มาเซอร์ราติประเมินตลาดรถยนต์ซูเปอร์ลักชัวรี่ปี 2558 หดตัว หลังนโยบายภาครัฐส่งผลราคาปรับตัวเพิ่มทันที 10-20% แต่มั่นใจกดดันเกรย์แข่งลำบาก ชี้ต้องปรับตัวนำเข้ารุ่นล่างแทนรถฟูลอออพชั่นเพื่อรักษาราคาไม่ให้โดดจากรุ่นเดิม
พรศริน เมธีวัชรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มไพร์ มอเตอร์ สปอร์ต จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มาเซอร์ราติในประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาลได้ออกมาประกาศราคากลางสำหรับการสำแดงภาษีรถยนต์นำเข้า ส่งผลให้ราคาจำหน่ายรถยนต์นำเข้าในประเทศไทยทั้งหมดปรับตัวสูงขึ้น 10-20% แล้วแต่รุ่นทันที
นโยบายดังกล่าวจะทำให้ตลาดรถยนต์ซูเปอร์ลักชัวรี่หดตัวไปอย่างแน่นอนในปี 2558 จากเดิมที่มีตลาดอยู่ราว 300-400 คันต่อปี และน่าจะส่งผลดีที่ทำให้ผู้นำเข้าอิสระไม่สามารถทำราคาจำหน่ายเพื่อแข่งขันกับตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้
“การตั้งราคากลางของภาครัฐจะส่งผลให้รถยนต์ทุกรุ่นที่เป็นรถนำเข้าต้องเสียภาษีเพิ่ม ยกเว้นรถยนต์ที่มีสต๊อกอยู่แล้ว หรือรถยนต์กลุ่มพิเศษ เช่น รถไฮบริดที่มีฐานภาษีพิเศษ เราประเมินว่าภาพรวมของการแข่งขันจะเปลี่ยนไป ผู้ประกอบการที่มีรถไฮบริดก็จะหันมาทำตลาดมากขึ้น ขณะที่เกรย์มาร์เก็ตอาจจะต้องหันไปทำรถรุ่นที่ตัวแทนจำหน่ายไม่ได้ทำ หรือไปเน้นการจำหน่ายรถญี่ปุ่นแทน”
สำหรับการปรับตัวของมาเซอร์ราตินั้น จะเน้นการปรับแผนการนำเข้ารถจากปกติที่เน้นการนำเข้ารถยนต์แบบฟูลออพชั่นที่มีราคาจำหน่ายค่อนข้างสูง ก็จะหันมาเน้นการนำเข้ารถยนต์รุ่นมาตรฐาน และเปิดให้ลูกค้าเป็นผู้เลือกออพชั่นที่จะติดตั้งเข้ามาด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ ยังได้ชะลอแผนการปรับโฉมโชว์รูมและศูนย์บริการ รวมถึงแผนการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยออกไปก่อน เนื่องจากต้องประเมินภาพของตลาดอีกครั้งว่าผลกระทบจากนโยบายดังกล่าวจะมีมากน้อยเพียงใด รวมถึงยังไม่สามารถประเมินเป้าหมายการจำหน่ายในปีนี้ได้
“เราได้มีการจัดงบประมาณบางส่วนเพื่อช่วยเยียวยาลูกค้าที่ทำการจองรถยนต์ไว้ก่อนที่จะประกาศนโยบายประมาณ 10 กว่าคัน และได้ของบประมาณจากบริษัทแม่มาช่วยเหลือรวมกันแล้วกว่า 10 ล้านบาท เพื่อแบ่งเบาราคาจำหน่ายที่สูงขึ้นในครั้งนี้”
ทั้งนี้ มาเซอร์ราติได้ประกาศราคาจำหน่ายใหม่สำหรับรถยนต์มาเซอร์ราติ กิบลี ที่จำหน่ายในประเทศไทย ประกอบด้วยรุ่นดีเซล 7.99 ล้านบาท เพิ่มจาก 6.7 ล้านบาทก่อนปรับโครงสร้างภาษี รุ่นเบนซิน 330 แรงม้า ราคา 8.55 ล้านบาท จากเดิม 6.99 ล้านบาทและกิบลี เอส 410 แรงม้า ราคา 9.55 ล้านบาท จากเดิม 7.9 ล้านบาท
รวมไปถึงควอตโตรปอร์เต้ที่ปรับราคาใหม่ โดยรุ่นจีทีเอส ราคาจำหน่าย 15.5 ล้านบาทจากเดิมที่เคยจำหน่าย 14.5 ลานบาท รุ่นเอส ราคาจำหน่าย 12.5 ล้านบาทจากเดิม 11.5 ล้านบาท และควอตโตรปอร์เต้ ดีเซล ที่เริ่มทำตลาดเป็นครั้งแรกในปีหน้าด้วยราคา 10.75 ล้านบาท
“เราเชื่อว่าตลาดคงจะเกิดอาการช็อคในระยะสั้น ซึ่งลูกค้าบางส่วนก็คงชะลอการตัดสินใจลงไปชั่วคราว ขณะที่กลุ่มลูกค้าหลักที่ยังมีกำลังซื้ออยู่ก็มีอยู่เช่นกัน เราคงต้องรอให้ผ่านไตรมาสแรกไปก่อน ก่อนที่จะสามารถประเมินสถานการณ์ภาพรวมทั้งหมดได้อีกครั้ง”
LINE
ความคิดเห็น