[TEST] โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ กับการทดสอบบนสนามเซอร์กิต และออฟโรด ที่ขอยืนยันว่า เอาอยู่ทุกสถานการณ์ !! Share this

[TEST] โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ กับการทดสอบบนสนามเซอร์กิต และออฟโรด ที่ขอยืนยันว่า เอาอยู่ทุกสถานการณ์ !!

Coke Autospinn
โดย Coke Autospinn
โพสต์เมื่อ 15 July 2558

โตโยต้า จัดเต็ม กับการทดสอบ ไฮลักซ์ รีโว่ บน สนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บุรีรัมย์ และเนรมิตพื้นที่ข้างสนามเป็นแบบออฟโรด โดย ไฮลักซ์ รีโว่ สามารถแสดงสมรรถนะที่เรียกได้ว่าเอาอยู่ ที่ทุกสภาพพื้นถนนจริงๆ

วันนี้เราได้มาทดสอบถึงสมรรถนะของ ไฮลักซ์ รีโว่ บนพื้นที่พิเศษทั้งแบบเซอร์กิต และแบบออฟโรด  โดยก่อนหน้านี้เราได้รวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ ไฮลักซ์ รีโว่ ไว้ให้คุณได้อ่านกันแล้วโดยสามารถติดตามกัน ได้ที่นี่

circuit 3

เริ่มต้นที่การทดสอบบนสนามเซอร์กิตที่ทาง โตโยต้า จัดขึ้นเพื่อแสดงถึงสมรรถนะของ ไฮลักซ์ รีโว่ อย่างเต็มรูปแบบทั้ง การเบรค การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง การเปลี่ยนเลนกระทันหัน และการทดสอบสลาลอม

ระหว่างขับทดสอบก็แอบเสียวๆเพราะขนาดรถมีขนาดค่อนข้างใหญ่ กลัวว่าจะไปเฉี่ยวแนวกรวยบนถนนที่เค้าจำกัดพื้นไว้ให้เหมือนกัน แต่การทดสอบทั้งหมดก็ผ่านไปได้ด้วยดีการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงและการเปลี่ยนเลนกระทันหัน ให้ความมั่นใจได้

circuit 2

ไฮลักซ์ รีโว่ สามารถแสดงสมรรถนะการขับขี่บนถนนปรกติได้อย่างเต็มที่ แต่ท้ายรถยังมีอาการท้ายเบาไปบ้าง ซึ่งเข้าใจว่ารถกระบะถูกออกแบบมาเพื่อบรรทุกสัมภาระ ด้วยตัวรถเปล่าที่ทดสอบสามารถทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าเยี่ยมแล้ว

iMT

ไฮไลท์อยู่ที่ระบบ iMT  ระบบจะทำการรักษารอบระหว่างที่เรากำลังเปลี่ยนเกียร์โดยจะมีระบบคอยวัดรอบเครื่องยนต์ของเราและทำการดันเพิ่มรอบให้เล็กน้อยโดยอัตโนมัติทำให้การเปลี่ยนเกียร์มีความนุ่มนวลมากขึ้นกว่าแบบปรกติ

ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ขับขี่มือใหม่ จากการทดสอบตัวรถยนต์มีความนุ่นนวลมากขึ้นลดการกระตุกเวลาเปลี่ยนเกียร์ทำให้มีความสบายเพิ่มมากขึ้นในการขับขี่

ต้องยอมรับว่าชอบกับระบบ iMT พราะถือว่าเป็นตัวช่วยสำหรับมือใหม่ในการขับเกียร์ธรรมดาทำให้รอบเครื่องไม่ตกมาก เปลี่ยนเกียร์แล้วนุ่มนวลการเปลี่ยนเกียร์ในช่วงก่อนเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงก็ผ่านไปได้ด้วยดี

 

offroad4

ต่อมากับการทดสอบระบบช่วยเหลือการขับขี่ในพื้นที่แบบออฟโรดซึ่งทาง โตโยต้า ได้เนรมิตรพื้นที่ข้างสนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โดยมีทั้งเนินสูง แอ่งโคลน พื้นที่ต่างระดับมากมายให้ได้ทดสอบกัน

ก่อนหน้าวันที่เราได้ไปทดสอบมีฝนตกหนักมากทำให้พื้นที่ออฟโรดเรียกได้ว่า เละสมจริงในตอนแรกเกือบจะไม่ได้ทดสอบเพราะสนามเละเกินไป แต่โชคดีที่ในช่วงเช้าของวันทดสอบมีแดดแรงทำให้ ดินทรายในบริเวณมีความแข็งตัวขึ้นมาบ้าง

ในสนามนี้ ไฮลักซ์ รีโว่ สามารถช่วยเหลือผู้ขับขี่ให้ผ่านทุกอุปสรรคได้โดยไม่จำเป็นว่าผู้ขับจะต้องมีความสามารถพิเศษ ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปต์ที่ว่า “ไม่ว่าใครขับ ก็สามารถผ่านทุกอุปสรรคได้ทุกที”

offroad2

จากที่เราได้ทำการทดสอบในสนามนี้ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างขับลำบากเพราะพื้นมีความอ่อนตัวมาก ระบบ A-TRC หรือระบบตัดการส่งกำลังไปยังล้อที่หมุนฟรีและนำกำลังมาเพิ่มเติมในส่วนของล้อที่เหลือเพื่อให้มีแรงในการช่วยเคลื่อนรถออกจากหล่ม ระบบนี้ใข้งานได้ดีแต่ต้องค่อยๆ เลี้ยงคันเร่งอย่าใจร้อนตามสไตล์การขับแบบออฟโรด ก็ทำให้ผ่านไปได้โดยไม่มีอันตรายใดๆ

offroad1

ในช่วงขับผ่านพื้นที่ต่างระดับเรียกได้ว่าหวาดเสียวกันทั้งคันเพราะตัวรถเอียงมากถึงขั้นน้ำในแอ่งโคลนเลอะมาถึงครึ่งประตูบวกกับพื้นที่เป็นโคลนลื่นซึ่งในส่วนนี้ต้องใช้สมาธิในการเลี้ยงคันเร่งและการควบคุมพวงมาลัยในระดับหนึ่ง ไม่อย่างนั้นรถอาจพลิกหงายได้ซึ่งเราก็สามารถผ่านมาได้อย่างราบรื่น

800_0990

ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HAC) และระบบป้องกันรถไหลลงจากทางชัน (DAC) สามารถทำได้ดี โดยจากการทดสอบระบบ HAC ด้วยการขับไปกลางเนินแล้วเบรคจากนั้นปล่อยเบรครถจะค้างอยู่บนเนินได้ประมาณ 4 วินาที จากนั้นถึงจะไหลลงตามแรงโน้มถ่วง

และทดสอบระบบ DAC ด้วยการขับมาหน้าทางลงแบบลาดชันแล้วปล่อยให้รถไหลไปเองโดยไม่ต้องแตะเบรค ระบบจะประมวลผลประมาณ 1 วินาที หลังจากนั้นตัวรถจะมีอาการดึงให้เห็นขึ้นมาทันทีทำให้มีการไหลลงช้าอย่างเห็นได้ชัด ซึ้งถือว่ามีประโยชน์ช่วยลดอุบัติเหตุเวลาขับไปต่างจังหวัดในพื้นที่ที่มีทางลาดชันเยอะๆ ได้เป็นอย่างดี

2.8 Engine

เครื่องยนต์รหัสจีดีรุ่นใหม่ 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที พร้อมให้แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตรที่ 1,400-2,600 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

การตอบสนองเครื่องยนต์จัดว่าเยี่ยม เรี่ยวแรงมีมากพอที่จะสามารถแซงเมื่อต้องการได้สบายๆ โดยไม่ต้องลุ้นมากนัก ถ้าต้องการใช้ความเร็วสูงเมื่อทำการคิกดาวน์ก็มีอาการหลังติดเบาะให้เห็นเหมือนกัน  ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ไม่ธรรมดา

การทำความเร็วในช่วงปรกติระดับ 120-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงห้องโดยสารยังคงเงียบการเก็บเสียงและระบบรับแรงสั่นสะเทือนค่อนข้างดีถ้าเทียบในคลาสรถกระบะ แต่อาจจะมีอาการท้ายเบาไปบางเวลาเปลี่ยนเลนด้วยความเร็วสูง

800_0851

การออกแบบภายในในส่วนคอนโซลถือว่าสวยให้อารมณ์คล้ายรถยนต์ เอสยูวี  เบาะตอนหน้านั่งสบายตลอดระยะทางไม่มีอาการปวดหรือเมื่อยให้เห็น แต่เบาะผู้โดยสารตอนหลังอาจมีความชันสูงไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรมาก

ในส่วนภายในกับหน้าจอระบบทัชสกีนซึ่งมีขนาดใหญ่ฟังก์ชั่นใช้งานง่าย แต่ระหว่างขับขี่อาจมีการกดไม่ติดบ้าง หรือกดไม่โดนบ้าง ส่วนตัวคิดว่าอาจเพราะเรายังไม่ชินกับการใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ภายในรถมากนัก ถ้ามีความคุ้นเคยแล้วน่าจะใช้งานได้คล่องและรวดเร็วกว่านี้แน่นอน

800_0762

จบด้วยการขับ ไฮลักซ์ รีโว่ จากบุรีรัมย์-โรงแรม โนโวเทล สนามบินสุวรรณภูมิ บนเส้นทางกว่า 300 กิโลเมตร ซึ่งคันที่ผมได้ขับกลับเป็นรุ่น 2.8 ดับเบิลแคป 4x4 โดยตัวรถมีขนาดใหญ่มากให้อารมณ์บึกบึน พร้อมลุยทุกสถานการณ์

โดยระหว่างทางได้มีการทดสอบการทำความเร็วสูงสุดซึ่งสามารถทำได้ ประมาณ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าสามารถทำความเร็วต่อได้อีก แต่เราถอนคันเร่งก่อน  ระบบช่วงล่างใหม่ก็สามารถช่วยเรื่องการซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนได้ดี ให้ความนุ่มนวลไม่มีความกระด้างแต่อย่างใด แต่อาจจะมีอาการยวบไปหน่อยเพราะการเซตที่ต้องการความนุ่มนวลแตกต่างจากรถกระบะทั่วไป

800_0725

มาถึงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเราขับแบบการใข้งานจริงและค่อนข้างจะทำความเร็วในช่วงจังหวะถนนโล่งโดยไม่สนใจความประหยัดเท่าไหร่สนใจที่การใช้งานแบบชีวิตประจำวันแบบเร่งรีบมากกว่า

การขับขี่เรา มีทั้งขับปรกติและแบบใส่เต็มที่ ซึ่งถ้าจะเฉลี่ยความเร็วที่ใช้มากสุดจะอยู่ในช่วง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผลเฉลี่ยอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่โชว์บนหน้าจอสำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 2.8 ดับเบิลแคป 4x4 อยู่ที่ 10.1 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งอย่าลืมว่าตลอดทางมีการทดสอบความเร็วสูงสุด และมีการขับสลับความเร็วไปมาอยู่ตลอดเวลาเรียกได้ว่าทางโล่งเมื่อไหร่อัดเมื่อนั้น

ส่วนตัวผมคิดว่าอัตราการบริโภคน้ำมันถือว่าใช้ได้เลยทีเดียวสำหรับการขับขี่แบบนี้เพราะถ้าเป็นการขับขี่ในความเร็วที่คงทีพร้อมทั้งเปิดโหมดอีโคโหมดตัวเลขคงสวยกว่านี้เยอะเหมือนกัน

NIK_8903

โดยรวม โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว ถือเป็นรถกระบะที่มาพร้อมระบบความช่วยเหลือในการขับขี่ที่ครบครัน ตามคอนเซ็ปท์ของเค้าที่ว่า ไม่ว่าใครก็ขับได้ ซึ่งยอมรับว่าระบบช่วยเหลือการขับขี่อัดแน่นเต็มคันจริงๆ

ห้องโดยสารใหญ่สะดวกสบาย ช่วงล่างอยู่ในเกณฑ์ดี เรี่ยวแรงจากเครื่องยนต์มีมาให้มากพอ สำหรับจะข้ามอุปสรรคต่างๆ  ไว้ใจได้ในทุกสภาพการขับขี่ ทั้งแบบถนนปรกติ และแบบออฟโรด

เรียกได้ว่าประทับใจกับสมรรถนะและระบบช่วยเหลือต่างๆ ของรถยนต์ที่สามารถพาเราผ่านไปได้ทุกสภาพถนนอย่างดีเยี่ยม และจัดว่าเป็นอีกทริปที่มีการทดสอบครบเครื่องอย่างแท้จริงด้วยการทดสอบในสนามเซอร์กิตระดับโลก และสนามออฟโรดที่หาทดสอบได้ยากแต่ทางโตโยต้า ก็จัดให้ อย่างไรก็ขอขอบคุณ โตโยต้า สำหรับทริปการทดสอบดีๆ ครั้งนี้ด้วยครับ

NIK_9221

ขอขอบคุณผู้บริหารและฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ให้เกียรติเชิญทีมงานเข้าร่วมทดสอบทริปแบบจัดเต็มในครั้งนี้

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com  
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ