรยานแต่ไม่ได้จอดช่วยเหลือ ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดักจับในอีกไม่กี่นาทีต่อมา
ผู้พิพากษา เดวิด พาซิโอโค เปิดเผยว่า “ผมต้องตัดสินให้คล๊ากพ้นความผิดข้อหาชนแล้วหนี เนื่องจากผมไม่แน่ใจว่าคล๊ากรู้ตัวหรือมองเห็นว่าเขาได้ขับรถชนผู้อื่น นั่นเป็นเพราะว่าเขาอยู่ในอาการเมามาก”
คล๊ากจึงพ้นความผิดข้อหาชนแล้วหนีดังกล่าว แต่ก็ยังต้องถูกลงโทษข้อหาขับรถขณะสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์และทำให้ผู้อื่น (นักปั่นจักรยาน) ได้รับบาดเจ็บ
ขณะเดียวกัน คล๊ากยังพ้นความคิดข้อหาขับรถภายใต้อิทธิพลของแอลกอฮอล์หรือเมาแล้วขับ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญโดยไม่ได้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการถูกจับกุมข้อหาเมาแล้วขับอย่างถูกต้องตามกระบวนการ และไม่ได้แจ้งให้คล๊ากสามารถปรึกษาทนายความของเขาได้ก่อนที่จะทำการสอบสวนเบื้องต้น
เทรเวอร์ คล๊าก (ภาพจาก OttawaCitizen)
ผู้พิพากษาระบุว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ “แสดงให้เห็นถึงการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญอย่างไม่สามารถยอมรับได้” ที่สำคัญก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งทำการสอบสวนคล๊ากเบื้องต้นนั้นไม่ได้บันทึกคำตอบของคล๊ากไว้เป็นหลักฐานเลย
ขณะเดียวกัน ผู้พิพากษาชี้ว่าเขาตัดสินให้คล๊ากมีความผิดข้อหา “ขับรถขณะสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์” โดยฟังจากพยานบุคคลและการสังเกตการณ์ของเจ้าหน้าที่ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีสติไม่สมบูรณ์อย่างแท้จริง
ปัจจุบัน เทรเวอร์ คล๊าก ไม่ได้ถูกจับกุมขัง เขารอฟังคำพิพากษาลงโทษข้อหาขับรถขณะสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ในเดือนกันยายนนี้
สำหรับนักปั่นจักรยานมีชื่อว่า เจนนิเฟอร์ ลีโอนาร์ด พยาบาลวัย 45 ปีซึ่งได้รับบาดเจ็บที่สมองและไม่สามารถจดจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนพนนแมกกี ไซด์ในเมืองออตตาวาได้เลย รายงานข่าวระบุว่าคล๊ากขับรถกระบะฟอร์ดเฉี่ยวชนลีโอนาร์ดอย่างแรงด้วยกระจกมองข้างจนเธอกระเด็นไปไกลหลายเมตร
ความคิดเห็น