นิชคาร์มั่นใจลูกค้ารถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ในไทยพร้อมรับรถยนต์ราคาหลัก 100 ล้านบาท เดินหน้าทำตลาดปากานี่-โคนิกเซกก์ จับกลุ่มลูกค้าที่เหนือชั้นกว่าซูเปอร์คาร์ เร่งเจรจาแบรนด์ใหม่หวังปิดดีลก่อนเปิดตึกใหม่ปีหน้า
วิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิช คาร์ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมบอร์กินี, โลตัส, แมคลาเรน, ปากานี่และโคนิกเซกก์ เปิดเผยว่าพร้อมเดินหน้าทำตลาดรถยนต์ที่ระดับราคาเหนือกว่า 100 ล้านบาทอย่างปากานี่ ฮุยาร่า (Pagani Huayra) และโคนิกเซกก์ อากีร่า (Koenigsegg Agera) ในประเทศไทย
ทั้งนี้ ได้ทำการทดลองตลาดในช่วงปีที่ผ่านมา และพบว่าได้รับความสนใจจากลูกค้าบางส่วน ทำให้บริษัทตัดสินใจเพิ่มพื้นที่แสดงสินค้าทั้ง 2 ยี่ห้อที่โชว์รูมสำนักงานแห่งใหม่บนถนนมอเตอร์เวย์ ที่เพิ่งเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการด้วยงบประมาณลงทุนกว่า 300 ล้านบาท
โชว์รูมแห่งใหม่ของนิชคาร์จะเปิดให้บริการสำหรับรถยนต์ทั้ง 5 ยี่ห้อ โดยในเบื้องต้น จะยังไม่มีการย้ายศูนย์บริการมาที่สาขาใหม่นี้ แต่จะใช้ศูนย์บริการที่โชว์รูมศรีนครินทร์เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม การทำตลาดรถยนต์กลุ่มใหม่จะแตกต่างจากแบรนด์เดิมของบริษัทค่อนข้างมาก
"ลูกค้าที่จะซื้อรถยนต์ระดับราคา 100 ล้านในประเทศไทยมีแน่ แต่จะต้องเป็นกลุ่มลูกค้าที่ผ่านรถยนต์มาแล้วทุกรูปแบบ ซึ่งผมมองไปที่การอัพเกรดขึ้นไปจากลัมบอร์กินี่ โดยที่ผ่านมาก็เริ่มมีคนให้ความสนใจและเริ่มมีคนถามเพื่อจะจับจองแล้วบางส่วน"
สำหรับการเจรจากับแบรนด์สินค้ารถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตยี่ห้อใหม่นั้น ขณะนีั้ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะได้ข้อสรุปก่อนที่จะเปิดทำการอาคารแห่งที่ 2 ที่โชว์รูมแห่งใหม่ ที่คาดว่าจะเปิดอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนพฤษภาคม 2558
วิทวัสกล่าวถึงยอดจำหน่ายรถยนต์ในช่วง 9 เดือนแรกของปีพบว่ามียอดจองลัมบอร์กินี่ไปแล้ว 40 คัน แมคลาเรน 17 คันและโลตัสประมาณ 10 คัน โดยคาดว่าในปีนี้จะทำยอดลัมบอร์กินี่ได้ถึง 50 คันและแมคลาเรนที่ 20 คันตามเป้า ขณะที่โลตัสเสียโอกาสในการขายไปเล็กน้อย
"ตลาดรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 300-400 คัน ไม่นับรวมพวกรถเอสยูวีที่ใช้แบรนด์รถสปอร์ต อันนี้ต้องบอกว่าตลาดเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่การเมืองมีความชัดเจน ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ค่อยได้รับผลกระทบอยู่แล้ว"
ความคิดเห็น