เมื่อพฤศจิกายนที่ผ่านมาเรามีโอกาสได้เข้าร่วม ไรเดอร์ มาเนีย งานรวมพลคนรัก รอยัล เอ็นฟิลด์ ที่อินเดีย นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้สัมผัสรถจักรยานยนต์ทั้งสามรุ่นของ รอยัล เอ็นฟิลด์ ที่จะมาจำหน่ายในไทยในการเดินทางของเราครั้งนี้ด้วย ถ้าใครขี้เกียจอ่านต่อเราก็จะบอกแค่ดูราคา ถ้าโดนใจก็ไปจองเลย
บูลเล็ต คลาสสิค และ คอนติเนนทัล จีที คือรถสามรุ่นที่จะเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยด้วยพิกัดซีซีที่ระดับ 500 ซีซี ซึ่งต่างกันออกไปในรถแต่ละคัน
รอยัล เอ็นฟิลด์ บูลเล็ต เป็นรถรุ่นที่เก่าแก่และมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานสุดของ รอยัล เอ็นฟิลด์ ใช้เครื่องยนต์ 500 ซีซี สูบเดี่ยวหัวเทียนคู่ ท่อออกเดี่ยว ด้านหน้าดิสก์เบรกเดี่ยว ด้านหลังดรัมเบรก เบาะนั่งแบบสองตอนที่เลือกเปลี่ยนได้ โช้คหน้าเทเลสโคปิคโช้คหลังแบบคู่ เรือนไมล์อนาล็อคแท้ๆ ไฟหน้ามีปีกยื่นออกมาที่ด้านบน
รอยัล เอ็นฟิลด์ บูลเล็ต ให้ท่านั่งที่สบายๆ ผ่อนคลายขี่ไกลๆ ได้ชิลล์ๆ และไม่ได้รู้สึกว่ารถหนักสักเท่าไร กระบอกสูบเดี่ยว 500 ซีซี ไม่ได้ทำให้รู้สึกสะท้านมากเท่าที่คิดเลย เราขี่เจ้านี่ไปเรื่อยๆ นับสิบๆ กิโลเมตรโดยที่มือไม่สะท้านหรือสั่นเป็นเจ้าเข้าตอนที่หยุดพักข้างทาง
ตัวรถที่เราได้ลองขี่ใช้เกียร์เหมือนรถมีคลัทช์ที่เราใช้งานกันทุกวันแต่ที่คันเกียร์จะมีแป้นเหยียบด้านหลังสำหรับเหยียบเพื่อเปลี่ยนเกียร์ขึ้น เพิ่มความสะดวกในการเข้าเกียร์ ซึ่งบางทีก็จำสับสนกับรถแม่บ้านแทนที่จะเหยีบเกียร์ขึ้นกลายเป็นตบเกียร์ลงจนหัวเกือบทิ่มหลายที
การทำความเร็วการเร่งแซงก็ให้พละกำลังในการเร่งแซงที่ดี ไม่กร้าว อัตราเร่งถือว่าน่าพอใจ ระบบเบรกก็ใช้ได้แม้ไม่มีเอบีเอส หากอยากได้ความเก๋า ความดั่งเดิมขนานแท้ รอยัล เอ็นฟิลด์ บูลเล็ต คือคำตอบที่นำไปต่อยอดในสไตล์อื่นๆ ได้อย่างน่าสนใจ
ตลอดเส้นทางในกัวประเทศอินเดียทำเอาถนนแรลลี่กรุงเทพฯ บ้านเรากลายเป็นขนมไปเลย เพราะที่นี่หลายๆ จุดสภาพถนนแทบจะเทียบเท่าระดับเอ็นดูโร่ หลุม บ่อ เนิน กรวดเพียบๆ เราออกเดินทางจากกัวมุ่งหน้าสู่ โอลด์ กัว (Old Gao) เพื่อชมประติมากรรมโปรตุกีสที่ยังคงหลงเหลือตามโบสถ์ต่างๆ ซึ่งต้องฝ่าการจราจรอันน่าสะพรึงของอินเดีย ต้องใช้จังหวะเร่งแซงบ่อยๆ
รอยัล เอ็นฟิลด์ คอนติเนนทัล จีที คือคันที่สองที่เราได้ลองขี่ ขยับเครื่องยนต์ขึ้นมาเป็น 535 หัวเทียนคู่ สูบเดี่ยว ท่อเดี่ยว หน้าดิสก์เบรกปั๊มเบรมโบ้หลังดรัมเบรก ยางพีเรลลี่ สปอร์ต เดมอน โช้คหน้าเทเลสโคปิคเปลือยๆ โช้คหลังคู่ เรือนไมล์อนาล็อคผสมดิจิตอลนิดๆ ที่ระดับน้ำมันและโอโดมิตเตอร์
รอยัล เอ็นฟิลด์ คอนติเนนทัล จีที มาในสไตล์คาเฟ่ เรเซอร์จ๋าๆ ท่านั่งสปอร์ตสุดพลังพร้อมแฮนด์คลิปออนเบาะตอนเดี่ยวและตูดมดซึ่งน่าจะถอดเปลี่ยนได้ตามใจชอบเพราะก็มี รอยัล เอ็นฟิลด์ คอนติเนนทัล จีที ที่มีเบาะยาวเช่นกัน
แรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ของ รอยัล เอ็นฟิลด์ คอนติเนนทัล จีที มีมากจนมือสะท้าน มากกว่า รอยัล เอ็นฟิลด์ บูลเล็ต แบบสัมผัสได้ในทันทีที่เปลี่ยนรถ แต่แลกมาด้วยอัตราเร่งที่ดีกว่า ทันใจขึ้น สปอร์ตมากขึ้น ฟิลลิ่งในการขับขี่ที่สนุกขึ้น
จุดหนีบที่ถังแบบ คาเฟ่ เรซเซอร์ ให้ความรู้สึกที่แคบกระชับ แต่ไม่ใช่ปัญหาในการบังคับรถ ระบบเบรกเองก็หนึบกว่า ชัวร์กว่ารุ่นอื่นๆ หน้าตาก็ดีขี่ก็โดนใจ จับเปลี่ยนอุปกรณ์นู่นนิดนี่หน่อยตามสไตล์ชาวไทยรับรองหล่อเฟี้ยว
มีช่วงหนึ่งที่เรากำลังขี่เจ้า คอนติเนนทัล จีที อยู่บนถนนในกัวแล้วจู่ๆ ก็มีเจ้าถิ่นขี่สกู๊ตเตอร์มาขนาบข้างก่อนจะเบียดเข้าใส่แบบกระชั้นชิดจนเราต้องรีบหลบออกด้านข้างซึ่งทำให้รถพุ่งลงหลุมขนาดพอสมควร โชคดีที่ช่วงล่างของเจ้านี่เจ๋งพอที่จะรองรับแรงกระแทกแบบฉุกเฉินและค่อนข้างรุนแรงได้ดี เลยมีเพียงแค่น้ำที่กระเซ็นเปียกขากับเจ้าถิ่นก็หัวเราะคิกคัก
คันสุดท้าย รอยัล เอ็นฟิลด์ คลาสสิค รถที่ขายดีที่สุดของ รอยัล เอ็นฟิลด์ จนถึงกับต้องปิดหมู่บ้านฉลองกันตอนรับรถ เครื่องยนต์ 500 ซีซี หัวเทียนคู่ สูบเดียว ท่อเดี่ยว หน้าดิสก์เบรก หลังดรัมเบรก เรือนไมล์อนาล็อครูปหัวใจกลับหัว ลายบนถังวาดด้วยมือในตำนาน
เราควบ รอยัล เอ็นฟิลด์ คลาสสิค มุ่งหน้าไปยังป้อมปราการ อกัวด้า(Fort Aguaga) ผ่านเขตชุมชน เรียบแม่น้ำ และไต่ขึ้นเขา คลาสสิค ให้ท่านั่งที่สบายขึ้นยิ่งกว่า บูลเล็ต ให้ความรู้สึกเหมือนกับเวลาคุณนั่งเก้าอี้หลังตรงๆ สักตัวหนึ่งทำให้ขยับแข้งขยับขาได้สะดวก ด้านสมรรถนะก็ไม่ได้หนีจาก รอยัล เอ็นฟิลด์ บูลเล็ต ด้วยเครื่องยนต์แบบเดียวกันแต่ที่สัมผัสได้คือ คลาสสิค จะให้ความรู็สึกของการขับขี่และตอบสนองที่สบายๆ กว่า
เมื่อเทียบคลาสสิคกับบูลเล็ตแล้วเราแอบชอบบูลเล็ตมากกว่านิดๆ อาจด้วยสไตล์ท่านั่งในการขับขี่ที่คุ้นเคยกว่า แต่ทว่า รอยัล เอ็นฟิลด์ คลาสสิค กลับเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด จนเคยต้องรอคิวกันเป็นปีๆ ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยกว่า และแน่นอนว่านำไปต่อยอดแต่งตามสไตล์ได้ดีกว่า
สารภาพก่อนว่าด้วยการจราจรในกัว ช่วงถนนโล่งๆ สั้นๆ บวกกับความกลัวใจเจ้าถิ่นเราแทบจะไม่ได้ใช้ความเร็วมากไปกว่า 60-80 กม/ชม. แน่นอนว่าความเร็วในย่านนี้รถทั้งสามรุ่นทำได้สบายๆ อัตราเร่งทั้งสามรุ่นก็ถือว่าทันใจโดยเฉพาะ คอนติเนนทัล จีที ระบบเบรกเองก็เหลือๆ เมื่อต้องเจอกับสภาวะอันปรวนแปรบนท้องถนนของอินเดีย
ไม่เพียงแค่หล่อคลาสสิคทั้งามคันยังได้ชื่อว่าเป็นรถที่ อึด ถึก ทน ดูแลง่าย ไปที่ไหนก็ไม่ลำบาก ถึงขนาดเป็นรถที่คนกว่า 90% ที่คนใช้ขี่ขึ้นจุดที่สูงที่สุดที่ยานพาหนะเข้าถึงบนเทือกเขาหิมาลัย แน่นอนว่าแม้แต่ คาเฟ่เรเซอร์ อย่าง คอนติเนนทัล จีที ก็เคยไปเหยียบจุดนั้นมาแล้ว และเราก็ได้นำ คอนติเนนทัล จีที ปีนขึ้นลงเขาชันเพื่อลงไปชายหาดมาแล้ว ฉะนั้นหายห่วงเรื่อง อึด ถึก ทน ที่มาพร้อมกับสไตล์ที่เป็นอกลักษณ์
แย่หน่อยที่ทุกวันนี้หลายคนมองรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่แค่สมรรถนะ ต้องเร็ว บิดติดมือ แรงม้าสูง ดีไซน์รถที่ล้ำสมัย แต่ทว่า รอยัล เอ็นฟิลด์ กลับเป็นรถที่ง่ายๆ ในทุกด้าน มีสมรรถนะแค่เท่าที่ต้องใช้ ไม่จำเป็นต้องเร็ว ไม่จำเป็นต้องแรง แต่เพียงพอที่ทำให้คุณมีช่วงเวลาที่ดีในขณะที่คร่อมอยู่บนรถ เพื่อให้คุณสนุกกับการเดินทาง ไม่ใช่มุ่งไปหาแต่ปลายทาง
ข้อมูลทั้งหมดของตัวรถในส่วนของอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดมากับตัวรถและรูปภาพอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากรถที่เราได้ลองกันนั้นเป็นรถที่ผ่านมาใส่อุปกรณ์ตกแต่งเข้ามาบางส่วนหรืออาจมีข้อมูลที่ผิดพลาดจากการสัมผัสแค่ระยะเวลาสั้นๆ ฉะนั้น ไปชมตัวเป็นๆ และสอบถามข้อมูลกันได้ในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 ที่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมประกาศราคาของรถทั้ง 3 รุ่นที่จะมาขายในไทย
ขอขอบคุณ บริษัท เจนเนอรัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด สำหรับทริปสนุกสุดมันส์ในครั้งนี้
ขอบคุณพี่เก่งจากนิตยสาร โมโต บิ๊กไบค์ สำหรับภาพแอคชั่นสุดเท่!!
บททดสอบโดย: Ken [Warodom C.]
อัปเดตข่าวรถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ กับเรา Autospinn
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ ราคารถ ตารางผ่อน ได้ที่นี่
ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เช็คราคารถมือสอง ได้ที่ one2car
ความคิดเห็น