รุ่นท๊อปสุดในฝั่งเครื่องยนต์เบนซินของ 2014 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ที่ค่ายใบพัดฟ้าขาวคัดมาเพื่อเอาใจผู้บริโภคที่ต้องการความแรงแบบนุ่มเงียบและไม่กระโชกโฮกฮากแบบดุดันเกินไปนัก อย่าได้แปลกใจถ้าคุณจะกลายเป็นคนขับรถเร็วเมื่ออยู่หลังพวงมาลัยรถคันนี้
ในยุคที่ผู้ประกอบการรถยนต์หรูหราเริ่มหันมาเอาใจใส่ตลาดระดับเริ่มต้น ด้วยการทำราคาจำหน่ายรถยนต์ลงไปที่ระดับต่ำกว่า 2 ล้านบาทมากขึ้นนั้น ผู้บริโภคที่ชื่นชอบรถเล็กแต่มีความแรงสูงก็มีทางเลือกที่น้อยลง แต่ก็ใช่ว่าจะหมดลงไปเสียทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อคุณยอมควักกระเป๋าจ่าย 3.099 ล้านบาทเพื่อรถคันนี้
บีเอ็มดับเบิลยู 328ไอ เอ็ม สปอร์ต คือรถยนต์รุ่นท๊อปสุดของรถยนต์ขนาดเล็กที่ใช้เครื่องยนต์แบบธรรมดา (ไม่รับรวมแอคทีฟไฮบริด 3) ของบีเอ็มดับเบิลยู ที่ให้สมรรถนะที่ไม่เป็นรองใครในกลุ่มรถยนต์ขนาดเดียวกัน แถมยังอาจจะเพียงพอที่จะไปต่อกรกับรุ่นใหญ่กว่านี้ได้อย่างสบาย ๆ ด้วยพื้นฐานความหรูหราเดิม เติมแต่งด้วยชุดแอคเซสซอรี่รอบคัน
ด้วยการวิ่งจาก 0-100 กิโลเมตรในเวลาน้อยกว่า 7 วินาทีและทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในระยะเวลาที่เร็วเหลือเชื่อ แต่หากไม่ต้องการเบ่งกล้ามขนาดนั้น รถคันนี้ก็ให้การตอบสนองที่ดีเยี่ยมในเรื่องของการปล่อยไอเสียเพียง 147 กรัมต่อกิโลเมตร และมีอัตราสิ้นเปลืองที่น่าพอใจที่ระดับ 13-14 กิโลเมตรต่อลิตรได้
ทั้งหมดอยู่ที่การกดน้ำหนักเท้าของคุณลงไปที่แป้นเบรก แต่เชื่อเถอะว่าตัวเลขในบรรทัดแรกของพารากราฟด้านบน มันเร้าใจกว่าเยอะ!!!
ภายนอกไม่แตกต่างจากรุ่นน้องที่มาพร้อมชุดแต่งรอบคัน
แทบไม่มีอะไรให้เขียนถึงสำหรับภายนอกของรถยนต์รุ่นนี้ที่เรียกว่ามาพร้อมชุดแต่งที่เราเห็นกันอย่างชินตาในรุ่นท๊อปของแต่ละเครื่องยนต์ โดยชุดแต่งเอ็ม สปอร์ตที่ได้รับการคัดเลือกมาแล้ว ก็เสริมความแข็งแกร่งดุดันให้กับตัวรถได้ไม่น้อย
มองภายนอกอาจจะไม่เห็นความแตกต่างกับรุ่นอื่น ๆ ยกเว้นโลโก้ 328i ที่ด้านหลังฝากระโปรง ก็น่าจะพอทำให้เกรงขามในยามที่อยู่บนท้องถนนได้มากพอสมควรว่าคงเหนื่อยแน่ หากคิดจะไปท้าชิงด้านความเร็ว
เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร พร้อมสมรรถนะสุดเร้าใจ
จริง ๆ แล้วคำว่าเร้าใจกับเครื่องยนต์ในยุคหลัง ๆ ของบีเอ็มดับเบิลยูเป็นคำที่มาพร้อมกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลที่ให้ทั้งสมรรถนะและความประหยัดอย่างเต็มพิกัด จนกลายเป็นตลาดหลักของบีเอ็มดับเบิลยูในยุคหลัง ๆ
แม้เราจะคุ้นชินกับเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 184 แรงม้า 380 นิวตันเมตรมากกว่า แต่ก็ต้องบอกว่าเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 รุ่นที่ติดตั้งในรถคันนี้ถือว่าอยู่ในระดับไม่ธรรมดา และควรค่าแก่การได้นั่งทดสอบหลังพวงมาลัยสักครั้งหนึ่ง
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์วที่มาพร้อมเทคโนโลยีทวินเพาเวอร์ เทอร์โบ ขนาด 1,997 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้าที่ 4,700-6,000 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่มาที่รอบตั้งแต่ 1,250-4,250 รอบต่อนาที
เมื่อปรับท่านั่งให้เรียบร้อยแล้วเข้าเกียร์กดคันเร่งลงไปตรง ๆ สิ่งที่จะสัมผัสได้ก็คือเครื่องยนต์จะดึงตัวรถไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และใช้เวลาเฉียด ๆ 7 วินาทีในการลากความเร็วไปถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ตามสเปกระบุว่า 6.4 วินาที)
จากนั้นถ้าคุณยังไม่ถอนคันเร่ง เครื่องยนต์ก็จะส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดไปเรื่อย ๆ และเร่งความเร็วสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนหมดทางให้วิ่งและมาตรวัดความเร็วแสดงผลความเร็วที่เกิน 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปเป็นที่เรียบร้อย (ตามสเปกระบุความเร็วสูงสุดที่ 245 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างง่ายดายและความผ่อนคลายในการขับขี่ที่ดี โดยที่คุณไม่รู้สึกว่าต้องไปเร่งหรือเค้นกำลังของเครื่องยนต์ออกมาแต่อย่างใด ยังคงเดินหน้ากดคันเร่งต่อไปได้อย่างสบายใจ
อย่างไรก็ตาม หากเป็นการใช้งานในภาวะปกติที่ขับไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พักนั้น เครื่องยนต์รุ่นนี้สามารถให้การสิ้นเปลืองที่ระดับ 13-14 กิโลเมตรต่อลิตรได้ไม่ยาก (สเปกระบุว่า 15.9 กิโลเมตรต่อลิตร) แต่นั่นก็คือการขับที่ระดับความเร็ว 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ย
ภายในรุ่นปรับปรุง เติมระบบสัมผัสที่ไอไดร์ฟแล้ว
หากเอาห้องโดยสารภายในมาให้เปรียบเทียบระหว่างรุ่นเครื่องยนต์เบนซินที่ทดลองขับอยู่และรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลที่ขับไปหลายคันแล้ว เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเกิดอาการมึนตึ๊บว่ามันแตกต่างกันตรงไหนอย่างไรบ้าง ซึ่งก็ไม่ต้องโทษตัวเองครับ เพราะมันต่างกันน้อยมากจริง ๆ
ที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนที่สุดแบบจับต้องได้ก็คือระบบไอ-ไดร์ฟรุ่นใหม่แบบสัมผัสที่พักหลัง ๆ กลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานให้กับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูเกือบทุกรุ่น ก็ถูกนำมาติดตั้งเป็นที่เรียบร้อย ทำให้เราจะเห็นปุ่มที่ใหญ่โตมากขึ้น
มาตรวัดรอบถูกเพิ่มขึ้นไปเป็น 8,000 รอบต่อนาทีพร้อมเรดไลน์ที่ 7,000 รอบ ขณะที่มาตรความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีกาบบันไดของเอ็มและสีห้องโดยสารสำหรับรุ่นตกแต่งโดยเฉพาะมาเป็นมาตรฐาน
ขอช่วงล่างแข็งอีกนิด ที่เหลือผ่านฉลุย
แม้อุปกรณ์ตกแต่งพื้นฐานของรถในเรื่องของความสะดวกและความปลอดภัยจะแทบไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากพี่น้องร่วมเผ่าพันธุ์เดียวกัน แต่ก็ถือว่าเป็นรถที่ให้อุปกรณ์มาอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว โดยเฉพาะถุงลม 6 ใบที่น่าจะเป็นค่ายแรก ๆ ที่ให้มาครบ
พวงมาลัยแบบเซิร์ฟโวโทรนิกส์และระบบควบคุมการบังคับเลี้ยวแปรผันตามการหมุนของพวงมาลัย (Variable Sport Steering) คือของเล่นใหม่ที่หาเล่นไม่ได้ในสายตระกูล ซึ่งช่วยในเรื่องของการควบคุมการขับขี่ที่แม่นยำมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้สลักสำคัญมากมายในระดับที่ต้องมี
การถ่ายทอดพันธุกรรมของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 นั้นอาจจะบอกว่าลอกเลียนแบบพันธุกรรมกันมาเลยก็คงไม่ผิด เพราะช่วงล่างแบบนุ่มยวบที่เคยเจอมาในทุกรุ่นก็ยังนุ่มยวบอยู่ แม้จะติดตั้งล้อขนาด 18 นิ้วที่ให้อาการสะท้อนของผิวถนนเพิ่มมากขึ้นแล้ว ก็ไม่อาจจะปิดบังความนุ่มนั้นไปได้
ในการขับขี่แบบใช้งานในชีวิตประจำวัน อาการดังกล่าวอาจจะมีให้สัมผัสไม่มาก แต่หากเป็นการทำความเร็วสูง และยิ่งวิ่งผ่านพื้นผิวถนนแบบลูกคลื่นหน่อย ๆ อาการดังกล่าวก็จะแสดงให้เห็นชัดเจนมากขึ้น และมากขึ้นไปอีกเมื่อเปลี่ยนเลนหรือเร่งแซงที่ความเร็วสูง
จริง ๆ แล้วก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหาอะไรมากมาย เพียงแต่มนุษย์พันธุ์เท้าหนักที่ซื้อรถรุ่นนี้ไป อาจจะต้องไปทำการปรับจูนช่วงล่างให้หนึบแน่นกว่านี้สักเล็กน้อย เพราะการเซตอัพรถของบีเอ็มดับเบิลยูนั้นเซตมาเป็นมาตรฐานสำหรับทุกรุ่น อันนี้ต้องเข้าใจกัน
เอาเป็นว่าถ้ามีเงินเหลือ ๆ คงได้เจอกันในสักโอกาส แต่ต้องเผื่อไว้ปรับช่วงล่างด้วยนะ!!!
รายละเอียดทางเทคนิค 2014 บีเอ็มดับเบิลยู 328ไอ เอ็ม สปอร์ต
ราคาจำหน่าย | 3.099 ล้านบาท |
เครื่องยนต์ | เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1,997 ซีซี. |
แรงม้าสูงสุด | 218 แรงม้าที่ 4,700 – 6,000 รอบต่อนาที |
แรงบิดสูงสุด | 350 นิวตันเมตรที่ 1,250 – 4,250 รอบต่อนาที |
อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง | 6.4 วินาที |
ความเร็วสูงสุด | 245 กิโลเมตรต่อชั่วโมง |
ขอขอบคุณ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สำหรับรถยนต์ทดสอบในครั้งนี้
ผู้เขียน golfautospinn พูดคุยกันได้ที่ pisan.i@icarasia.com เฟซบุ๊ค Autospinn.Fans และทวิตเตอร์ @Autospinn
ชมภาพ 2014 บีเอ็มดับเบิลยู 328ไอ เอ็ม สปอร์ต เพิ่มเติมได้ ที่นี่
ความคิดเห็น