กลับมาอีกครั้งกับช่วงลองของจริงกับ 2015 มาสด้า 2 สกายแอคทีฟ-จี รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร ที่มาสด้าเชิ้อเชิญให้เราไปร่วมแข่งในรูปแบบของการขับประหยัดน้ำมัน เหมือนกับที่เคยทำมาก่อนหน้าตอนเปิดตัวรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล
มาสด้าเคยชวนไปร่วมทดสอบมาสด้า 2 เครื่องยนต์เบนซินแล้วครั้งหนึ่ง แต่เป็นการขับไปมาในกทม.และปริมณฑล ซึ่งก็ถือว่าเป็นรถยนต์ที่ให้การตอบสนองดีในระดับหนึ่งในการใช้งานในเมือง และมาทดลองซ้ำอีกครั้งในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ด้วยมาตรฐานการขับของเราที่ยากจะจูนให้ติดกับการขับประหยัดน้ำมันได้ ทำให้เราตัดสินใจขับแบบที่เราถนัดกันไปตลอดเส้นทาง แบบน้ำมันหมดที่ไหนก็เติมที่นั่น วัดอัตราการสิ้นเปลืองกันแบบจะจะแบบไม่สนใจเพื่อนร่วมทาง
แม้รถยนต์อีก 19 คันที่เหลือจะสามารถวิ่งจากกทม.ไปถึงแม่สายได้แบบไม่มีปัญหา แต่ก็เป็นการขับที่มีข้อจำกัดค่อนข้างมาก ทั้งเรื่องของการทำความเร็ว การเปิดเครื่องปรับอากาศ และเรื่องอื่น ๆ อีกมากมายหลายประการในแบบการขับประหยัดน้ำมัน
แต่รถยนต์เบอร์ 9 ที่ขับไปแบบสบาย ๆ เร่งแรงแซงทุกจังหวะ เปิดโหมดสปอร์ตไปบ้างตามจังหวะที่ต้องการแรงของเครื่อง แต่รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตรคันนี้ ก็ยังวิ่่งไปได้ถึงลำปางแบบสบาย ๆ เหลือน้ำมันติดก้นถังให้วิ่งได้อีกเล็กน้อย
ผมถอดกรอบกันการปรับเครื่องปรับอากาศทิ้งตั้งแต่กลางทาง เพราะรถของเรามีผู้โดยสารตอนหลัง แอร์เบอร์ที่มาสด้าวางเอาไว้ให้ไม่เพียงพอต่อการดูแลอากาศในรถให้เย็นสบาย เพราะยังไงเราก็ตั้งใจดิสควอลิฟายจากการแข่งขันนี้อยู่แล้วแต่ต้น
มาสด้า 2 สกายแอคทีฟ-จีนั้น ถือเป็นรถธงของมาสด้าในการทำตลาดรถยนต์นั่งระดับบี-เซกเมนต์และอีโคคาร์ แม้รถตัวท๊อปอย่างเครื่องยนต์ดีเซลจะให้สมรรถนะที่ยอดเยี่ยมและการน้ำมันที่โดดเด่น แต่ก็มีราคาจำหน่ายที่เหนือกว่าการคาดหมาย
รูปร่างภายนอกสวยงามตามสมัยนิยม ห้องโดยสารภายในแม้จะเล็กไปเล็กน้อยที่ด้านหลัง แต่เมื่อได้ทดลองขับกันไกล ๆ ต้องบอกว่าเบาะที่นั่งโดยสารและผู้ขับขี่นั้น ให้การรับน้ำหนักที่ดีกว่าคาด ทางไกลสุดแม่สายก็ไม่ก่อให้เกิดอาการเมื่อยล้า
เครื่องยนต์เบนซินสกายแอคทีฟ-จี ขนาด 1.3 ลิตรตามข้อจำกัดของโครงการอีโคคาร์ เฟสสอง ให้กำลังสูงสุด 93 แรงม้าที่ 5,800 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมโหมดสปอร์ต
การตอบสนองของเครื่องยนต์ถือว่าจี๊ดจ๊าดเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ระดับใกล้เคียงกัน จี๊ดจ๊าดกว่าเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรทุกรุ่นและเป็นรองเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรไม่มาก ยิ่งโหมดสปอร์ตยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถ้าติดลมแล้วแข่งได้แบบไม่ยากเย็นอะไรนัก
การกดคันเร่งไปแล้วมีอาการเหมือนเครื่องยนต์คิดอะไรเล็ก ๆ เป็นอาการปกติของรถรุ่นนี้ที่ต้องติดตั้งระบบมากมายเพื่อให้ผ่านข้อกำหนดของอีโคคาร์อันเข้มงวด ซึ่งเป็นอาการที่เห็นได้ตั้งแต่ในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลที่เราทำการทดสอบไปก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเครื่องยนต์เริ่มทำงานเข้าที่เข้าทางแล้ว การตอบสนองของเครื่องยนต์เป็นไปอย่างคล่องแคล่วว่องไว การเร่งแซงเป็นไปอย่างฉับไวกระชับ เพียงแค่กดคันเร่งลงไปแรง ๆ เครื่องยนต์และเกียร์ก็พร้อมตอบสนองได้อย่างทันท่วงที
สิ่งที่น่าชื่นชมเป็นอย่างมากที่ชมออกนอกหน้ามาทุกครั้งก็คือเรื่องของช่วงล่างที่โดดเด่น การเล่นรถในทางโค้งผ่านอย่างไม่มีปัญหาและไม่สูญเสียอาการของรถ แม้ในยามเจอถนนลูกคลื่นอาจจะมีอาการโยนท้ายบ้างก็ตามในรุ่นแฮชท์แบ็กที่ลอง
ผมขับรถผ่านคาราวานรถที่ทำการทดสอบประหยัดน้ำมันอย่างต่อเนื่อง ออกจากจุดเช็คคันสุดท้ายถึงที่หมายต่อไปคันแรกตลาด การทำความเร็วที่ระดับ 120-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงคือความสนุกสนานในการขับบขี่ แต่ถ้าบี้ 160 ก็มีให้เห็นอยู่
มาถึงในเรื่องของอัตราการประหยัดน้ำมันกันบ้าง รถยนต์ส่วนใหญ่ที่เดินทางถึงแม่สายด้วยน้ำมันถังเดียวนั้น ใช้น้ำมันอยู่ที่ระดับ 30-32 ลิตร ก็จะกินน้ำมันกันอยู่ที่ 20 กว่ากิโลเมตรต่อลิตร อันนั้นเป็นมาตรฐานของการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน
ขณะที่รถที่ขับเร็วที่สุดในทริปนี้นั้น เติมน้ำมันกันอย่างเป็นทางการที่ลำปาง โดยมีระยะวิ่ง 501 กิโลเมตร ใช้น้ำมันไปทั้งสิ้นแบบเติมถึงคอถังที่ 36.234 ลิตร หรือคิดเป็นอัตราเฉลี่ยการใช้น้ำมันที่ 13.82 กิโลเมตรต่อลิตร
ดูตัวเลขแล้วอาจจะไม่สวยหรู แต่อย่าลืมนะครับว่านี่คือเครื่องยนต์ 1..3 ลิตรที่เค้นและเร่งให้วิ่งบนทางหลวงแผ่นดินและทางขึ้น-ลงเขาตลอดระยะทาง ซึ่งหากเป็นการใช้งานในเมืองจริง ๆ ก็น่าจะทำองัตราการสิ้นเปลืองได้ดีกว่านี้อยู่มากโข
การตอบสนองของเครื่องยนต์ ช่วงล่างอันยอดเยี่ยม และห้องโดยสารที่สะดวกสบาย ยังเป็นจุดเด่นของมาสด้า 2 แต่หากจะให้แนะนำแล้ว รุ่นเครื่องยนต์เบนซินก็เก็บไว้ใช้ใมนเมืองหรือวิ่งใกล้ ๆ ถ้าอยากจะเอาไว้วิ่งไกล ๆ กัดฟันจ่ายดีเซลไปเถอะ
โดยส่วนตัวผมแฮปปี้กับสมรรถนะของรถที่ได้ รวมไปถึงอัตราารสิ้นเปลืองน้ำมันที่ต้องบยกว่าดีกว่าความคาดหมายแล้ว เติมน้ำมัน 1 ถังวิ่งไปได้ถึงลำปางแบบไม่ต้องประณีประนอมขับช้าขวางถนนให้ใครหงุดหงิด ก็ถือว่าพอแล้วล่ะครับ
ไว้จะยืมมาลองใช้งานในเมืองให้ดูกันอีกทีก็แล้วกันนะครับ ว่าถ้าเอามาอยู่ในจุดที่เหมาะที่ควรแล้ว มาสด้า 2 เครื่องยนต์เบนซินคันนี้ จะแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างแท้จริงขนาดไหน ไว้รอชมกันได้เลย!!!
ขอขอบคุณ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) สำหรับการทดสอบรถยนต์ในครั้งนี้
ผู้เขียน golfautospinn พูดคุยกันได้ที่ pisan.i@icarasia.com เฟซบุ๊ค Autospinn.Fans และทวิตเตอร์ @Autospinn
ชมภาพการทดลองขับ 2015 มาสด้า 2 สกายแอคทีฟ-จี เพิ่มเติมได้ ที่นี่
ชมภาพการทดลองขับ 2015 มาสด้า 2 สกายแอคทีฟ-จี เพิ่มเติมได้ ที่นี่
ความคิดเห็น