ขอความเป็นธรรมให้หนุ่มนินจา ชาวสองล้อนับพันบุกทวงถามความยุติธรรม

กลายเป็นประเด็นร้อน หลังจากที่มีข่าวรถจักรยานยนต์ฝ่าด่านตำรวจที่ชลบุรีแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าชาร์ท จนทำให้ชายหนุ่มที่ขับขี่รถจักรยานยนต์คนดังกล่าวเสียหลักและเกิดอุบัติเหตุล้มลงในที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิเข้าช่วยเหลือในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นยังปฏิเสธและขอให้เป็นเรื่องของนิติเวช

ย้อนไปวันเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 14 มี.ค.58 เวลา 22.00น.  นายนเรศ โรจน์บุณส่งศรี อายุ 40 ปี ได้ขี่จักรยานยนต์ รุ่นคาวาซากิ นินจา สีส้มดำ ผ่านจุดเกิดเหตุที่เป็นด่านตรวจ ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดและยังโดนกรวยปาใส่จนล้มพับลงบนถนน โดยชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เห็นนายนเรศขี่รถจักรยานยนต์ผ่านไปเฉยๆ เชื่อว่าอาจมองไม่เห็นเจ้าหน้าที่ เนื่องจากด่านของเจ้าหน้าที่ไม่มีไฟแจ้งจุดตรวจ หรือไฟสัญญาณใดๆ มีเพียงเจ้าหน้าที่ยืนดักอยู่เฉยๆ ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้น โดยเชื่อว่ามาจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนจะมีเสียงโวยวายและเห็นมีการปากรวยใส่จนนายนเรศล้มลงอยู่กับพื้น

หลังเกิดเหตุได้มีการเรียกหน่วยกู้ภัยมาปฐมพยายามเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาลด้วยอาการสาหัสถึงขั้นโคม่า ด้านชาวบ้านต่างออกความเห็นว่า เจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ ด้านคลิปที่ปรากฎบนโลกโซเชียลล้วนมีแต่คำวิพากษ์วิจารณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจในทางลบ บางรายก็ว่า "ถ้าเป็นลูกเป็นหลานตัวเองโดนแบบนี้บางจะเป็นยังไง" และในที่เกิดเหตุยังมีผู้เก็บปลอกกระสุนปืนได้ 1 นัด แต่ยังไม่มีการแสดงความรับผิดชอบการฝ่ายเจ้าหน้าที่ ณ วันนั้น

จนเวลาล่วงเลยมาจึงมีคำสั่งจาก ผู้บัญชาการภาค 2 สั่งการให้ ผกก.สภ.หนองขาม สอบลูกน้องเป็นการด่วน หลังคลิป "ตั้งด่าน ยิงประชาชน หนองขาม" แชร์กระหน่ำบนโลกโซเชียล ด้าน พล.ต.ต.นิติพงศ์ เนียมน้อย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี กล่าวถึงการเสียชีวิตของนายนเรศว่า จากการสอบสวนพบว่านายนเรศขี่รถออกมาจากร้านเหล้า อาจกลัวการถูกเป่าสุราจับขับขี่ฝ่าด่านด้วยความเร็วและพุ่งชนตำรวจ ซึ่งสวนทางกับปากคำของชาวบ้านที่บอกว่า นายนเรศขี่จักรยานยนต์ผ่านไปช้าๆ และทางญาติเองก็ยืนยันว่า นายนเรศขี่รถกลับจากตลาด ทั้งนี้ พล.ต.ต.นิติพงศ์ เนียมน้อย ยังได้กล่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าไม่ใช่ยิงใส่นายนเรศโดยตรง

ล่าสุดได้มีข่าวออกมาว่า นายนเรศ โรจน์บุญส่ง ได้เสียชีวิตลงแล้วที่ ร.พ.พญาไท(ศรีราชา) โดยแพทย์ระบุในใบรับรองว่าเสียชีวิตจากบาดแผลถูกยิงที่ศรีษะ สมองช้ำอย่างรุนแรง (แหม่...ยิงขึ้นฟ้าลงหัวพอดีเลยเนอะ) ด่านเจ้าหน้าที่ได้มีคำสั่งด่วนย้าย ดต.สุพรรณ ชำนิจ ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราม สภ. หนองขาม มาช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี

ด้านชุมชนบนโลกโซเชียลเริ่มมีการรวมตัวกันของผู้ใช้จักรยานยนต์ทั้งรถเล็กรถใหญ่เพื่อเรียกร้องหาความยุติธรรมให้กับ นายนเรศ โรจน์บุญส่ง หรือหนุ่มนินจา จนกำลังเป็นกระแสโด่งดังในโลกโซเชียลไม่เพียงแค่ในชุมชนผู้ใช้รถจักรยานยนต์เท่านั้น แต่กินวงกว้างมากไปถึงเพจใหญ่ๆ หลายเพจ ลามไปถึงการรวมกลุ่มไปร้องเรียนตามที่ต่างๆ อย่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และตามสื่อแขนงต่างๆ หรืออย่างล่าสุดที่ประชาชนกว่าพันคน รวมตัวกันไปร้องขอความเป็นธรรมที่ สถ.หนองขาม แต่กลับไม่พบเจ้าหน้าที่แม้แต่คนเดียว ทำให้เกิดคำถามและข้อสงสัยตามมามากมายว่า ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน ความรับผิดชอบอยู่ที่ใด แล้วนายนเรศ โรจน์บุญส่ง ต้องเสียชีวิตไปแบบฟรีๆ โดยไร้ความรับผิดชอบจากฝ่ายใดเลยอย่างนั้นหรือ

ประเด็นดังกล่าว ทำให้ข้อกังขาระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชนทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ไหนจะเรื่องการตั้งด่าน การเลือกปฏิบัติ และการรับสินบน ที่ทำให้มุมมองของประชาชนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในปัจจุบันนั้นเปลี่ยนไป เชื่อว่าการรวมตัวกันของโลกโซเชียลน่าจะทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตื่นตัวกับเรื่องนี้ แล้วหันมาพิจารณาการกระทำของตัวเองมากขึ้น และเชื่อว่าคนไทยหลายๆ คนทั้งในโซเชียลและแบบตัวเป็นๆ เห็นกันได้ จะไม่ยอมให้การเสียชีวิตของ หนุ่มนินจา คนนี้ต้องสูญเปล่า

ขณะเดียวกันหลังจากวันเกิดเหตุเรื่องหนุ่มนินจาถูกยิง ในคืนวันที่ 16 มีนาคม ยังมีการรับแจ้งเหตุเมาแล้วขับที่สามแยกบางแสนโดยเป็นรถยนต์ โตโยต้า ยาริส สีดำ ทะเบียน กบ5030 โดยมีรถอีซูซุ สีดำ ทะเบียน กน 6382 ชลบุรี ชนท้ายในขณะที่จอดติดไฟแดงอยู่อย่างจัง ด้านผู้ขับรถอีซูซุมีสภาพเมาคุยไม่รู้เรื่อง ไม่ยอมลงจากรถ สืบทราบภายหละงว่าผู้ขับขี่คือ ด.ต. สุพรรณ ชำนิจ (ดาบยัก) สังกัด สภ.อ.หนองขาม แต่ร้อยเวรไม่ได้ทำการเป่าแอลกอฮอล์โดยอ้างว่าเครื่องเสียส่งไปซ่อม โดยตั้งเพียงข้อหาขับรถประมาท ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ซึ่งทางเพจอย่าง CSI LA ตั้งข้อสังเกตว่า ด.ต.สุพรรณ ชำนิจ นั้นเป็นคนเดียวกับที่ยิงหนุ่มนินจาเสียชีวิต

ล่าสุด วันที่ 18 มีนาคม ทาง พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าได้แจ้งข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา แก่ ด.ต.สุพรรณ ชำนิจ พร้อมยืนยันว่า การเสียชีวิตของนายเรศนั้นเกิดจากการถูกยิงแน่นอน มิใช่เสียชีวิตจากเหตุรถจักรยานยนต์ล้มตามที่หลายคนพยายามเบี่ยงเบน

เชื่อว่าการที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ออกมาแสดงความรับผิดชอบและตัดสินใจมีการเคลื่อนไหวในระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาจากกระแสกดดันทั้งจากในโลกออนไลน์ สื่อแขนงต่างๆ และการเคลื่อนไหวของกลุ่มบิ๊กไบค์ในช่วง 1-2 วันมานี้ที่ต่างทวงถามถึงความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ต่อการกระทำที่เกินกว่าเหตุ รวมถึงความยุติธรรมที่ผู้เสียชีวิตควรจะได้ แต่คงด่วนสรุปกันตอนนี้ไม่ได้เพราะขั้นตอนอาจไปยืดเยื้อในชั้นศาล รวมถึงการเล่นแง่ต่างๆ จนทำให้คดีถูกดองไปในท้ายที่สุด