นิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ใช้เวทีโตเกียว มอเตอร์โชว์ ประจำปี 2558 เป็นเวทีสำคัญในการประกาศนโยบายการเดินหน้าโครงการรถยนต์ไร้คนขับหรือ Autonomous Drive ที่จะเปิดใช้ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นที่แห่งแรกของโลกในปี 2563 หรืออีก 5 ปีข้างหน้า
พร้อม ๆ ไปกับการเปิดตัว นิสสัน ไอดีเอส คอนเซปต์ รถยนต์ต้นแบบที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะอย่างเต็มรูปแบบคันแรกของโลก ซึ่งหลายคนคงมีคำถามว่าทำไมนิสสันต้องรออีก 5 ปีข้างหน้า และทำไมนิสสันถึงมั่นใจว่าจะพร้อมเดินหน้าโครงการดังกล่าวอย่างเต็มรูปแบบ
คงไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้ดีไปกว่า คาร์ลอส กอส์น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ที่ปลีกตัวให้เวลากับสื่อมวลชนทั่วโลกเป็นเวลา 1 ชั่วโมงในช่วงบ่ายของงานมอเตอร์โชว์ เพื่อตอบคำถามและข้อสงสัยในหลายประเด็นที่มีคนถามเข้ามา
เริ่มกันด้วยเรื่องของรถยนต์ขับเคลื่อนไร้พลขับ ที่กอส์นระบุอย่างชัดเจนว่าไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายที่จะเห็นเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะในขั้นตอนเพื่อการใช้งานจริง จำเป็นที่จะต้องพัฒนาระบบต่าง ๆ ขึ้นมารองรับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบแผนที่ที่ต้องแม่นยำมากที่สุด
หรือแม้แต่การพูดคุยกับแต่ละประเทศในการเตรียมควาามพร้อม ข้อระเบียบ กฎเกณฑ์การบังคับใช้รถยนต์อัตโนมัติ ซึ่งยังถือเป็นเรื่องที่ใหม่มาก ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องใช้ระยะเวลาในการเจราและพัฒนากันอย่างต่อเนื่องเพื่อให้พร้อมรับกับเทคโนโลยีดังกล่าว
"เราไม่ได้แค่ต้องการพัฒนารถยนต์ที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวมันเอง แต่เรามองถึงเรื่องของความปลอดภัยและการนำเทคโนโลยีมาใช้ก็ต้องผ่านการทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อให้มั่นใจว่าเราจะได้ระบบที่ดีที่สุด"
เขาบอกว่าผู้ประกอบการในตลาดยานยนต์โลกจำเป็นที่จะต้องปรับตัวกันอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลกมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายประการ เรื่องแรกก็คือขนาดของตลาดที่มีการขยายตัวลดลง ซึ่งเขาประเมินว่าตลาดรถยนต์โลกจะเติบโตราว 1.5% ในปีหน้า
ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงของตลาดและความต้องการของตลาดก็จะทำให้ค่ายรถต้องพัฒนารถยนต์ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มเติม
"ทั้งหมดนี้จะทำให้เราต้องเปลี่ยนแปลง อีกเรื่องก็คือการเข้ามาของผู้เล่นหน้าใหม่ ตอนนี้บริษัทไอทีหลายแห่งเริ่มหันมาพัฒนารถยนต์กันมากขึ้น ซึ่งเราไม่รู้หรอกว่าเขาจะเติบโตไปได้ขนาดไหน แต่แน่นอนว่าพวกเขาจะเข้ามาอย่างแน่นอน"
จริง ๆ แล้วยังมีอีกหลายประเด็นที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข่าวลือเรื่องการเพิ่มทุนในเรโนลต์ การวางแแผนเพื่อรองรับการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ การขยับการลงทุนในจีน รวมถึงภูมิภาคใกล้ตัวอย่างอาเซียน
ขอยกยอดไปอีกตอนก็แล้วกัน...
ความคิดเห็น