ลุยตรวจสอบสนามแข่งรถโบนันซ่า หลังพบหลักฐานรุกพื้นที่ป่าสงวน แถมจัดคอนเสิร์ตกระทบระบบนิเวศน์วิทยา

สนามแข่งรถโบนันซ่าอันโด่งดัง ที่ใช้เป็นที่แข่งขัน-ทดสอบรถยนต์ และเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตใหญ่หลายต่อหลายครั้ง ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจำนวนมาก พร้อมทั้งส่งผลเสียต่อธรรมชาติ ด้านลูกสาวเจ้าของระบุที่ซื้อมาอย่างถูกต้องและยินดีคืนหากพบว่าผิดจริง

พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ พ.อ.สมหมาย บุษบา ที่ปรึกษาคณะทำงานด้านกฏหมาย กองทัพภาคที่ 2 ได้นำทีมลงตรวจสอบพื้นที่สนามแข่งรถโบนันซ่า ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ของ 'ไพวงศ์ เตชะณรงค์' เนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของสนามดังกล่าวก่อสร้างในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ

โดยพื้นที่ที่ถูกระบุประกอบไปด้วยพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง ป่าเขาอ่างหิน และอยู่ในเขตป่าไม้ถาวร และสร้างทับทางสาธารณประโยชน์และลำรางสาธารณประโยชน์ โดยจากการตรวจสอบพบว่า สนามดังกล่าวมีพื้นที่ทั้งหมด 151 ไร่ มีเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก.จำนวน 5 แปลง เนื้อที่เพียง 47 ไร่เท่านั้น แต่ส่วนที่เหลือเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 32 ไร่ กับพื้นที่ สปก.72 ไร่

"จึงมอบหมายให้กรมป่าไม้ซึ่งเป็นผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ และจะต้องมีการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างทั้งหมด ทั้งนี้ การออกเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก.จำนวน 47 ไร่ดังกล่าว เมื่อปี 2519 ซึ่งนอกจากพบว่าพื้นที่บางส่วนอยู่ในพื้นที่ป่าไม้ถาวรแล้ว ยังปรากฎอีกว่ามีการใช้ประโยชน์พื้นที่เกินจากโฉนดอีกด้วย"

นอกจากนี้ จะมอบหมายให้สำนักงาน ป.ป.ท.ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ์ ที่เพิกเฉยหรือประพฤติมิชอบในการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งให้ดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ต่อไป

ด้าน พ.อ.สมหมาย เปิดเผยว่าได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าสนามโบนันซ่าก่อสร้างอาคารรุกล้ำพื้นที่ป่า และจัดคอนเสริต์ 2 - 3 ครั้งต่อปี ส่งผลกระทบระบบนิเวศน์วิทยา สำหรับการจัดการปัญหานั้น ปลัด อบต.ขนงพระ สามารถรับไปดำเนินการได้ทันที ทั้งในส่วนสนามแข่งรถและตัวอาคาร นอกจากนี้ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องควรไปทบทวนตัวเอง

ด้าน พัทธมน เตชะณรงค์ บุตรสาวของเจ้าของโบนันซ่าเขาใหญ่ กล่าวยืนยันว่าที่ดินทั้งหมดซื้อมาอย่างถูกต้อง โดยมีชาวบ้านมาขอร้องให้รับซื้อ แต่หากตรวจสอบแล้วเป็นพื้นที่ของทางราชการ ทางโบนันซ่าก็ยินดีที่จะคืนให้ เพราะต้องการทำธุรกิจอย่างถูกกฏหมาย รวมทั้งไม่เห็นด้วยกับการบุกรุกป่าไม้

"ยินดีจะให้ตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดของโบนันซ่า ส่วนรายละเอียดพื้นที่ทั้งหมดไม่สามารถชี้แจงได้ ต้องให้ไปสอบถามข้อมูลจากสำนักงานใหญ่ที่ กทม.โดยพื้นที่สนามแข่งรถนี้ก่อสร้างมานาน 8 - 9 ปี แต่เปิดให้บริการจัดแข่งรถมาประมาณ 3 ปี ปีละ 2-3 ครั้ง รวมทั้งเปิดให้ทดสอบสมรรถภาพรถ 5 - 6 คันต่อสัปดาห์"