เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยเปิดตัวเทรลเบลเซอร์ใหม่ (Chevrolet Trailblazer) มาพร้อมการปรับโฉมเพิ่มความทันสมัยและเทคโนโลยีล่าสุด พร้อมกับสีตัวถังใหม่ เพิ่มวัสดุดูดซับเสียงรบกวน และยกระดับความหรูหราภายในห้องโดยสาร
เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ใหม่ มี 4 รุ่นย่อยให้เลือก โดยมีราคาจำหน่ายดังนี้
- เทรลเบลเซอร์ 2.5 ลิตร ขับเคลื่อนสองล้อ เกียร์ธรรมดา รุ่น LT 1,095,000 บาท
- เทรลเบลเซอร์ 2.8 ลิตร ขับเคลื่อนสองล้อ เกียร์อัตโนมัติ รุ่น LT 1,129,000 บาท
- เทรลเบลเซอร์ 2.8 ลิตร ขับเคลื่อนสองล้อ เกียร์อัตโนมัติ รุ่น LTZ 1,289,000 บาท
- เทรลเบลเซอร์ 2.8 ลิตร ขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์อัตโนมัติ รุ่น LTZ1 1,465,000 บาท
รูปลักษณ์อันแข็งแกร่ง พร้อมสีตัวถังใหม่
รูปลักษณ์ภายนอกอันแข็งแกร่งของเทรลเบลเซอร์ใหม่ มาพร้อมกับสีตัวถังใหม่อย่างสีเทา Satin Steel Gray ขณะที่ด้านหลังใช้ไฟท้ายแอลอีดีเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น LTZ และ LTZ1 เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยบนท้องถนนให้มองเห็นได้ชัดขึ้นโดยเฉพาะในสภาวะที่มีแสงน้อย
ด้านท้ายรถเทรลเบลเซอร์ยังติดตั้งกล้องมองหลัง เมื่อเข้าเกียร์ถอย ภาพด้านท้ายรถจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอทัชสกรีนสีบนคอนโซลพร้อมเส้นกะระยะที่แสดงให้เห็นถึงพื้นที่ด้านท้ายรถ โดยภาพบนหน้าจอจะเปลี่ยนทิศทางไปตามการหมุนพวงมาลัย
สำหรับมิติโดยรวม เทรลเบลเซอร์ยังคงมีระยะฐานล้อที่กว้างกว่าคู่แข่ง ขณะที่พื้นที่ในห้องโดยสารมีความกว้างขวางมากกว่า เบาะที่นั่งแถวที่สองและสามมีการจัดวางแบบที่นั่งโรงภาพยนตร์ช่วยให้ผู้โดยสารมองเห็นทัศนวิสัยได้รอบด้าน และสามารถพับให้แบนราบได้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและยืดหยุ่นในการใช้งาน
ห้องโดยสารที่หรูหราและสะดวกสบายยิ่งกว่า
เบาะที่นั่งแบบใหม่ของเทรลเบลเซอร์หุ้มด้วยหนังคุณภาพดี สะดุดตาด้วยสี Brown Stone เพิ่มความหรูหรา ด้วยวัสดุเสริมสีดำมันเงา Piano Black บนแผงแดชบอร์ด คอนโซลกลาง และพวงมาลัย นอกจากนี้ ผู้โดยสารยังสามารถสัมผัสได้ถึงความเงียบในห้องโดยสารที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการเพิ่มวัสดุดูดซับเสียง ช่วยแยกเสียงรบกวนระหว่างห้องเครื่องยนต์และห้องโดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เบาะที่นั่งผู้ขับขี่เป็นแบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ขณะที่ผู้โดยสารทุกที่นั่งจะรู้สึกเย็นสบายตลอดการเดินทางด้วยระบบปรับอากาศของเทรลเบลเซอร์ที่มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารทั้งสามแถว
ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบความประหยัดน้ำมันผ่านหน้าจอแสดงผลอีโค อินเด็กซ์ (Eco Index) ซึ่งมีหน้าจอสถิติที่แสดงอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงในช่วง 50 กิโลเมตรที่ผ่านมา หน้าจอจะแสดงรูปใบไม้หากมีการขับขี่ที่ประหยัดน้ำมันซึ่งวัดค่าจากการกดคันเร่ง
ระบบอินโฟเทนเมนท์เชฟโรเลต มายลิงค์ (MyLink)
ระบบอินโฟเทนเมนท์เชฟโรเลต มายลิงค์ (MyLink) ที่ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพถูกติดตั้งอยู่ใน เทรลเบลเซอร์ทุกรุ่น โดยรุ่นท็อป เทรลเบลเซอร์ LTZ1 มาพร้อมลำโพงหกตัว หน้าจอสีแบบทัชสกรีน และระบบนำทางผ่านดาวเทียมในตัว สามารถแสดงหน้าปกอัลบั้ม วีดีโอ ภาพ และเล่นดีวีดีได้ ขณะที่รุ่น LTZ มีวิทยุ BYOM ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน USB และ AUX ได้ เมื่อเชื่อมต่อแล้วจะมีการแสดงเมนู ได้แก่ เพลง, รูปภาพและวิดีโอ, โทรศัพท์, สมาร์ทโฟน และการติดตั้ง ขึ้นบนหน้าจอทัชสกรีนของเทรลเบลเซอร์ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงรายการส่วนตัวและใช้โทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรี รวมถึงฟังก์ชั่นอื่นๆ ได้
เครื่องยนต์ทรงพลังและมีแรงบิดสูงสุดในระดับเดียวกัน
ขุมพลังขับเคลื่อนของเทรลเบลเซอร์ ใหม่ คือเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ
เจนเนอเรชั่นที่สอง โดยรุ่น 2.8 ลิตร ให้พละกำลังสูงถึง 200 แรงม้า (147 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที ทำให้เทรลเบลเซอร์เป็นรถที่ทรงพลังที่สุดและมีแรงบิดสูงสุดในรถระดับเดียวกัน เครื่องยนต์ให้อัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจและสมรรถนะที่ต่อเนื่อง รวมถึงศักยภาพการลากจูงและการบรรทุกได้เต็มพิกัด ขณะที่รุ่น 2.5 ลิตรให้พละกำลัง 163 แรงม้า (120 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 380 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที
เครื่องยนต์นี้ควบคุมโดยซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นโดยจีเอ็มเพื่อการตอบสนองที่รวดเร็วยิ่งขึ้นและการทำงานที่แม่นยำในช่วงที่ให้พละกำลังสูงสุด พร้อมกับให้ความประหยัดน้ำมันในทุกการขับขี่ เครื่องยนต์ 2.5 ลิตรและ 2.8 ลิตรผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4 และสามารถรองรับยูโร 5 และมาตรฐานไอเสียของสหรัฐอเมริกาได้
ระบบส่งกำลังเป็นแบบ 6 สปีด มาพร้อมกับอัตราทดที่เน้นบุคลิกอันทรงพลังของขุมพลังดูราแม็กซ์ ทำให้เทรลเบลเซอร์มีสมรรถนะและความประหยัดที่เป็นเลิศ ซึ่งเทรลเบลเซอร์ถือเป็นรถอเนกประสงค์รุ่นแรกในตลาดที่ใช้ระบบเกียร์ 6 สปีด ทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ
เทรลเบลเซอร์ใหม่ มีช่วงล่างด้านหลังแบบคอยล์สปริงทั้งสี่ล้อและแบบ 5 ลิงค์ ซึ่งเป็นระบบที่พบได้ในรถอเนกประสงค์ระดับพรีเมียมเท่านั้น และถือเป็นระบบช่วงล่างที่ดีที่สุดในรถระดับเดียวกัน
การออกแบบช่วงล่างเช่นนี้จะช่วยลดความสะเทือนและอาการโยนตัวของรถ คอยล์สปริงยังช่วยลดแรงกระแทกได้ดีในการขับขี่บนเส้นทางออฟโรด และเพิ่มความนุ่มนวลเวลาขับขี่ผ่านเส้นทางอันขรุขระ เทรลเบลเซอร์เป็นรถอเนกประสงค์แรกในตลาดที่ใช้ระบบดิสก์เบรกสี่ล้อ ทำให้ผู้ใช้มั่นใจในทุกการขับขี่
ระบบความปลอดภัย
สำหรับความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและแบบแพสซีฟ เทรลเบลเซอร์ใหม่ มาพร้อมเข็ดขัดนิรภัยคาดตักแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ ช่วยลดแรงกระชากจากการรั้งของเข็มขัดนิรภัย ซึ่งจะทำงานร่วมกับถุงลมนิรภัยคู่หน้า นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ระบบช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน ระบบกระจายแรงเบรกอิเลกทรอนิก ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน
ประหยัดค่าบำรุงรักษา
เทรลเบลเซอร์ยังมีค่าบำรุงรักษาที่ประหยัด โดยกำหนดการเข้าตรวจเช็คสภาพรถอยู่ที่ทุก 15,000 กม. ซึ่งมีระยะเวลาการกำหนดเข้าตรวจเช็คสภาพนานกว่าคู่แข่งที่กำหนดการตรวจเช็คไว้ที่ทุก 10,000 กม.
อุณา ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยกล่าวว่า “เทรลเบลเซอร์เป็นรถที่มีศักยภาพสูงมากสำหรับการใช้งานบนถนนทั่วไปและใช้งานแบบออฟโรด ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างแท้จริง เทรลเบลเซอร์ให้ความสะดวกสบายในทุกการขับขี่ไม่ว่าจะเป็นการลุยป่าหรือการขับบนถนนในเมือง”
“การเพิ่มคุณสมบัติไว้ในตัวรถที่มีความยอดเยี่ยมอยู่แล้วทำให้เทรลเบลเซอร์สามารถยกระดับมาตรฐานใหม่ โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าในเมืองที่มองหาความพิเศษยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นที่มาของแคมเปญ ‘Inspiration to Go Beyond’ หรือ ‘ชีวิต...ยังไปได้อีก’ เราหวังว่าเจ้าของรถเทรลเบลเซอร์จะได้แรงบันดาลใจจากสมรรถนะการขับขี่ ความหรูหรา และศักยภาพของเทรลเบลเซอร์ที่ขับเคลื่อนพวกเขาให้ก้าวสู่เป้าหมายในชีวิตที่สูงขึ้น” อุณากล่าว
ความคิดเห็น