หลังจากพยายามอย่างหนักวันนี้ รอยัล เอ็นฟิลด์ มีอัตราการเติบโตในอินเดียที่ขยายตัวถึง 50% มา 4 ปีติด จนต้องขยายไลน์ผลิตร่วมถึงมีแผนในการเปิดโรงงานแห่งที่ 3
จากสถิติในปี ค.ศ.2014 รอยัล เอ็นฟิลด์ ทำยอดขายในอินเดียไปราวๆ 3 แสนคันซึ่งโตถึง 50% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่วนในปี ค.ศ.2015 เองคาดว่าจะปิดยอดขายได้ที่ 4.5 แสนคัน ซึ่งโตจากปี 2014 ถึง 50% เช่นกัน
นอกจากนี้ รอยัล เอ็นฟิลด์ ยังกินส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มรถ 250-750 ซีซี ในอินเดียมากถึง 95% แซงหน้าคู่แข่งอย่างไทรอัมพ์ หรือ ฮาร์เลย์-เดวิดสันขาดลอยแบบไม่เห็นฝุ่น ด้วยจุดเน้นเรื่องการดูแลรักษาที่ง่ายดายไม่ว่าใครก็ทำได้และสมรรถนะในการขับขี่ที่คุ้มค่า คุ้มราคา
ส่วนหนึ่งที่ยอดขายเติบโตอย่างรวดเร็วมาจากสภาพเศรษฐกิจในอินเดียที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2010 จึงทำให้คนเข้าถึงรถหรูแบรนด์นี้ได้ง่ายขึ้น และยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน รอยัล เอ็นฟิลด์ ขายดีจนขนาดที่รุ่นยอดฮิตอย่าง รอยัล เอ็นฟิลด์ คลาสสิค ลูกค้าต้องรอนานถึง 5-6 เดือนเลยทีเดียว เหตุนี้เอง รอยัล เอ็นฟิลด์ จึงมีแผนในการเปิดโรงงานแห่งที่ 3 เพื่อขยายกำลังการผลิตที่ปัจจุบันอยู่ที่ 4.5 หมื่นคันต่อเดือนให้เพิ่มขึ้นไปอีก
ส่วนในต่างประเทศเองปัจจุบัน รอยัล เอ็นฟิลด์ มีตัวแทนจำหน่ายอยู่ในหลายๆ ประเทศอาทิ สเปน ฝรั่งเศส อังกฤษ รวมถึงในอเมริกาเหนือ สหรัฐอารับเอมิเรสต์ และยังมีที่อินโดนีเซียซึ่งค่อนข้างไปได้ด้วยดี
หลายๆ เองท่านก็น่าจะได้ราบข่าวยืนยันการมาบุกตลาดเมืองไทยของแบรนด์อังกฤษในตำนานอย่าง รอยัล เอ็นฟิลด์ กันแล้ว หลายคนอาจมองว่าเป็นแบรนด์น้องใหม่ ผลิตในอินเดีย แต่จริงๆ แล้วแบรนด์นี้มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานมาก
เชื่อว่าการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 จะทำให้แบรนด์ที่รู้สึกและเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงราคาที่หลายๆ คนคาดไม่ถึงซึ่งน่าจะดึงส่วนแบ่งจากเจ้าตลาดเดิมมาได้แน่นอน
อ่านข่าวรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวในงานอิคม่า คลิกที่นี่
อ่านข่าววงการมอเตอร์ไซค์ทั้งหมด คลิกที่นี่
ความคิดเห็น