โฟล์คสวาเกนเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสที่สามขาดทุนสูงถึง 3.48 พันล้านยูโร ถือว่ามากที่สุดในรอบ 15 ปี
กรณีอื้อฉาวการโกงค่ามลพิษเครื่องยนต์ดีเซลเป็นสาเหตุหลักของการขาดทุนครั้งนี้ ซึ่งทางโฟล์คสวาเกน เอจีเปิดเผยรายงานผลประกอบการโดยระบุแค่ว่าการขาดทุนมีต้นเหตุมาจาก “กรณีดีเซล”
ตัวเลขขาดทุน 3.48 พันล้านยูโร ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่ไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว โฟล์คสวาเกนมีผลกำไร 3.23 ล้านยูโร
เมื่อกันยายนที่ผ่านมา ยอดขายของโฟล์คสวาเกน กรุ๊ปลดลง 1.5% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ยอดขายในไตรมาสสามลดลง 3.4% เหลือ 2.39 ล้านคัน
ซึ่งทำให้โตโยต้าทะยานกลับมาเป็นผู้นำยอดขายทั่วโลกได้ด้วยตัวเลขรวมตั้งแต่ต้นปี 7.49 ล้านคัน ขณะที่โฟล์คสวาเกนมียอดขาย 7.43 ล้านคัน ส่วนจีเอ็มตามมาเป็นอันดับสาม 7.2 ล้านคัน
หากประเมินความเสียหายจากกรณีการโกงค่ามลพิษที่ส่งผลต่อรถ 11 ล้านคันแล้ว เชื่อว่าสถานะทางการเงินของโฟล์คสวาเกนจะได้รับผลกระทบร้ายแรงมากกว่านี้ในอีกหลายเดือนข้างหน้าเมื่อต้องมีการแก้ไขและมีการจ่ายค่าปรับจากการละเมิดกฎหมายในหลายประเทศ
ความคิดเห็น