ถ้าหากคุณเป็นเจ้าของเอสยูวีรุ่นใหม่สักคันแล้วเบื่อที่จะใช้ชีวิตอยู่แค่ในมหานคร Taste Drive ในครั้งแรกจะพาไปท่องเที่ยวใน 1 วัน เพื่อให้รู้ว่ารถเหล่านี้สามารถพาเราไปเปิดหูเปิดตาได้มากขึ้น และประเทศไทยนั้น มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายและมีอาหารอร่อยซ่อนไว้อยู่มากมายเหมือนกัน
Taste Drive by Autospinn เป็นคอลัมน์ใหม่ที่เราขะพาทุกท่านไปเที่ยว ไปชม ไปชิม กันในแบบที่ทีมงานไปกันจริง ๆ ซึ่งขอบอกว่าเป็นเส้นทางที่ทุกคนสามารถเดินทางตามเราไปในเส้นทางต่าง ๆ ได้อย่างไม่ติดขัดแน่นอน
ในครั้งแรกนี้ เราขอพกพาเจ้าเอสยูวีรุ่นใหม่ที่ต่างก็มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินอย่าง นิสสัน เอ็กซ์-เทรล, ฮอนด้า ซีอาร์-วี และมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ซึ่งในสองรุ่นแรกมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่ค่ายปีกนกเจ้าเดียวที่ในรุ่นนี้ยังไม่มีมาให้
แต่เรื่องของการขับรถท่องเที่ยวนั้น ท่องคำนี้ไว้ในใจนะครับ "รถต้องได้ ใจต้องถึง" แล้วรับรองเลยว่ารถที่เราไม่แน่ใจว่าจะพาเราไปได้ถึงสุดขอบฟ้าหรือไม่ หากนำมาใช้งานให้ถูกจังหวะ ในพื้นที่ที่เหมาะสม ก็จะนำพาประสบการณ์ใหม่ ๆ มาให้อย่างมากมาย
เหมือนอย่างที่เราเลือกเอสยูวีทั้ง 3 คันมาประจำการ เพื่อที่จะพาทุกคนไปดูเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี หลาย ๆ คนอาจจะค้านว่ารถยนต์ก็ไปได้ แต่คราวนี้เราจะพาลงไปในเขื่อนกันเลย เพราะว่าเป็นช่วงที่พิเศษมาก ๆ หากแล้งขึ้นมาเมื่อไร เราจะสามารถลงไปขับรถเล่นด้านในเขื่อนกันได้ทันที
แต่ก่อนที่จะไปถึงที่นั่น เราแวะเข้าไปที่ซอยพัฒนานิคม 15 และตรงสุดทางเพื่อที่จะพบกับจุดชมวิวเขาพระยาเดินธง หนึ่งในอันซีนของจ.ลพบุรีที่เชื่อว่าหลายคนยังไม่เคยไปหรือยังไม่แน่ใจว่าจะไปได้หรือไม่ เพราะทางเข้านั้นดูรกร้างกันดารเสียเหลือเกิน
สตาร์ทเครื่องรถเอสยูวีของคุณแล้วออกมาดูซะ เพราะขนาดรถเอสยูวีขับเคลื่อน 2 ล้อคันเดียวในทริปนี้ยังมาได้ จากจุดชมวิวบนยอดเขา มองลงไปเห็นตัวเมืองและตัวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อย่างชัดเจน แถมมีแง่งหินขนาดใหญ่ให้คุณท้าประลองความสามารถในการเซลฟี่อีกต่างหาก
ลงจากจุดชมวิวไปเดินเล่นกันในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งจะต้องบอกว่าไม่มีทางเข้าทางออกที่ตายตัว จะขึ้นจะลงตรงไหนต้องไปลองส่อง ๆ กันเอาเอง แถมต้องระวังเพื่อนร่วมโลกกันบ้าง เพราะชาวบ้านแถวนั้นก็พาวัวมาเลี้ยงในเขื่อนเหมือนกัน
แม้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของสภาพอากาศ แต่ก็ต้องยอมรับว่าบรรยากาศภายในเขื่อนนั้น ถือว่ายอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก แต่ใครที่คิดจะมาท่องเที่ยวบ้าง ก็อย่าลืมเคารพความเป็นธรรมชาติ อย่าทำลายและช่วยเก็บขยะออกมาทิ้งข้างนอกด้วยนะ
ปิดท้ายกันด้วยการขับรถจากเขื่อนอีกประมาณ 60 กิโลเมตร จุดหมายสุดท้ายของเราอยู่ที่ร้านส้มตำเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในตลาดมวกเหล็ก ร้านส้มตำปูนึ่งของแม่ค้าอารมณ์ดีอย่างพี่แป๋ว ที่นอกจากจะร่าเริงเป็นอย่างมากแล้ว เธอยังทำอาหารอร่อยในระดับที่ต้องมาชิมกันให้ได้สักครั้ง
ส้มตำปูนึ่ง ซึ่งกลายเป็นชื่อร้าน หมูตะไคร้ หมูทอดรสดีกินควบกับตะไคร้ซอยทอด คอหมูย่างสุดโอชา แถมตบท้ายด้วยยำเส้นแก้วทะเล ใครจะมากินร้านนี้ต้องใจเย็น เพราะแม่ค้าทำทุกอย่างคนเดียว หรืออาจจะมีผู้ช่วยบ้างบางครั้ง แต่ถ้ารอไหว ของอร่อย ราคางดงามก็รอให้ชิมเหมือนกัน
จริง ๆ แล้วลพบุรี-สระบุรีถือเป็นจังหวัดที่อยู่ไม่ห่างจากกทม.มากและยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมายหลายแห่ง คราวหน้าอาจจะต้องพากลับมาขับรถเล่นกันอีกสักครั้ง แต่จะเป็นรถแบบไหนและพาไปเที่ยวไหน ติดตาม Taste Drive by Autospin ได้อย่างต่อเนื่อง
หรือมีอะไรจะพูดคุยหรือแนะนำกัน ส่งข้อความมาหาเราที่ content.th@icarasia.com ได้เลยเหมือนกัน...
ความคิดเห็น