เป็นที่ทราบกันดีว่า รถเล็กระดับซับคอมแพกต์มีการแข่งขันกันดุเดือดเลือดพล่านที่สุดเซกเมนท์หนึ่งในตลาดรถเมืองไทย เพราะไม่เพียงมียักษ์ใหญ่ออกแข่งขันกันอย่างพร้อมหน้าเท่านั้น หากลูกค้าหลายคนยังนำรถซับคอมแพกต์บางรุ่นไปเปรียบเทียบกับรถอีโคคาร์ก่อนตัดสินใจซื้อด้วย
แต่การแข่งขันที่สูงลิบลิ่วก็มาพร้อมกับความหอมหวานที่เชิญชวนให้หลายค่ายรถกระโดดเข้าร่วมวงไพบูลย์ ล่าสุดคือค่ายเอ็มจีที่ประกาศเปิดตัวเอ็มจี3 (MG3) และเอ็มจี3 ครอส (MG3 xross) ออกทำตลาดรถเล็กเป็นรายล่าสุด
แน่นอนว่าเอ็มจี3 จะต้องเผชิญกับคู่แข่งระดับพระกาฬมากมาย ซึ่งรวมถึงฮอนด้า แจ๊ส และมาสด้า 2 ที่มีความสดใหม่ที่สุดในตลาดเวลานี้ เราลองเปรียบเทียบน้องใหม่กับพี่ใหญ่ในวงการให้ท่านผู้อ่านชมกันเพลินๆ
การออกแบบและอุปกรณ์
เริ่มมีให้เห็นกันบนท้องถนนมากขึ้นตามลำดับ มาสด้า 2 มีความสดใหม่โดดเด่นดึงดูดสายตาทั้งในรุ่นซีดานและแฮทช์แบ็ก ดีไซน์ของรถเล็กรุ่นนี้ได้รับรางวัลการันตี “ผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมจากญี่ปุ่น” พ่วงด้วย “รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี” ของญี่ปุ่น ถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของทีมงานมาสด้าในตลาดบ้านเกิด แต่สำหรับตลาดเมืองไทยและอีกหลายประเทศอาจต้องรอการพิสูจน์ความสำเร็จกันในระยะยาว
อย่างที่เราเคยรายงานบททดสอบไปแล้วหลายครั้ง การออกแบบภายในของมาสด้า 2 ดูสะอาดตา รุ่นท็อปไลน์มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมายเหนือชั้นกว่าคู่แข่งทุกรายในท้องตลาด แต่ถ้าเลือกรุ่นกลาง สิ่งที่ขาดไปอย่างชัดเจนก็คือหน้าจอเฮดอัพดิสเพลย์และจอแสดงผลขนาดใหญ่ตรงกลางซึ่งเปลี่ยนเป็นวิทยุธรรมดา รวมถึงเบาะหนังที่ถูกเปลี่ยนเป็นเบาะผ้า
การรับน้ำหนักของเบาะผ้าอาจสู้เบาะหนังไม่ได้และทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าหากต้องเดินทางไกลได้ง่ายกว่า ส่วนเบาะที่นั่งตอนหลังของมาสด้า 2 นั้น แม้จะได้รับการออกแบบมาใหม่ แต่ก็ยังเป็นเบาะที่นั่งที่สั้นและมีพื้นที่วางขาที่ถือว่าสั้นกว่ารถของคู่แข่งหลายรุ่น การรองรับขาของผู้โดยสารยังทำได้ไม่ค่อยดีนัก เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ออกแบบมาเพื่อเป็นรถเอนกประสงค์
อาจจะไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนักสำหรับฮอนด้า แจ๊สเพราะเปิดตัวออกทำตลาดมานานกว่าใครเพื่อน แจ็สโฉมใหม่ซึ่งนับเป็นเจนเนอเรชั่นที่สามถูกแต่งเติมเส้นสายความสปอร์ตและทันสมัยมากขึ้น เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าหลายช่วงอายุ ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ตลอดจนคนรักความสปอร์ตที่น่าจะถูกใจดีไซน์ที่มีลูกเล่นเยอะแบบนี้ แจ๊สถือเป็นรถขวัญใจมหาชนเลยก็ว่าได้
สิ่งที่ฮอนด้า แจ๊สมีความโดดเด่นเหนือกว่ารถทุกรุ่นในเซกเมนท์เดียวกันนับตั้งแต่เจนเนอเรชั่นแรกมาจนถึงเจนเนอเรชั่นปัจจุบันคือความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร แจ๊สรุ่นใหม่ยังมีตัวถังที่ยาวขึ้นและมีฐานล้อกว้างขึ้นทำให้พื้นที่ตอนหลังสะดวกสบายมากกว่าเดิม เบาะนั่งด้านหลังแบบอัลตรา ซีทสามารถปรับพับได้สี่โหมด ห้องสัมภาระท้ายมีความจุมากถึง 363 ลิตร (แบบยังไม่พับเบาะลง) พนักเท้าแขนด้านหน้ามาพร้อมกล่องเก็บแท็บเล็ต บนคอนโซลมีหน้าจอสัมผัสขนาดเจ็ดนิ้วรองรับกล้องมองภาพหลังและเชื่อมต่อกับ USB, AUX และ HDMI
เอ็มจี3
เอ็มจี3 มาพร้อมการออกแบบภายนอกที่ดูแปลกตาและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากพอสมควร เน้นเส้นสายโดดเด่นและมีสันขอบที่เฉียบคมเพื่อเอาใจลูกค้าคนรุ่นใหม่หรือกลุ่มวัยรุ่น ตัวถังรถดูสั้นและสูง หากมองเผินๆ จะพบว่าตัวรถค่อนข้างใหญ่โต กรอบโคมไฟทั้งด้านหน้าและด้านท้ายออกแบบอย่างลงตัวมีสไตล์ รุ่นตัวถังสีเหลืองสดตัดกับเสาหลังคาสีดำดูเท่ไปอีกแบบ บนหลังคามีซันรูฟปรับไฟฟ้า รวมถึงมีเดย์ไลท์ให้ความสวยงามและปลอดภัย
ลูกค้าสามารถเลือกได้ทั้งเอ็มจี3 รุ่นสแตนดาร์ด และเอ็มจี3 ครอส ซึ่งมีการตกแต่งที่แตกต่างกันมากพอสมควร โดยรุ่นเอ็มจี3 ครอสเน้นภาพลักษณ์สมบุกสมบันแบบรถครอสโอเวอร์ ใช้ล้ออัลลอย 16 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ตามที่เราเคยรายงานไปหลังจากได้ทดลองขับแบบสั้นๆ ภายในรุ่นครอสดูสวยงามด้วยเบาะหนังแบบตกแต่งสลับสี ขณะที่รุ่นธรรมดาเป็นเบาะผ้าที่รองรับน้ำหนักยังไม่ค่อยดีนัก เบาะที่นั่งด้านหลังนั่งได้อย่างกว้างขวาง สะดวกสบาย แม้ตัวเบาะจะไม่รองรับขาหรือน้ำหนักผู้โดยสารสักเท่าไรนัก ในส่วนของแผงคอนโซลยังดูเหมือนจะใช้งานยากอยู่เหมือนรุ่นพี่อย่างเอ็มจี6
เครื่องยนต์
มาสด้า 2
วางเครื่องยนต์ดีเซลสกายแอดทีฟ-ดี (Skyactiv D) ความจุ 1.5 ลิตร ประกบกับระบบเกียร์สกายแอคทีฟ-ไดรฟ์ (Skyactiv-Drive) ซึ่งเพิ่งเดินสายการผลิตในประเทศไทย ให้พละกำลัง 105 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตรที่ 1,500 – 2,500 รอบ/นาที
ความโดดเด่นที่มาสด้าเน้นโปรโมทอยู่ในเวลานี้ คือความประหยัดน้ำมันซึ่งเพิ่งเชิญสื่อมวลชนไปร่วมทดสอบความประหยัดกันไกลถึงมาเลเซีย เพื่อพิสูจน์ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองตามมาตรฐานยุโรปที่ทางมาสด้าเคลมไว้ว่า 26.3 กม./ลิตร
ผลการทดสอบของเราหลังจากขับขี่แบบใช้งานจริง วิ่งช้าบ้างเร็วบ้างตามจังหวะการจราจรและสภาพร่างกายอยู่ที่ 22.30 กิโลเมตรต่อลิตร ถือเป็นตัวเลขที่สวยสดงดงามและน่าจะมีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อของลูกค้าพอสมควร แต่แน่นอนว่าการขับขี่ทางไกลในรถขนาดซับคอมแพกต์เช่นนี้ย่อมแลกกับความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ากว่ารถขนาดใหญ่กว่า
ฮอนด้า แจ๊ส
แจ๊สมาพร้อมกับขุมพลังบล็อกอเนกประสงค์ตอบสนองการใช้งานในเมืองก็ได้-นอกเมืองก็ดี เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ไอ-วีเทค ความจุ 1.5 ลิตร รองรับเชื้อเพลิงอี85 พละกำลังสูงสุด 117 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 146 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่องหรือ CVT แบบ 7 สปีดพร้อมด้วยแป้นแพดเดิลชิฟท์เปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ติดตั้งระบบช่วยขับขี่แบบประหยัดน้ำมันที่แสดงผลอย่างชัดเจนบนหน้าจอ
นักทดสอบของเรายืนยันว่านี่คือเครื่องยนต์ที่ตอบสนองดีที่สุดในเซกเมนท์ แต่จุดด้อยที่ชัดเจนก็คือเสียงเครื่องยนต์ที่ดังลอดเข้ามาในห้องโดยสาร โดยเฉพาะจังหวะคิกดาวน์ แต่ถ้าการขับขี่แบบธรรมดาก็มีความนุ่มนวล อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่เกือบ 12 วินาที สำหรับระบบเบรกเป็นแบบหน้าดิสก์ หลังดรัม ซึ่งถือเป็นการลดสเปกจากแจ๊สรุ่นก่อนหน้าที่เป็นดิสก์เบรกสี่ล้อ ส่วนระบบความปลอดภัยถือว่าครบครัน
เอ็มจี3
เครื่องยนต์มีขนาด 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร 16 วาล์ว มาพร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ ให้กำลังสูงสุด 106 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 135 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดเซเลเมติก รองรับเชื้อเพลิงได้ถึง E85 ซึ่งดูจากตัวเลขต่างๆแล้ว ถือเป็นเครื่องยนต์ที่ให้สมรรถนะระดับกลาง ๆ ไม่ได้โดดเด่นแบบหวือหวา อย่างไรก็ตาม เราจะรายงานความรู้สึกในการขับขี่โดยละเอียดอีกครั้งเมื่อได้สัมผัสตัวจริงกันแบบยาวๆ
สรุป
ฮอนด้า แจ๊สเคาะเริ่มต้น 555,000 บาทไปถึงรุ่นท็อป SV+ ราคา 754,000 บาท ขณะที่มาสด้า 2 เจนเนอเรชั่นใหม่เปิดราคาเริ่มต้นที่ 675,000 บาทถึง 790,000 บาท
ส่วนผู้ท้าชิงรายล่าสุด เอ็มจี3 เคาะราคา 4 รุ่นย่อยได้น่าสนใจพอสมควร เริ่มจากแฮทช์แบ็ก 3 รุ่น คือรุ่นซี 4.79 แสนบาท รุ่นดีที่ 5.09 แสนบาทและรุ่นเอ็กซ์ที่ 5.59 แสนบาท ขณะที่รุ่นเอ็มจี3 ครอสมีรุ่นเอ็กซ์รุ่นเดียวที่ 5.95 แสนบาท
ถึงแม้มาสด้า 2 จะมีค่าตัวแพงที่สุดแต่ก็ขึ้นแท่นกลายเป็นผู้นำรถแห่งความประหยัดทันทีหลังผ่านการทดสอบอันยาวไกลด้วยตัวเลขทะลุ 22 กม./ลิตรตามที่เขียนไว้ข้างต้น เครื่องยนต์ดีเซลสกายแอดทีฟ-ดียังตอบสนองด้านอัตราเร่งได้ดีด้วยแรงบิดที่รวดเร็วทันใจ แถมยังอัดแน่นเทคโนโลยีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติไอ-สต๊อปและระบบการหมุนเวียนพลังงานไอ-อีลูป รวมถึงระบบด้านความปลอดภัยไอ-แอคทีฟเซนส์ พร้อมมีหน้าจอแสดงผล head-up display
ด้านรถยอดฮิตอย่างแจ๊สมีดีที่แบรนด์อันแข็งแกร่ง และความกว้างขวางในห้องโดยสารที่สะดวกสบายที่สุดในรถระดับเดียวกัน ในส่วนของความอเนกประสงค์ยังโดดเด่นที่สุดด้วยโดยเฉพาะเมื่อพับเบาะแถวหลังลงก็สามารถบรรทุกสิ่งของได้เต็มพิกัด สมรรถนะการขับขี่ออกแนวใช้งานได้ทุกสภาวะ
ดูแล้วน้องใหม่แกะกล่องอย่างเอ็มจี3 อาจต้องกัดฟันสู้กันยกใหญ่ โดยจุดเด่นอยู่ที่ราคาจำหน่ายค่อนข้างย่อมเยาซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดลูกค้าหลายคนหันมาพิจารณา เอ็มจี3 ได้รับการพัฒนาด้วยแนวคิด Brit Dynamic เน้นคุณภาพและการออกแบบที่ดี ตลอดจนความคุัมค่าของราคาที่แข่งขันได้
“เรามั่นใจว่าเอ็มจี3 จะประสบความสำเร็จและก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในใจผู้บริโภคชาวไทยที่มองหาความแตกต่าง สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างลงตัว” หวู่ ฮวน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทยว่าไว้อย่างนั้น
ความคิดเห็น