ไปลองมาสด้า 2 สกายแอคทีฟ-ดี ทางไกล ขับเต็มที่ บี้เต็มแรง กับอัตราประหยัดน้ำมันแบบฟินเวอร์ที่ 22.30 กิโลเมตรต่อลิตร Share this

ไปลองมาสด้า 2 สกายแอคทีฟ-ดี ทางไกล ขับเต็มที่ บี้เต็มแรง กับอัตราประหยัดน้ำมันแบบฟินเวอร์ที่ 22.30 กิโลเมตรต่อลิตร

Golf Autospinn
โดย Golf Autospinn
โพสต์เมื่อ 16 March 2558

แม้จะได้รับเชิญจากมาสด้าไปขับประหยัดน้ำมันกับมาสด้า 2 สกายแอคทีฟ บนเส้นทางกรุงเทพฯ-ปีนัง ประเทศมาเลเซีย บนระยะทางกว่า 1,100 กิโลเมตร แต่ก็มิได้นำพา เพราะเรามองเห็นว่าการทดสอบการใช้งานจริงน่าสนใจกว่าเยอะ เมื่อทราบว่ารถคันนี้วิ่งด้วยตัวเลข 22.30 กิโลเมตรต่อลิตร!!!

ตัวเลขดังกล่าวไม่ได้เกิดจากการปั้นสรรในการขับขี่แต่อย่างใด ต้องขอบคุณบัดดี้คู่รถที่มีความเห็นตรงกันว่าโอกาสในการเปิดให้ขับขี่ทางไกลขนาดนี้ไม่ใช่ว่าจะมีได้ง่าย ๆ ก็อยากลองว่าหากต้องการซื้อมาใช้งานจริง ๆ แล้ว ขับต่างจังหวัดไหวหรือไม่ ถ้าไหวแล้วจะให้อัตรการสิ้นเปลืองที่แท้จริงเท่าไรกันแน่

จับสลากได้บัดดี้คู่ใจเป็นมาสด้า 2 สกานแอคทีฟ-ดี ซีดานรุ่นท๊อป ทั้งที่มีรถนั่งสบายกว่าอย่างซีเอ็กซ์-5 ให้เลือกด้วย แต่ก็ไม่เป็นไรครับ มาสด้า 2 ก็มาสด้า 2 แม้จะเชื่อว่าอาการเมื่อยเมื่อผ่านครึ่งทางไปแล้วน่าจะมีให้เห็นอยู่เยอะก็ตามที

1

อย่าลืมกันว่ามาสด้า 2 รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ได้รับความสนใจกันอย่างมาก ในฐานะรถยนต์ในโครงการอีโคคาร เฟสสองคันแรกของประเทศไทย ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นแรกในเซกเมนต์นี้ และราคาจำหน่ายที่หลายคนบ่นว่าแพงเอาเรื่อง

สำหรับผมแล้วถือว่าเป็นเรื่องปกติที่จะต้องตั้งราคาจำหน่ายประมาณนี้แหละ เพราะอย่าลืมว่าในงานมอเตอร์โชว์ที่จะถึงนี้ มาสด้าเองก็เตรียมเปิดรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร ที่ว่ากันว่าราคาจะมาประกบที่ด้านล่างของรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล เพื่อเป็นทางเลือกให้คนที่มีงบไม่ถึงเครื่องยนต์ดีเซล

5

ด้านสมรรถนะและการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม เราได้เคยนำเสนอไปแล้วหลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นบททดสอบสั้น ๆ ที่ประเทศญี่ปุ่น หรือการกลับมาทดสอบอย่างจริงจังที่ภาคเหนือของประเทศไทย เหลือแต่เรื่องอัตราสิ้นเปลืองนี่แหละที่ยังไม่ได้จับต้องอย่างเป็นรูปธรรม

ก่อนออกเดินทาง ผมทำข้อตกลงกับน้องที่ร่วมทริปไปด้วยกันว่าเราจะขับแบบใช้งานจริงนะ ช่วงไหนเร็วได้ก็เร็ว ช่วงไหนไปเรื่อย ๆ ก็เอาปลอดภัย ไม่เร่งรีบหรือตั้งใจขับจนเกินไป เรียกว่าต้องการให้ได้ตัวเลขการใช้งานจริงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เพราะในชีวิตจริงของการขับขี่รถยนต์ทางไกลนั้น เราก็ขับเร็วบ้าง ช้าบ้าง สลับกันไปตามความพร้อมของร่างกายอยู่แล้ว บางช่วงก็อยากจะลองเล่นกับรถ บางช่วงเหนื่อย ๆ เพลีย ๆ ก็ปล่อยรถวิ่งไปเรื่อย ๆ เท่าที่จะทำได้

3

ยังคุยกันเล่น ๆ ก่อนออกตัวว่าสถิติการประหยัดน้ำมันของรถเราน่าจะแย่ที่สุด แต่ก็ว่ากันว่าหากเห็นตัวเลข 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไปก็ถือว่าประเสริฐมากแล้วสำหรับรถคันนี้!!!

การทำความเร็วตลอดระยะทางการขับขี่นั้น ทีมของเราซึ่งอยู่ในรถเบอร์ 02 เดินหน้าไปแบบเรื่อย ๆ เข้าทีซีคนแรก ออกคนสุดท้าย เน้นการขับขี่ปลอดภัยแบบใช้งานจริงไปตลอดเส้นทาง

ความเร็วเฉลี่ยในการขับขี่อยู่ที่ 90-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในบางช่วงสามารถทำความเร็วได้กว่า 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งผ่านผู้แข่งขันที่ต้องการแข่งขันขับประหยัดกันอย่างเข้มงวด แถมรถคันนี้ยังมีแวะซื้อกาแฟดื่มกันไปตลอดทางอีกต่างหาก

2

อย่างที่ทราบว่าเราเข้าที่พักกันที่สุราษฏร์ธานีในคืนวันแรกด้วยระยะทาง 661 กิโลเมตร โดยที่มาตรวัดระบุว่ารถยังสามารถวิ่งได้อีก 229 กิโลเมตร และมาตรวัดระบุว่ามีการสิ้นเปลืองน้ำมันไป 4.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือประมาณ 22.22 กิโลเมตรต่อลิตร

ถ้าเทียบกับการขับขี่ที่ใช้แล้ว ตัวเลขสถิตินี้ถือว่าน่าเพียงพอใจมากอยู่แล้ว  กับรถที่ให้สมรรถนะการขับขี่อย่างดีเยี่ยม แม้ในด้านความสบายในการเดินทางไกลจะยังมีอาการเมื่อยก้น ปวดหลังมาให้เห็นกันบ้างตั้งแต่กลาง ๆ ทาง

คณะกรรมการได้เดินมาคุยกับทีม 02 แล้วบอกว่าพรุ่งนี้ตัดสินใจจะเติมน้ำมันให้ที่จุดพักรถที่พัทลุง ช่วยขับกันไปให้ถึงด้วย ซึ่งหากดูจากมาตรวัดแล้ว เราก็คงจะไปถึงได้แบบพอดีพอดี ไม่ได้เหลือน้ำมันในถังมากนักแต่ก็คาดว่าจะไม่ดับกลางทาง

4

เราออกเดินทางต่อด้วยวิธีการขับที่เกือบจะเหมือนเดิม แต่ต้องเปลี่ยนให้เหมาะสมกับพื้นผิวของถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อค่อนข้างมาก การทำความเร็วสูงไม่ใช่ปัญหา แต่เราห่วงช่วงล่างของรถที่เซตอัพมาไม่ได้รองรับการใช้งานแบบนี้

แน่นอนครับว่าตลอดทางเรายังเห็นการแข่งขันที่เข้มข้นไปตลอดทาง เรียกว่าเห็นแล้วต้องยอมรับนับถือในความอดทนของผู้ขับขี่แต่ละคันเป็นอย่างมาก ที่ประคองควาามเร็วของรถเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันสูงสุด

ในที่สุดเราก็มาถึงพัทลุงครับ ทีมงานแจ้งอย่างเป็นทางการอีกครั้งว่าจะเติมน้ำมันให้และรถคันนี้ดิสควอลิฟายออกจากการแข่งขัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เราทราบกันดีและตกลงร่วมกันในผู้ขับขี่ 2 คนอยู่แล้วว่าผลจะออกมาเยี่ยงนี้

ทีมงานได้เติมน้ำมันลงไปเรื่อย ๆ จนตัดและค่อย ๆ กรอกลงมาจนน้ำมันอยู่ที่คอของถังน้ำมันแบบล้นปรี่ ซึ่งเป็นการเติมแบบเดียวกับที่ใช้ในการเติมน้ำมันครั้งแรกเพื่อทำการทดสอล ซึ่งผลที่ได้ถือว่ายังน่าพอใจ

pic20150315114906

ตลอดระยะทางจากกรุงเทพมหานคร-พัทลุง บนเส้นทาง 798.9 กิโลเมตรนั้น มาสด้า 2 สกายแอคทีฟ-ดี ซีดาน ใช้น้ำมันไปเพียง 35.83 ลิตรเท่านั้น หรือคิดเป็น 22.296 กิโลเมตรต่อลิตร ปัดเศษตามกติกาที่ระบุไว้ก็คือ 22.30 กิโลเมตรต่อลิตรเท่านั้นเอง

ผมคงไม่พูดถึงตัวเลขประหยัดน้ำมันที่ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นทำได้ เพราะโดยส่วนตัวคิดว่าไม่มีประโยชน์อะไรต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ตัวเลขที่เราทำได้นั้น แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของรถยนต์นั่งไซส์เล็กที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลคันนี้ได้เป็นอย่างดีแล้ว

โดยไม่ต้องจำเป็นต้องปัั้นสรรตัวเลข 30 กิโลเมตรต่อลิตรออกมาให้คนอ่านสงสัยว่าขับกันอีท่าไหนถึงได้แบบนั้นเลยด้วยซ้ำ!!!


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ