อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จัดกิจกรรมคาราวานระดับโลกเพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ด้วยการจัดคาราวานบนเส้นทางกรุงเทพมหานครไปถึงเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
การเดินทางตลอด 45 วัน บนเส้นทางกว่า 19,250 กิโลเมตร ผ่านเส้นทางค้าขายอันลือชื่อในอดีตที่รู้จักกันในนามเส้นทางสายไหมนั้น เริ่มต้นจากวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา จากการปล่อยตัวคาราวานที่กรุงเทพมหานคร
เวลาเดินทางผ่านไปอย่างรวดเร็ว ออโต้สปินน์ได้รับเทียบเชิญให้เดินทางจากประเทศไทย ต่อเครื่องบินที่ปักกิ่ง ยิงยาวมาที่เมืองตุ้นหวง ประเทศจีน หนึ่งในเมืองโอเอซิสในอดีต เพื่อรับรีโว่เบอร์ 04 ขับต่อไปเมืองทัชเคนส์ ประเทศอุซเบกิสถาน
ระยะเวลาที่จะต้องใช้ในการเดินทางในสเตจที่ 2 จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ที่ออกเดินทางจากประเทศจีน ต่อเนื่องไปเข้าเขตประเทศคีร์กีซสถานในวันที่ 16 จากนั้นก็จะเข้าสู่อุซเบกิสถานในช่วงวันที่ 18 ส่งรถต่อให้ทีมสเตจ 3 แล้วบินกลับ
เอาจริง ๆ ก็ถือว่าเป็นเส้นทางการขับขี่ที่น่าสนใจ เพราะมีรูปแบบของเส้นทางที่หลากหลาย มีสภาพอากาศที่แตกต่างกันออกไปมากมาย และยังเป็นประเทศใหม่ ๆ ที่ใช่ว่าจะมากันได้ง่าย ๆ เสียด้วย งานนี้ไปไหนไปกันแน่นอน
แค่เดินทางมาวันแรกก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ด้วยสภาพอากาศไม่เป็นใจที่สนามบินปักกิ่ง ทำให้เครื่องบินไม่สามารถบินลงได้ ต้องแวะจอดชั่วคราวที่มองโกเลีย... อ่านไม่ผิดครับ มองโกเลีย ห่างออกไป 500 กิโลเมตร
ทำให้จากแรกที่คาดว่าต้องนอนที่สนามบินรอต่อเครื่อง 5 ชั่วโมง กลายเป็นต้องวิ่งกันล่กเหมือนกัน เพื่อให้จับเครื่องบินต่อไปตุ้งหวงได้สบาย ๆ มาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย วันแรกไม่มีอะไรมาก นอกจากไปเที่ยวเล่นรอทริปแรกเขามาถึง
จริง ๆ แล้วถ้าไม่บอกว่านี่คือการขับรถแบบคาราวาน จะเรียกว่ามาทัวร์อารยธรรมก็คงไม่ผิด เพราะอย่าลืมว่าเส้นทางสายไหมนั้นคือความรุ่งเรืองที่สุดของโลกในยุคหนึ่ง การทิ้งร่องรอยทางวัฒนธรรม รวมถึงงานศิลป์และประวัติศาสตร์เอาไว้เป็นเรื่องที่ธรรมดามาก
ภูเขาทรายร้องไห้ (ภูเขาหมิงซาซาน) เนินทรายขนาดใหญ่ที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสะพรึงกลัว ทิ้งเอาไว้ในปัจจุบันแค่ความสวยงาม และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย ใครที่มาจะด้วยวัยขนาดไหนก็มีสิ่งต่าง ๆ เอาไว้รองรับความต้องการทั้งสิ้น
หากไม่พึงใจกับการเดินขึ้นไปเล่นแซนด์บอร์ด ก็แค่เดินขึ้นสันทรายขนาดไม่สูงมาก เพื่อไปเก็บภาพของสระน้ำวงพระจันทร์ บ่อน้ำผุดที่ไม่เคยเหือดแห้งนับตั้งแต่ยุคโบราณกาล หรือจะเดินเล่นชมความงดงามของรูปปั้น รูปหล่อโดยรอบก็ไม่ผิด
เพราะการเดินทางวันรุ่งขึ้นไม่ได้เร่งร้อน ในช่วงเช้าเราเลยมีโอกาสไปเยี่ยมชมหนึ่งในมรดกโลกที่มีความน่าสนใจอย่างถ้ำโม่เกา (ถ้ำเชียนฝอต้ง - ถ้ำพระพุทธรูปพันองค์) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกเมื่อปี 1987
ห้องสมุดบนผนัง สมญานามที่ได้รับการเรียกจากักโบราณคดี มีอายุมากกว่า 1,000 ปี นอกจากจะเป็นที่แสดงให้เห็นถึงศรัทธาของประชาชนในยุคนั้น ยังทิ้งร่องรอยทางอารยธรรมไว้ให้เฝ้าติดตามและเรียนรู้อย่างมากมาย
ภาพวาดและรูปแกะสักตามฝาผนังถ้ำที่มีการค้นพบมากกว่า 700 ถ้ำจากที่มีการคาดการณ์ว่าอาจจะมากกว่า 1,000 ห้อง ได้แสดงให้เห็นถึงอารยธรรมและความศรัทธาในแต่ละช่วงได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้จะเคยถูกฝังใต้กองทรายมามากกว่า 500 ปี
เราเรียนรู้จากถ้ำแห่งนี้ว่าในยุคสมัยหนึ่งสุภาพสตรีครองอำนาจในแผ่นดินแห่งนี้ จนมีการก่อสร้างพระพุทธรูปเป็นรูปหน้าแบบสตรีและทรงอาภรณ์แบบสตรี หรือแม้แต่เรื่องของประวัติศาสตร์ในยุคต่าง ๆ ก็จะมีให้เห็นได้ทั่วไป
ผมถามพนักงานเรื่องการเปิดให้บริการ เขาบอกว่าแม้จะมีห้องที่ถูกค้นพบมากกว่า 700 ห้อง แต่ก็จะมีห้องที่เปิดให้บริการราว 70 ห้องต่อครั้ง สลับกันไปในแต่ละช่วง โดยมีการจำกัดนั่งท่องเที่ยวเพียงวันละ 6,000 คน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อห้องสมุดแห่งนี้มากเกินไป
ทั้งนี้ การเปิดให้บริการพื้นที่สลับกันไปก็เพื่อการรักษาสภาพแวดล้อมของถ้ำให้คงเดิมมากที่สุด เพราะเมื่อมีคนเข้าไปชมมาก ๆ ก็จะส่งผลต่อเรื่องของอุณหภูมิ ความชื้น ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพสีและรูปปั้นในอีก 50 ปีข้างหน้า
ออกมาจากถ้ำโม่เกาแบบเสียดายที่เวลาน้อยไปสักนิด ก็เริ่มเดินทางกัน โดยเป้าหมายแรกอยู่ที่เมืองฮามี่ ผมได้รับมอบโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ พรีรันเนอร์ เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 2 ล้อ มาประจำการณ์ตลอดทริปนี้
ระยะทางตามที่กำหนดไว้ในโรดบุ๊คอยู่ที่ 420 กิโลเมตร บอกว่าออกเดินทางบ่ายโมง ทุ่มหนึ่งจะได้เข้าพักโรงแรมที่ฮามี่ เอาเข้าจริง ๆ แค่เที่ยงครึ่งเราก็พร้อมเดินรถออกจากโรงแรมกันแล้ว
จากตุ้นหวงสู่ฮามี่เลยออกไปทูรูฟาน ระยะทางส่วนใหญ่เป็นทางหลวงที่ต้องวิ่งผ่านด่านมากมายและส่วนใหญ่เป็นการวิ่งตัดทะเลทรายที่ลมแรงมากอยู่เกือบตลอดเวลา ไฮลักซ์ รีโว่นั้น เอาทางอยู่แบบสบาย ๆ ไม่ต้องซีเรียสอะไร นั่งเล่นนู่นเล่นนี่บนรถไปเพลิน ๆ ได้ไม่เหนื่อย
เรามาถึงฮามี่กันช่วงราว ๆ ทุ่มครึ่ง ด้วยระยะทางบนหน้าปัทม์ปาเข้าไป 494.9 กิโลเมตร เมืองแถบ ๆ นี้ฟ้าสว่างยาวไกลมาก กว่าฟ้าจะมืดปาเข้าไป 3-4 ทุ่ม แถมพระอาทิตย์ขยันออกมาทำงานตั้งแต่ยังไม่ตี 5 ด้วยซ้ำ
ผมและผองเพื่อนเดินออกจากโรงแรมที่พักไปหาอะไรทำหลังกินข้าวตอนราว ๆ 3 ทุ่ม ที่หน้าประตูชัยของฮามี่ยังมีคนรำไทเก๊กกันอยู่เลย ฮามี่เป็นเมืองสบาย ๆ ผู้คนเป็นมิตรไม่ได้แตกต่างอะไรจากตุ้นหวงมากนัก แต่มีแตงฮามี่ที่หวานอร่อยให้แตกต่างกันบ้าง
พักผ่อนกันเต็มอิ่ม วันนี้เป้าหมายเราอยู่ที่ทูรูฟู เช่นเคยครับ โรดบุ๊คส์บอกระยะทาง 410 กิโลเมตร ออก 8 โมงเข้า บ่ายโมงต้องได้กินข้าวที่จุดหมายปลายทาง เอาล่ะครับ กว่าจะได้ออกเดินทางก็ปาเข้าไป 08.50 เพราะที่นี้เสิร์ฟอาหารเช้าช้าอยู่
ทูรูฟานเป็นเมืองที่ร้อนและแห้งที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน แถมมีลมแรงมหาศาลระดับตั้งโรงงานไฟฟ้าพลังงานลมได้ แถมมีน้ำมันให้ขุดเจาะกันถึงเขตตัวเมือง เรียกว่าเป็นเมืองที่มีความหลากหลายมากที่สุดของทริปนี้
จุดขายของเมืองคือองุ่นที่มีเทศกาลองุ่นทุกปี รวมไปถึงองุ่นอบแห้ง หรือลูกเกดที่เรารู้จักกันดี แต่หลังจากไปลองชิม ๆ มาแล้ว ก็พูดตรง ๆ นะครับ ว่ากินลูกเกดในประเทศไทยต่อไปล่ะดีแล้ว มาที่นี่หากไม่ได้จำเป็นต้องแวะก็ไม่ได้ถือว่าพลาดอะไร
ถ้าพอมีเวลาเหลือลองมาจ่าย 40 หยวนเพื่อเข้าชมคาเรซ พาราไดซ์ (บ่อน้ำคันเอ๋อจิ่ง) ระบบชลประทานขนาดใหญ่ที่ปันน้ำจากภูเขาหิมะเทียนซาน เพื่อมาหล่อเลี้ยงประขาชนด้วยระยะทางกว่า 5,000 กิโลเมตร ย้อนกลับไปนานกว่า 2,000 ปี
ระบบชลประทานที่ปันน้ำให้กับ 7 เมืองใหญ่นับแต่โบราณกาล ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 3 สิ่งก่อสร้างโดยมนุษย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดร่วมกับกำแพงเมืองจีนและคลองขนาดใหญ่ที่เจียงซูเลยทีเดียว
ระบบชลประทานที่เก่าแก่และใหญ่โตติด 1 ใน 3 ของประเทศจีน ประกอบไปด้วยทางน้ำใต้ดิน ระบบคลองบนดินและชลประทานรูปแบบอื่น ๆ ปันน้ำที่เกิดจากการละลายของหิมะมาให้ประชาชนในพื้นที่ทูรูฟานและคูมูลจนถึงทุกวันนี้
440.7 กิโลเมตรตามระยะทางบนหน้าปัทม์ เราเดินทางมาถึงโรงแรมที่พักอย่างปลอดภัยราว ๆ ทุ่มนึง หลังแวะไปท่องเที่ยวที่ที่บอกมาด้านบน เดิมทีพรุ่งนี้จะเป็นงานหนักกับการขับรถ 900 กิโลเมตร เพื่อมุ่งหน้าสู่เมืองอักสุ
แต่ผู้จัดก็คงเกรงว่าจะเป็นงานหนักเกินไป ก็เลยทำการหั่นทอนการเดินทางเสียใหม่ให้เราเดินทางกันสั้นลงเล็กน้อย แล้วไปเพิ่มในวันถัดไปให้วิ่งเพิ่มขึ้นแทน ก็ถือว่าไม่มีปัญหา ยังไงก็ต้องไปให้ถึงกันอยู่แล้ว
ติดตามความสนุกสนานของคาราวานกันอย่างต่อเนื่องกับออโต้สปินน์ได้ที่นี่นะครับ เนตมีเมื่อไหร่จะแวะมาอัพให้ดูกันเรื่อย ๆ นะครับ
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น