[สัมภาษณ์] เปิดใจ อุณา ตัน กับภารกิจผลักดันเชฟโรเลตให้เติบโตในประเทศไทยอีกครั้ง!!!

เข้ามารับตำแหน่งในเชฟโรเลต ประเทศไทย ได้ประมาณครึ่งปี ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่กับองค์กรที่ตัวเองเพิ่งมาเริ่มงานด้วย แต่ผู้บริหารมืออาชีพอย่าง อุณา ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เชฟโรเลต ประเทศไทย กลับยังเชื่อมั่นในองค์กรแห่งนี้อยู่

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมาของเชฟโรเลตในอาเซียน ตั้งแต่การปิดโรงงานประกอบรถยนต์ในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นฐานการผลิตรถเอ็มพีวีเล็กอย่างเชฟโรเลต สปิน รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนแผนงานครั้งใหญ่ในประเทศไทยตามที่เป็นข่าวมา

หลังจากนั้นไม่นาน เชฟโรเลตก็สร้างความมึนงงให้กับผู้ที่ติดตามด้วยการเปิดตัวเชฟโรเล โคโรลาโด ไฮ คันทรี่ รถปิกอัพในกลุ่มไฮเอนด์ที่สุดของค่าย ที่ดูแล้วไม่น่าจะสร้างยอดขายเป็นกอบเป็นกำ ก่อนที่จะประกาศปรับราคาจำหน่ายพร้อมเพิ่มรุ่นย่อยให้กับตลาดระดับกลาง

อุณา ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เชฟโรเลต ประเทศไทย บอกว่าแผนทั้งหมดนี้ เป็นการปรับเปลี่ยนพอร์ตของสินค้าเพื่อรองรับการความต้องการของผู้บริโภค เมื่อประกาศว่าจะเน้นการทำตลาดรถเชิงพาณิชย์ ก็ทำให้โคโรลาโดมีการเพิ่มรุ่นย่อยเป็น 10 รุ่น จากเดิมที่มี 7-8 รุ่น

"หลายคนอาจจะมองไปที่ราคาจำหน่ายที่ลดลง 1-4 หมื่นบาทแล้วแต่รุ่น แต่นอกจากการปรับราคาให้เหมาะสมแล้ว เราได้ทำการปรับสินค้าตามความต้องการของลูกค้า เช่น การเพิ่มถุงลมคู่หน้าไปในรถทุกรุ่น ระบบช่วยถอยที่มีตั้งแต่รุ่นกลาง หรือเบาะหนังที่มีตั้งแต่รุ่นแอลทีแซด"

การปรับปรุงทั้งหมดนี้ จะทำให้เชฟโรเลตเดินหน้าเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มได้ดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดปิกอัพพรีเมียมที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา และเป็นตลาดที่เชฟโรเลตมั่นใจว่ามีความเชี่ยวชาญอย่างมากเช่นกัน

สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เธอยอมรับว่ามีผลกระทบในช่วงแรกจากการที่ผู้บริโภคยังสับสนกับข้อมูลที่เกิดขึ้น รวมไปถึงตัวแทนจำหน่ายก็เช่นกัน ซึ่งจากการพูดคุยอย่างต่อเนื่องที่ผ่านมา ก็พบว่าปัญหาดังกล่าวลดน้อยลงไปมาก และทุกคนก็พร้อมเดินหน้าต่อ

ทั้งนี้ ต้องขอยืนยันว่าเชฟโรเลตไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย แม้ตัวเลขการผลิตอาจจะปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสม แต่รถที่ทำตลาดอยู่ก็จะเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าจะเป็นโคโรลาโด เทรลเบลเซอร์ แคปติว่าหรือแม้แต่ครูซก็ตาม

"ที่ผ่านมา จีเอ็มลงทุนกับโรงงานในประเทศไทยไปจำนวนมาก ด้วยหวังจะให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ทำให้เราเห็นไลน์ผลิต 2 ไลน์ รวมถึงโรงงานเครื่องยนต์ในไทย ทุกอย่างก็ยังเดินหน้าต่อ แต่เราจะต้องปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์มากขึ้นก็เท่านั้น"

ทั้งนี้ เชฟโรเลตผลิตรถปิกอัพในประเทศไทยในปี 2557 ที่ 35,841 คัน และมีการผลิตรถยนต์นั่งและเอสยูวีอีกจำนวนหนึ่ง โดยเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 12,863 คันและส่งออก 23,553 คัน โดยส่งออกโคโรลาโดไปจำหน่ายใน 9 ประเทศ รวมถึงเทรลเบลเซอร์และแคปติว่าไปหลายประเทศ

อุณาบอกว่าเป้าหมายทางด้านการขายในประเทศไทยปีนี้ อยู่ที่การรักษาส่วนแบ่งตลาดให้ได้ที่ 2.97% เท่ากับปีที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเป็นงานที่ท้าทายมากเมื่อดูจากตัวเลขไตรมาสแรกที่ทำไปได้เพียง 2.515 คัน ตกไปมากกว่าการหดตัวของตลาด

แต่เธอก็ยังเชื่อมั่นว่ามีแนวโน้มที่จะเป็นไปได้ เพราะยังเหลือเวลาให้ทำงานอีกครึ่งปี แล้วมารอดูผลงานของเธอกัน...