กัลลิเวอร์มั่นใจตลาดรถมือสองผ่านจุดต่ำสุดในปีที่ผ่านมา ชี้เริ่มปรับตัวสู่ภาวะปกติตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีหน้า เดินหน้าขยายเครือข่ายดีลเลอร์ให้ครบ 100 แห่ง ท้าชิงตลาดรวมรถมือสอง 1.5-1.6 ล้านคันปีนี้
คัทสีชิ โนมูระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วี-กัลลิเวอร์ จำกัด ผู้ดูแลศูนย์จำหน่ายรถยนต์มือสองกัลลิเวอร์ เปิดเผยว่าภาพรวมของธุรกิจรถยนต์มือสองจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในช่วงไตรมาส 3-4 ของปี 2558 หลังจากที่ผ่านจุดต่ำสุดในปี 2557 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากภาพรวมของเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศไทย รวมถึงผลกระทบจากโครงการคืนภาษีให้รถยนต์คันแรก ซึ่งทำให้ตลาดรถยนต์มือสองหดตัวไปอย่างมาก รวมถึงทำให้ราคาจำหน่ายรถยนต์มือสองได้รับผลกระทบ
"เรามองว่ารัฐบาลพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้เศรษฐกิจในปีนี้กลับมาฟื้นตัว ขณะเดียวกัน ราคาจำหน่ายของรถก็ลงสู่จุดต่ำสุดในปีที่ผ่านมา ในปีนี้ เราเชื่อว่าตลาดรถมือสองจะกลับมาเติบโตล้อไปกับตลาดรถยนต์ใหม่ ขณะที่ราคาจำหน่ายน่าจะกลับสู่ราคาปกติในส่วนของรถยนต์รุ่นยอดนิยม"
โนมูระประเมินภาพรวมของตลาดรถยนต์มือสองในปีนี้ ว่าจะเติบโตที่ประมาณ 10-15% หรือมีขนาดของตลาดรวม 1.5-1.6 ล้านคัน ซึ่งอยู่ในสัดส่วน 1.5-2 เท่าตัวของตลาดรถยนต์ใหม่ที่มีการประเมินที่ระดับ 9.2 แสนคัน
สำหรับแผนงานของกัลลิเวอร์จะเน้นการขยายตัวแทนจำหน่ายให้ได้ 100 แห่งภายในปีนี้ จากที่มีอยู่ 3 แห่งในปีที่ผ่านมา และมีการเซ็นสัญญาเพิ่มเติมไปแล้วอีก 6 รายในเดือนแรก ทั้งในกทม.และหัวเมืองใหญ่ อาทิ เชียงใหม่ สุพรรณบุรี เป็นต้น
กรรมการผู้จัดการระบุว่าแฟรนไชซีจะต้องลงทุนด้วยงบประมาณ 8-10 ล้านบาทต่อการเปิดโชว์รูม โดยกัลลิเวอร์จะช่วยในเรื่องการวางระบบ การแนะนำการจัดหารถมือสอง รวมถึงช่วยเหลือดีลเลอร์ในการบริหารความเสี่ยงต่าง ๆ ในการดำเนินธุรกิจ
"เราจะสร้างเครือข่ายการจำหน่ายรถยนต์มือสองในประเทศไทยให้กับตัวแทนจำหน่ายทุกราย ซึ่งนอกเหนือจากสินค้าที่มีในโชว์รูมแล้ว ยังสามารถหาสินค้าจากโชว์รูมอื่น ๆ มาเพื่อนำเสนอให้กับลูกค้า จะทำให้เราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างหลากหลาย"
ความคิดเห็น