มีคำถามเกิดขึ้นมากมายเกี่ยวกับภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปี 2558 ว่าจะเดินหน้าไปอย่างไร ท่ามกลางภาวะการเติบโตอย่างไม่เต็มที่ของเศรษฐกิจที่มีการคาดการณ์กันว่าน่าจะเห็นการเติบโตของจีดีพีที่ระดับ 4-5% เท่านั้นในปีนี้ แล้วแต่การคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญแต่ละฝ่าย
การที่ตลาดยานยนต์หดตัวอย่างรุนแรงในปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นยอดจำหน่ายรถยนต์ ยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องต่าง ๆ ย่อมส่งผลให้เกิดคำถามต่อความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปีนี้เป็นอย่างมาก ว่าจะเดินหน้าต่อหรือท้อแท้กันอย่างต่อเนื่องในปีนี้
และนี่คือความน่าจะเป็นที่จะเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปีนี้ ที่เราคาดว่าจะได้เห็นปรากฎการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นต่อเนื่องไปตลอดทั้งปีนี้
ยานยนต์ขยายตัวลุ้นเป้าหมาย 1 ล้านคัน
แม้พ่อหมอ แม่หมอส่วนใหญ่จะยังไม่ยอมฟันธงการคาดการณ์การเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปีนี้ ขณะที่กระแสข่าวในช่วงปลายปีที่แล้วก็คาดว่าตลาดจะเติบโตที่ระดับ 5-10% เท่านั้น แต่ลึก ๆ แล้วเราเชื่อว่าผู้ประกอบการทุกรายต่างก็คาดหวังว่าตลาดรถยนต์ไทยจะกลับสู่ระดับ 7 หลักอีกครั้งในปีนี้
ซึ่งแน่นอนว่าเป็นงานที่ยากมากหากดูจากยอดจำหน่ายในปีที่ผ่านมาที่น่าจะทำได้ที่ระดับ 8.5-8.6 แสนคันเท่านั้น (รอยืนยันตัวเลขอีกครั้ง) แต่หากดูจากการเติบโตที่วางไว้ 5-10% ก็น่าจะกลับไปที่อยู่ที่ระดับ 9 แสนกลาง ๆ หากค่ายรถจะรวมพลังผลักดันตลาดให้ถึงตัวเลข 7 หลักก็อาจจะยังลุ้นได้
แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับตัวสินค้าใหม่ที่จะนำมาเปิดตัว ที่เรามีการนำเสนอไปแล้วก่อนหน้านี้ รวมไปถึงความมุ่งมั่นในการเดินหน้าจัดกิจกรรมและแคมเปญอย่างต่อเนื่อง ถ้าทำได้ก็ยังพอมีลุ้นอยู่เหมือนกัน
ตลาดสองล้อไม่หวือหวาตามคาด
ในส่วนของตลาดรถจักรยานยนต์นั้น ไม่น่าจะมีอะไรหวือหวามากเมื่อเจ้าตลาดอย่างเอ.พี.ฮอนด้า ออกมาระบุชัดเจนแล้วว่าแนวโน้มการเติบโตในปีนี้น่าจะอยู่ที่ระดับ 1.75 ล้านคันเท่านั้น หรือเติบโตประมาณ 2-3% เมื่อเทียบกับยอดขาย 1.7 ล้านคันในปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการกระตุ้นภาพรวมของเศรษฐกิจที่ยังไม่น่าจะเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมในช่วงแรกของปีนี้ อย่างไรก็ตาม หากมองว่าเศรษฐกิจยังคงเติบโตและแนวโน้มตลาดยังเติบโตอยู่ก็น่าจะเป็นที่พึงพอใจแล้วสำหรับสถานการณ์ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่หรือบิ๊กไบค์ ก็ยังเป็นตลาดที่ยังมีอนาคตสดใสอยู่ เนื่องจากฐานลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจอยู่แล้ว ประกอบกับการลดภาษีนำเข้าลงอีก 5% ในปีนี้ และการย้ายเข้ามาตั้งโรงงานประกอบในไทยของผู้ผลิตหลายราย ก็น่าจะทำให้ตลาดเติบโตไม่น้อยกว่า 20%
ตลาดนิชเติบโตเหนือตลาดแมส
มีการคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์และรถจักรยานยนต์แบบพื้นฐานจะเป็นตลาดที่ไม่เติบโตหรือเติบโตน้อยมากในปีนี้ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลักยังเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น หากไม่เห็นสัญญาณการเติบโตของเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรม ก็ยากที่จะผลักดันให้ลูกค้ากลุ่มนี้ควักกระเป๋านำเงินออกมาใช้ได้
ขณะที่กลุ่มสินค้าที่มีความนิชมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรู รถยนต์ในเซกเมนต์ใหม่ ๆ รวมไปถึงรถจักรยานยนต์รูปแบบใหม่ ๆ ต่างมุ่งจับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อเหนือกว่าและมีความพร้อมในการจับจ่ายใช้สอย โดยที่ไม่ต้องกังวลถึงภาวะทางเศรษฐกิจมากมายนัก
เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองยังคงนิ่งอยู่ และเชื่อกันว่าจะไม่เกิดปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในปีนี้ แน่นอนว่าย่อมเป็นโอกาสดีในการดูดเงินออกจากกระเป๋าลูกค้าในประเทศไทยกันอย่างสนุกสนาน สำหรับผู้ประกอบการที่มีสินค้าในกลุ่มนี้เช่นกัน
เทคโนโลยีใหม่จ่อเปิดตัวมากขึ้น
หลังจากที่ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รู้จักกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ผ่านกลุ่มสินค้าที่เปิดตัวในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นบีเอ็มดับเบิลยู ไอ8, ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด หรือแม้แต่รถเล็กรุ่นใหม่อย่างมาสด้า 2
ปีนี้ก็ใช่ว่าจะห่างหายไปจากการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ต้องดูว่าผู้ประกอบการรายใหญ่จะส่งอะไรมาท้าชิงกับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-ดี ของมาสด้ากันบ้าง
ขณะที่บรรดาเทคโนโลยีที่เปิดตัวไปในกลุ่มรถยนต์หรูหรามากมายในตลาดโลก คาดการณ์ได้เลยว่าปีนี้จะต้องมีอะไรใหม่ ๆ เข้ามาในประเทศไทยอีกเพียบ เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้เปิดหูเปิดตากับโลกยานยนต์กันมากขึ้น
ความคิดเห็น