ติดตามต่อกับบทสัมภาษณ์ คาร์ลอส กอส์น นายใหญ่ค่ายนิสสัน หลังจากที่ตอนที่ผ่านมาเราได้พาไปพูดคุยเรื่องของระบบยานยนต์ไร้พลขับและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์โลก
กอส์นได้ตอบคำถามนักข่าวในอีกหลายประเด็นที่น่าสนใจ โดยเฉพาะประเด็นความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในที่ต่าง ๆ ทั่วโลก กอส์นตอบคำถามที่มีนักข่าวถามว่ามีข่าวลือถึงการเพิ่มหุ้นในเรโนลต์จาก 15% เป็น 25% ว่า คุณพูดเองว่าเป็นเรื่องของข่าวลือ และนักข่าวมักจะดราม่ากับเรื่องพวกนี้
"ผมอยากจะบอกว่าไม่มีพันธมิตรอะไรที่ง่ายในโลกนี้อยู่แล้ว เราเห็นการเข้ามาร่วมมือกันแล้วก็แยกกันไปในกลุ่มผู้ประกอบการหลายราย แต่เรโนลต์และนิสสันเป็นพันธมิตรมานานกว่า 16 ปีแล้ว และเราพยายามสร้างความแข็งแกร่งให้เติบโตได้ในอุตสาหกรรมไปด้วยกัน"
อย่างไรก็ตาม กอส์นบอกว่ายังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรที่ชัดเจน แต่นิสสันและเรโนลต์มีความพยายามที่จะสร้างความเป็นพันธมิตรที่เข้มแข็งเพื่อที่จะสร้างความแข็งแกร่งในการทำตลาดทั่วโลก ซึ่งที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าก็มีปัญหาบ้างในการเป็นพันธมิตร
กอส์นระบุถึงตลาดใหญ่อย่างประเทศจีนที่มีคนถามว่าพอใจหรือไม่กับตลาดประเทศจีน ซึ่งวันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จมากด้วยยอดจำหน่ายกว่า 1.25 ล้านคันต่อปี และนิสสันเป็นแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในแดนมังกรแห่งนี้ในปัจจุบัน
"เมื่อตอนที่เราเข้ามาทำตลาดที่นี่ครั้งแรก มีคนถามเราว่าเรามาช้าเกินไปหรือไม่ เพราะคู่แข่งรายใหญ่ทำตลาดไปหมดแล้ว ตอนนั้นผมคิดแค่ว่า หลาย ๆ ค่ายอาจจะเป็นแค่คนที่เข้ามาก่อนแล้วไม่ทำอะไร แต่เราอาจจะมาที่หลังแล้วก้าวมาเป็นผู้นำในตลาดก็ได้"
เขาได้ระบุถึงการที่สหราชอาณาจักรมีแนวโน้มจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป ว่าเป็นเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นได้และจะส่งผลกระทบต่อแผนการทำตลาดของนิสสันเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะคิดในตอนนี้ เพราะนิสสันคงไม่สามารถจัดการกับการลงทุนที่ผ่านมาแล้วไปได้
สำหรับในภูมิภาคอาเซียนนั้น นิสสันเองไม่มีแผนลงทุนเพิ่มในตลาดอินโดนีเซียที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการทำตลาดดัทสัน เนื่องจากกำลังการผลิตที่มีอยู่ยังมีอยู่อีกมาก และยอดจำหน่ายรถยนต์ของอินโดนีเซียในช่วงที่ผ่านมาก็หดตัวลงอย่างมากเช่นกัน
"ในส่วนของประเทศไทยนั้น เรายังมองว่าประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่แข็งแกร่งของนิสสัน ด้วยความสามารถและความเชี่ยวชาญในด้านการผลิตที่โรงงานในประเทศไทย จะเป็นกำลังหลักสำหรับนิสสันในตลาดโลกไปในอนาคต"
สู้ ๆ กันต่อไป แม้ตลาดจะหดตัวนะ ชาวเรา...
ความคิดเห็น