[Test Ride] 2016 Ducati 959Panigale: เปิดคันเร่งกับสปอร์ตสุดเซ็กซี่เร้าใจแกล้มคอร์สการขับขี่ระดับโลก

มาตรฐานไอเสียใหม่หรือ ยูโร4 จะถูกเริ่มประกาศใช้ในปี ค.ศ.2017 หรือว่าปีหน้า จึงไม่น่าแปลกใจที่แทบทุกค่ายจะอาศัยช่วงปีที่แล้วและปีนี้ในการเปลี่ยนโฉมรถใหม่ หรืออาจนำรุ่นเดิมมาเพิ่มนู่นนิดนี่หน่อยอย่างเจ้า ดูคาติ 959พานิกาเล่คันนี้

มองผ่านๆ ปราดเดียวเราคงจะเห็นแค่บ้องท่อไอเสียขนาดใหญ่ที่งอกขึ้นมาด้านข้างของตัวรถจากเดินที่เป็นท่อออกอกล่างเท่ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของพานิกาเล่จนหลายคนขัดใจแล้วมีอะไรอีก วันนี้เรามีโอกาสได้มาขับขี่ 959พานิกาเล่โดยมีครูฝึก DRE(Ducati Riding Experience) ระดับโลกเป็นโค้ชการขับขี่ให้ไม่ธรรมดาแน่นอน

หล่อเหลาเบ้าหน้าระดับรางวัลดีไซน์ยอดเยี่ยม เหลาเหลี่ยมเล็กน้อย

1199พานิกาเล่ เคยได้รับรางวัล เรด ดอท ดีไซน์ อวอร์ด เบสท์ ออฟ เดอะ เบสท์ รางวัลงานออกแบบยอดเยี่ยมที่มอบให้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาได้อย่างยอดเยี่ยมทุกปีซึ่งปีที่ผ่านมาดูคาติเพิ่งได้รับอีกครั้งใน เอ็กซ์แดเวล ดังนั้นคุณยังต้องห่วงเรื่องความหล่อของ 959พานิกาเล่อีกเหรอ เราว่าไม่นะ

959พานิกาเล่ คือการปรับภาพลักษณ์ของ 899พานิกาเล่ใหม่อีกเล็กน้อยลงในรายละเอียดมากขึ้น ถึงไฟหน้ายังคงหล่อเป็นเอกลักษณ์ยากจะหาใครเทียบ ที่แฟริ่งชิ้นข้างมีการเพิ่มรูรับอากาศเข้ามาทำให้ต่างออกไปจากเดิมเล็กน้อย

นอกจากนี้อกล่างยังได้รับการปรับโฉมใหม่เพราะในรุ่นนี้ท่อไอเสียจะไม่ได้ออกอกล่างแต่จะอยู่ที่ข้างตัวรถฝั่งซ้ายแทน เบาะตอนหลังดูจะไม่ค่อยเข้าตาสักเท่าไรนัก แต่แค่หาตูดมดมาใส่อะไรๆ ก็จะเข้าตาขึ้นอีกเยอะ

ส่วนรายละเอียดที่ตามองไม่เห็นมากนักกก็จะมีแฟริ่งหน้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น กว้างขึ้น ชิลด์หน้าที่กว้างขึ้นและสูงขึ้นกว่าเดิม กระจกมองหลังสั้นลง พักเท้าเปลี่ยนเป็นอลูมิเนี่ยมแบบซูเปอร์ไบค์ และยังเปลี่ยนไปใช้กรองอากาศแบบเรซซิ่งและแดชบอร์ดหรือจอแสดงผลนั้นยังคงเอกลักษณ์แบบตัวแข่งจีพีสุดซิ่งเอาไว้ด้วย

เพิ่มซีซี เพิ่มม้า เพิ่มทอร์ค หมดปลอกทันใจ

จาก 899พานิกาเล่ สู่ 959พานิกาเล่ ซึ่งจริงๆ แล้วมีปริมาตรกระสอบสูบที่ 955 ซีซีนั้นพอบวกกับท่อไอเสียทรงใหม่ก็ทำให้ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร4 สบายๆ พร้อมกับแรงม้าที่เพิ่มเป็น 157 แรงม้า และแรงบิดที่ 107.4 นิวตันเมตร เพิ่มมา 6% และ 7% ตามลำดับ

เครื่องยนต์ซูเปอร์ควอโดร แอล-ทวิน วาล์วเดสโมโดรมิค จะตอบรับการทำงานของโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกอยู่ทั้งหมดสามโหมดด้วยกันคือ "Race" "Sport" "Wet" ซึ่งเป็นโชคดีของเราที่ในวันที่ได้ขับขี่และร่ำเรียนคอร์ส DRE ในวันนั้นไม่มีฝนจนเราต้องเปิดโหมด "Wet" มาใช้

สัมผัสแรกบนหลัง 959พานิกาเล่คือ เออ นั่งสบายกว่าที่คิดแม้จะเป็นสปอร์ตจ๋าแต่ว่าเบาะสูงเพียง 830 มม. สาวๆ ที่สูง 160-165 น่าจะขึ้นคร่อมได้อย่างมั่นใจ แน่นอนการอบสนองต่อคันเร่งในแวบแรกเราว่าทำได้ดีที่เดียว ทันทีที่ออกจากพิทเลนเจ้านี่ก็พร้อมพาทะยานทะลุความเร็วที่จำกัดไว้ที่ 60กม./ชม.ในพิทไปหาความเร็วหลักร้อยในทันใด

ในแง่ของความรู้สึกแล้วแรงบิดและแรงม้าของ 959พานิกาเล่ อาจดูเหมือนจะไม่ได้แตกต่างจากเดิมมากนัก แต่ถึงอย่างนั้นแรงบิดที่เพิ่มเข้ามาก็มีประโยชน์เหมือนกันเวลาที่เราดันออกจากโค้งแม้เราจะไหลเข้าโค้งหักศอกด้วยความต่ำแต่ก็เรียกพละกำลังของเครื่องยนต์ออกมาตามคันเร่งไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว

เราปิดคันเร่งที่ไฟออกตัวของสนามช้างก่อนจะค่อยๆ เชนจ์เกียร์ลงและเบรกก่อนจะกดน้ำหนักจิกลงที่ปลายเท้าด้านขวากดรถให้พับเข้าโค้งสุดทางตรงแล้วก็รีบเปิดคันเร่งไล่ครูฝึกที่ทิ้งห่างออกไปแถวๆ โค้งสองให้ทันเพราะแอบไปเหวออยู่ตรงโค้งสุดท้ายยังไม่ทันจะถึงโค้งสองดีนักตาก็ดันเหลือบลงมาตัวเลขที่ทำเอาสะดุ้งจนปิดคันเร่งแทบไม่ทันเพราะตัวเลขบนจอแสดงผลที่ทะลุ 200 กม./ชม. ไปแล้ว โอ้วพระสงฆ์ ใจหายหมด

ตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ที่ 5000 รอบต่อนาทีขึ้นไป 959พานิกาเล่ถือว่าเป็นแรงบิดที่จัดจ้านมาเร็วเครมไวสไตล์สูบแอลทวิน แต่ถึงอย่างนั้นตอนเราปรับจากโหมด Race มาเป็น Sport อะไรๆ ก็ดูตื้อกว่าเดิมจากที่เคยเรียกแล้วมาก็ดูจะเหมือนกลายเป็นว่าชะลอคิด รอบเครื่องยนต์ที่เคยจัดก็กลับแผ่วๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่ระดับเทพเขาจะเปิด Race กันไว้ตลอดเวลาจนเราเองก็เพิ่งมาสังเกตเอาที่หลังว่าขี่ Race ตลอดการขี่ในสองเซสชั่นแรก ก็ Race สนุกกว่าจริงๆ นี่

เดิมๆ ก็ซ่า ออพชั่นจัดมาได้แจ่มทุกจุด

อีกหนึ่งสิ่งที่มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้อย่างแรงคือสลิปเปอร์คลัทช์ ไอเท็มเพิ่มความมันส์และความปลอดภัย แน่นอนว่าช่วยให้ขับขี่ได้อย่างสมูธยิ่งขึ้นกว่าปกติ แต่อย่าคิดว่าสลิปเปอร์คลัทช์ที่ใส่มาใน 959พานิกาเล่จะเป็นแบบเรซซิ่งเต็มรูปแบบที่ให้คุณเชนจ์ลง ปั้ง ปั้ง ปั้ง ปั้ง!! แล้วไหลเข้าได้เนียนๆ เพราะถ้าเชนจ์หนักๆ แรงๆ ก็ยังมีดิ้นอยู่บ้าง ด้วยความที่เป็นรถที่สร้างมาสำหรับใช้งานบนท้องถนนด้วยเช่นกัน ถ้าไหลขนาดนั้นเรียกเอ็นจิ้นเบรกบนถนนน่าจะมีจูบก้นคันข้างหน้าบ้างล่ะ

ระบบเบรกที่ให้มาเป็นระดับเทพที่ใครๆ ก็อยากได้ติดรถมาจากโรงงานอย่างเบรมโบ้ เอ็ม4 โมโนบล็อคกระกบดิสก์คู่ 320 มม. เซมิ-โฟลตติ้ง พร้อมระบบเอบีเอสเป็นมาตรฐาน แทร็คชั่นคอนโทรล และเอ็นจิ้นเบรกคอนโทรล ที่เลือกการทำงานอย่างละเอียดได้โดยการเข้าไปปรับในเมนูหรือตามโหมดการขับขี่

ระบบเบรกที่ให้มาเดิมๆ ถือว่าสบายใจได้แรงเบรกมาแบบจึ้กๆ และที่โหมด Race พละกำลังในการเบรกจะมามากกว่าในโหมด Sport ที่จะรู้สึกว่าเวลาที่เบรกหนักๆ จะมีเอบีเอสเข้ามาขืน และที่สำคัญสำหรับขาซิ่งเบรกลึกเบรกหนักที่โหมด Race จะปล่อยให้ล้อหลักคุณยกได้สูงมากกว่าโหมด Sport ส่วนที่โหมด Wet เบรกหนักแค่ไหนล้อหลังก็ไม่ยกเพื่อความปลอดภัย

"ที่โค้งสามให้ระวังหน่อยนะ" ครูฝึกของกลุ่มแนะนำเอาไว้ในช่วงเช้าก่อนจะกลับมาบอกหลังขี่ไปสองเซสชั่นว่า "เปิดเต็มไปเลยโค้งสามน่ะ" เราก็เป็นศิษย์ที่ดีเชื่อฟังครูยัดเต็มออกมาจนรถไหลออกมาเกือบถึงขอบแทร็กก่อนจะเบี่ยงหลบเข้าซ้ายเปิดคันเร่งงัดขึ้นอีกสองเกียร์ ยกคันเร่งเชนจ์เกียร์ลงแล้วพับเข้าซ้ายอย่างรวดเร็ว จนลืมไปเลยว่าเจ้านี่มีน้ำหนัก 176 กิโลกรัมเพราะทั้งคล่องตัว เร็ว และไม่ใช้แรงในการพับมากมากนัก

ผู้บริหารของดูคาติเอเชียบอกกับเราเอาไว้ว่าทุกอย่างของรถคันนี้ถูกสร้างมาเพื่อความบาลานซ์ไม่ว่าจะในสนามหรือถนน มั่นใจได้ว่าทุกออพชั่นที่ใส่มานั้นทำให้ไม่ว่าคุณจะเป็นจะชายสายซิ่งหรือน้องใหม่ประสบการณ์พอมีก็จะสนุกกับ 959พานิกาเล่ได้

สมดุล ลงตัว ไม่ว่าแทร็กหรือถนน

หากให้บอกอย่างที่ใจคิดและหลายคนน่าจะคิดเหมือนกันคือเจ้าา 899 หรือ 959พานิกาเล่ คือตัวแสบที่ดูคาติสร้างมาเพื่อดึงส่วนแบ่งจากซูเปอร์ไบค์จากแดนอาทิตย์อุทัยที่มีออพชั่นอะไรมาให้น้อยกว่า ดังนั้นใน 959พานิกาเล่ ดูคาติจึงใส่ออพชั่นบางอย่างที่เสริมความเป็นซูเปอร์ไบค์เข้าไปเพิ่มอีก

ออพชั่นที่ว่าก็อย่างเช่นพักเท้าอลูมิเนียมที่เหมือนกับ 1299พานิกาเล่ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาพักเท้าแอบลื่นใน 899พานิกาเล่ซึ่งบรรดานักบิดทุกคนการันตีว่าจิกติดเท้าดีจริงๆ ยิ่งตอนที่เราต้องปรับตำแหน่งวางเท้าให้ถูกต้องด้วยการจิกปลายเท้าเข้าด้านในตามที่ครูฝึกบอกยิ่งทำให้เรามั่นใจไม่กลัวลื่น

ระบบกันสะเทือนด้านหน้าขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 43มม. ปรับละเอียดยิบจากโชวาและด้านหลังเป็นแซคส์ปรับละเอียดที่เราแทบไม่ได้ปรับหรือยุ่งอะไรเลย แล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีปัญหาหรือว่าไม่มั่นใจกับระบบช่วงล่างของ 959พานิกาเล่ให้ความเสถียรและมั่นใจในระดับคนใช้งานทั่วไปคงไม่ต้องง้อโช้คกระบอกสีทองๆ แน่ๆ

อย่าเพิ่งคิดว่าเราลืมเรื่องความร้อนเพราะการที่คุณขี่ตลอดเวลาโดยไม่ได้หยุดและยังใช้ความเร็วสูงหลายครั้งจนเราเองก็บอกไม่ได้หรอกว่าหากใช้งานบนถนนประเทศไทยจะเป็นแบบไหน เพราะพอจบวันเราเองยังเพิ่งนึกออกว่าเราให้สมาธิกับสนามและคอร์สการสอนมากกว่าตัวรถซะอีก หรืออีกนัยหนึ่งอาจเป็นเพราะ 959พานิกาเล่ค่อนข้างลงตัวสนุก มั่นใจ จนเรามีสมาธิกับการขี่ได้มากขึ้น

ท้ายที่สุดถึงเสียงสูบแอลที่เราได้ยินตอนเปิดคันเร่งจะเร้าสะท้านทรวงขนาดไหน แต่หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมือนท่อยังอั้นอยู่ เสียดายที่เราไม่ีโอกาสได้ยินเสียงหรือทดสอบเจ้าท่ออคราโพวิชที่มีให้เลือกทั้งออกอกล่างและออกข้างตามแต่ข้อกำหนดของกฎหมายสิ่งแวดล้อมในประเทศนั้นๆ

ดูคาติสร้าง 959พานิกาเล่ บนพื้นฐานของความสมดุลและลงตัวไม่ว่าจะในสนามหรือบนถนน ดูคาติให้สมรรถนะที่ยอดเยี่ยมที่มาพร้อมการใช้งานได้จริงในวันสบายๆ ให้ความตื้นเต้นเร้าใจที่ควบคู่ไปกับความปลอดภัย และให้พละกำลังมหาศาลที่คุณควบคุมได้ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อช่วงเวลาแห่งการขับขี่สุดพิเศษของคุณ

รายละเอียดทางเทคนิค 2016 ดูคาติ 959พานิกาเล่

ขอขอบคุณ บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด

Special Thank: Alpinestars Thailand | Suomy

บททดสอบโดย: Ken [Warodom C.] 

อ่านข่าววงการมอเตอร์ไซค์ทั้งหมด คลิกที่นี่