สหภาพยุโรปประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวหรือที่รู้จักกันในชื่อ ESP จะเป็นเทคโนโลยีที่บังคับติดตั้งในรถยนต์นั่งและรถเชิงพาณิยช์น้ำหนักเบาทุกรุ่นในภูมิภาคนี้
ปัจจุบันมีรถยนต์นั่งและรถเชิงพาณิชย์ราว 84% ในยุโรปที่ติดตั้งระบบ ESP ซึ่งจากสถิติพบว่าระบบนี้ช่วยป้องกันอุบัติเหตุได้มากกว่า 190,000 ครั้งและช่วยชีวิตผู้คนได้กว่า 6,000 คนในยุโรปนับตั้งแต่มีการคิดค้นระบบนี้ขึ้นมา
ข้อบังคับการติดตั้ง ESP ครอบคลุมเฉพาะรถยนต์นั่งที่บรรทุกผู้โดยสารไม่เกินสี่คนและรถเชิงพาณิชย์ที่มีน้ำหนักไม่เกิน 3.5 ตัน แต่คาดว่าสหภาพยุโรปอาจขยายข้อบังคับให้รวมรถอีกหลายประเภทภายในปีหน้า
Gerhard Steiger ประธานกรรมการ Bosch Chassis Systems Control หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตระบบเพื่อความปลอดภัยภายในรถยนต์ระบุว่า ESP ช่วยชีวิตผู้คนได้มากมาย จากการศึกษาของบริษัทฯ พบว่าในปี 2011 เทคโนโลยีนี้ช่วยป้องกันอุบัติเหตุ 33,000 ครั้งและช่วยชีวิตประชาชนในสหภาพยุโรปได้กว่า 1,000 คน
ระบบ ESP ทำงานด้วยการตรวจจับการเคลื่อนไหวของตัวรถว่าเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่ ถ้าตัวรถเสียการทรงตัว ESP จะทำงานด้วยการลดแรงบิดของเครื่องยนต์ พร้อมกับเบรกล้อแบบแยกส่วนเพื่อสร้างแรงต้านให้ตัวรถอยู่บนเส้นทางจราจร
ทั้งนี้ ESP เป็นระบบบังคับใช้สำหรับรถทุกรุ่นที่มีน้ำหนักไม่เกิน 4.5 ตันในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาตั้งแต่เดือนกันยายน 2011 รวมถึงในออสเตรเลียและอิสราเอล ขณะที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ตุรกีและรัสเซียเตรียมประกาศบังคับใช้ ESP ในรถทุกรุ่นในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น