ทาคาตะอาจมีผลประกอบการติดตัวแดงอีกครั้งในปีนี้ หลังจากเกิดวิกฤตถุงลมนิรภัยที่ทำให้การเรียกคืนตัวพองลมพุ่งสูงเกือบ 120 ล้านชิ้นทั่วโลก
ซัพพลายเออร์ชื่อดังจากญี่ปุ่นอาจขาดทุนสุทธิมากถึง 13,000 ล้านเยน สำหรับปีงบประมาณที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคมนี้ ซึ่งตรงข้ามกับการประเมินของทาคาตะก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าอาจทำกำไรได้ประมาณ 5 พันล้านเยน
ตัวเลขที่คาดว่าจะขาดทุนดังกล่าวเป็นการต่อยอดจากการขาดทุนสุทธิมูลค่า 26,600 ล้านเยน และทำให้ทาคาตะต้องหาผู้สนับสนุนทางการเงินเพื่อเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจต่อไป และทำให้ฟื้นบริษัทขึ้นมาใหม่
คาดว่าค่ายรถยนต์ในญี่ปุ่นและตลาดอื่นๆ จะทยอยประกาศเรียกคืนถุงลมนิรภัยเพิ่มเติม หลังจากสหรัฐอเมริกาเป็นหัวหอกในการเรียกคืนถุงลมที่ประกอบด้วยสารแอมโมเนียม ไนเตรท และปราศจากสารดูดซับความชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ถุงลมนิรภัยระเบิดออกมารุนแรงเกินไปและพ่นของมีคมออกมาด้วย จนมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก
มีรายงานว่าเหยื่อถุงลมทาคาตะเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 13 คนทั้งในสหรัฐอเมริกาและมาเลเซีย พร้อมกับตัวเลขผู้บาดเจ็บอีกกว่า 100 คนทั่วโลก โดยล่าสุดเป็นกรณีอุบัติเหตุที่เกิดกับรถฮอนด้า ซิตี้ในมาเลเซียซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตสองรายในช่วงปลายเดือนเมษายนและต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ความคิดเห็น