ผลวิจัยจากประเทศสหรัฐอเมริกาชี้ให้เห็นว่าวัยรุ่นชาวอเมริกันมีโอกาศถึงร้อยละ 48 เปอร์เซ็นต์ ที่มีโอกาสส่งข้อความระหว่างขับรถยนต์บ่อยขึ้น โดยจากเหตุผลส่วนใหญ่มากจากการตอบแชทกลับจากพ่อแม่ของตนเอง
บริษัท ลิเบอร์ตี้ ประกันภัย แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยผลสำรวจเกี่ยวกับอัตราการใช้สมาทโฟนขณะขับรถ โดยสำรวจจากกลุ่มนักเรียนชาว อเมริกัน จำนวน 1,622 คน และกลุ่มพ่อแม่ของนักเรียนจำนวน 1,000 คน โดยผลการสำรวจพบว่า ร้อยละ 55 เปอร์เซ็นต์ เมื่อกลุ่มวัยรุ่นได้รับข้อความจากพ่อแม่ของตนเองขณะขับรถ
จะมีการตอบกลับทันที ร้อยละ 19 เปอร์เซ็นต์ จะมีการตอบกลับภายใน 1 นาที และร้อยละ 25 เปอร์เซ็นต์ จะมีการตอบกลับข้อความภายใน 5 นาที เพราะโดยส่วนใหญ่ เมื่อวัยรุ่นได้รับข้อความจากพ่อแม่ของตนเเองจะคิดว่าพวกเค้าเหล่านั้นกำลังรอคำตอบจากตนเองอยู่จึงต้องรีบตอบกลับทันที
วัยรุ่นมักคิดว่าเล่นสมาทโฟนไปด้วยระหว่างขับรถเป็นเรื่องปรกติคิดว่าตนเองสามารถทำ 2 อย่างได้ในเวลาเดียวกันโดยจะไม่มีอันตรายใดๆ แต่จากผลวำรวจพบว่ากว่า 88 เปอร์เซ็นต์ของวัยรุ่นที่ใช้สมาทโฟนไปด้วยระหว่างขับรถมักเกิดอุบัติเหต
การวิจัยในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการขับรถยนต์อย่างประมาทของวัยรุ่นชาวอเมริกันแม้สมาทโฟนจะเป็นต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตบ่อยๆ แต่สาเหตุหลักๆ คือตัวของผู้ขับขี่เองที่มีความประมาทไม่ระมัดระวังทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวระบุว่าทาง สหรัฐ กำลังเร่งนโยบายควบคุมการเล่นสมาทโฟนในระหว่างขับรถของวัยรุ่นชาวอเมริกันอย่างจริงจัง เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนในเร็วๆ อย่างนี้แน่นอน
ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปถ้าผู้ขับขี่มีวินัยในการขับขี่ ก่อนจะแชทควรจะหาที่จอดรถหรือรอในช่วงระหว่างติดไฟแดงจะดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของส่วนรวม
สามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับรถยนต์และมอเตอร์ไซค์เพิ่มเติม ได้ที่นี่
ความคิดเห็น