สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ฮอนด้าประกาศยืนยันว่าผู้ใช้รถฮอนด้า ซีวิคในสหรัฐอเมริกาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตจากการระเบิดของถุงลมนิรภัยทาคาตะเป็นรายที่ 10
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมาในเมืองฟอร์ต เบนด์ เคาตี้ รัฐเทกซัสของสหรัฐอเมริกา เมื่อเด็กสาววัย 17 ปีขับรถฮอนด้า ซีวิครุ่นปี 2002 ชนท้ายรถฮอนด้า ซีอาร์-วีที่กำลังจอดรอสัญญาณไฟ ถึงแม้เด็กสาวคนดังกล่าวจะขับรถด้วยความเร็วตามกฎหมายกำหนด และคาดเข็มขัดนิรภัย แต่ถุงลมนิรภัยที่ทำงานบกพร่องเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอเสียชีวิต
ข่าวรายงานว่า ฮอนด้าส่งอีเมล์และแจ้งเตือนเจ้าของรถคันดังกล่าวหลายครั้งเป็นเวลานาน 5 ปีให้นำรถเข้ามาแก้ไขความบกพร่องของถุงลมนิรภัย แต่การแก้ไขไม่เคยเกิดขึ้น
แดนนี เบควิธ เจ้าหน้าที่ตำรวจของฟอร์ต เบนด์ เคาตี้กล่าวว่า “อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ควรมีผู้ใดเสียชีวิต รถมีความเสียหายเพียงเล็กน้อย แต่ของมีคมที่ระเบิดออกมาพร้อมกับถุงลมนิรภัยได้เฉือนลำคอผู้ขับขี่ และตัดเส้นเลือดใหญ่ ทำให้เธอเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ”
ด้านเจฟฟรี่ สมิธ โฆษกของฮอนด้ากล่าวว่า ฮอนด้าได้เพิ่มจำนวนทีมงานอีกเท่าตัวเพื่อรับมือกับประเด็นปัญหานี้ โดยมีการส่งจดหมายมากกว่า 9.9 ล้านฉบับ โพสต์การ์ด 11.9 ล้านฉบับ อีเมล์ 4.5 ล้านฉบับ และโทรศัพท์ตรงถึงลูกค้า 12.8 ล้านครั้ง รวมถึงการใช้โฆษณาและโซเชียลมีเดียอย่างเต็มที่
“เราทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์เพื่อเร่งแจ้งลูกค้าให้นำรถเข้ามาแก้ไขโดยเร็ว” สมิธกล่าว
ทั้งนี้ มีรายงานผู้เสียชีวิตที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับถุงลมนิรภัยทาคาตะแล้ว 10 รายในสหรัฐฯ โดย 9 ใน 10 รายเสียชีวิตในรถฮอนด้า อีกหนึ่งรายเกิดขึ้นกับรถฟอร์ด ขณะเดียวกัน ในเดือนกรกฎาคม 2014 สตรีมีครรภ์ชาวมาเลเซียเสียชีวิตในรถฮอนด้า ซิตี้ หลังจากการระเบิดของถุงลมนิรภัย
ความคิดเห็น