แซดเอฟ กรุ๊ป ประกาศชัดให้ทีอาร์ดับบลิวเดินหน้าทำตลาดอย่างเต็มรูปแบบ ระบุขายหุ้นบริษัทร่วมทุนระหว่างแซดเอฟ-บ๊อชคืนทั้งหมด เลี่ยงการสร้างอำนาจเหนือตลาด
ทีมงานออโต้สปินน์ได้รับเชิญอย่างเป็นทางการจากแซดเอฟ กรุ๊ป เพื่อร่วมงานแถลงข่าวประจำปี พร้อมทำการทดสอบเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ของบริษัทที่ประเทศเยอรมนีในช่วงนี้
ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การควบรวมกิจการของทีอาร์ดับบลิว ผู้ผลิตชิ้นส่วนด้านระบบความปลอดภัยรายใหญ่ของโลกในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้แซดเอฟเองต้องมีการปรับแผนงานตามมาหลายประการ
รูดี้ วอน ไมซ์เตอร์ ประธานภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิค แซดเอฟ เอจี ระบุว่าการควบรวมกิจการกับทีอาร์ดับบลิวจะทำให้การพัฒนาสินค้าต่าง ๆ ของบริษัท เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
"อย่างไรก็ตาม เรายืนยันว่าจะยังคงใช้ตราสินค้าทีอาร์ดับบลิวต่อไป เมื่อมองจากความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่ผ่านมา แม้ว่าการซื้อกิจการในครั้งนี้ จะทำให้ทีอาร์ดับบลิวกลายเป็นแผนกเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเชิงป้องกันและเชิงปกป้องในกลุ่มแซดเอฟก็ตาม"
เขาระบุอีกว่า แซดเอฟได้ทำการขายหุ้นจำนวน 50% ในบริษัทร่วมทุนระหว่างแซดเอฟและบ๊อช ที่เคยทำการพัฒนาระบบควบคุมรถร่วมกันมา ด้วยเหตุผลของความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจในหลายตลาดทั่วโลก
ทั้งนี้ ไมซ์เตอร์ระบุว่าการเข้าซื้อกิจการของทีอาร์ดับบลิว จะทำให้แซดเอฟมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% ในกลุ่มสินค้าดังกล่าว และอาจจะเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ในหลายตลาดทั่วโลก จึงเป็นที่มาของการขายหุ้นให้กับบ๊อชในที่สุด
"เรามองไปที่เรื่องของการมีอำนาจเหนือตลาดในการแข่งขันทางธุรกิจ ซึ่งหลายประเทศมองเป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่สามารถยอมรับได้ ทำให้บริษัทเดิมนั้นจะตกเป็นของบ๊อชทั้ง 100%"
LINE
ความคิดเห็น