เข้าสู่สเตจที่ 2 กับการเดินทางของขบวนไฮลักซ์ รีโว่ คาราวาน ทริป เส้นทางนี้ยังคงฝ่าฟันเส้นทางหฤโหดที่ประเทศจีน ที่มีสภาพถนนทั้งทางดำ และทางฝุ่น สลับกันไป แต่ด้วยเทคโนโลยีของ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ก็ทนทุกสภาพ
วันที่ 5 เริ่มต้นเดินทางจากเมืองยีบิน โดยวันนี้มีเป้าหมายการเดินทางอยู่ที่ 900 กิโลเมตร จากเมืองยีบินเพื่อไปให้ถึงเมืองเทียนสุ่ยตามแผน โดยการเดินทางจากตัวเมืองยีบินขึ้นทางด่วนยีบิน-เกาซู่ เป็นถนนสี่เลน วิ่งผ่านวิวท่ามกลางหุบเขา สองข้างทางบรรยากาศสวยงาม ทางส่วนมากเป็นทางตรง และวิ่งตัดเขาผ่านอุโมงค์วิ่งบนสะพานสวย ๆ มาอีกหลายครั้ง การเดินทางช่วงนี้ก็สบาย ๆ กับห้องโดยสารอันกว้างขวาง และที่เท้าแขนขนาดกำลังดี ทางด่วนช่วงนี้โค้งค่อนข้างกว้าง และต้องใช้ความเร็วสูงต่อเนื่องตลอดเวลา แต่ด้วยสมรรถนะของรถที่แข็งแกร่งทำให้ควบคุมเวลาการเดินทางได้ตามต้องการ และตามกำหนดการจนถึงมณฑลกานซู่ โดยเป้าหมายคือเมืองเทียนสุ่ย เมืองใหญ่อันดับสองของมณฑลกานซู่ โดยเราจะพักค้างคืนกันที่นี่
วันที่ 6 วันนี้คาราวาน ไฮลักซ์ รีโว่ เริ่มออกเดินทางกันตั้งแต่เช้า ปลายทางของวันนี้อยู่ที่เมืองซีหนิง มณฑลชิงไห่ ระยะทางรวม 540 กิโลเมตร เมื่อออกจากเขตเมืองเทียนสุ่ยภูมิประเทศก็เริ่มเปลี่ยนเป็นทุ่งโล่ง ภูเขาสูง มีทุ่งหญ้าแซมเล็กน้อย สองข้างทางเริ่มเห็นผู้คนที่มีหน้าตาแปลกไป คาดว่าจะเป็นชาวจีนเชื้อสายอุยกูร์ ธิเบต
โดยการเดินทางช่วงนี้เป็นทางตรงยาว ๆ บนทางด่วน มีการใช้ Cruise Control หรือระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ใช้เพื่อรักษาความเร็วให้คงที่โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่ง ช่วยผ่อนแรงการขับไปได้มากทีเดียว
การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นมีแวะถ่ายภาพเป็นระยะๆ เพื่อเก็บบรรยากาศความสวยงามมาฝากกัน ช่วงบ่ายวันนี้มีรถค่อนข้างหนาแน่นต้องเร่งแซงอยู่ตลอด การเลือกใช้ Power Mode ทำให้ผู้ขับมีความมั่นใจกันมาก รู้สึกได้ว่ารถมีพลัง อัตราเร่งแซงดี
วันที่ 7 จุดหมายปลายทางอยู่ที่เมืองเจียยวี่กวน เป็นที่ตั้งของปราการด่านสุดท้ายของกำแพงเมืองจีน รวมระยะทางวันนี้ประมาณ 560 กิโลเมตร ซึ่งต้องผ่านความงดงามของ ภูเขาสีรุ้ง ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองซีหนิงออกไป 340 กิโลเมตร การเดินทางช่วงนี้ผ่านทิวทิศน์ทุ่งหญ้าสีเขียวสลับกับแนวขุนเขา คาราวาน ไฮลักซ์ รีโว่ วิ่งไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ อากาศเริ่มเย็นลง และเจอฝน ทำให้ถนนลื่น แต่ด้วยระบบ 4H ของไฮลักซ์ รีโว่ ช่วยเรื่องการเกาะถนนทำให้คาราวานผ่านทางโค้งต่าง ๆ ท่ามกลางความลื่นของถนนได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้บางช่วงยังเป็นทางลงเขา ทีมได้ใช้ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC ที่ช่วยในเรื่องระบบเบรกทำให้ไม่ต้องเหยียบเบรกเวลาลงเขา เมื่อระบบความปลอดภัยทำงานได้ดีเยี่ยม โดยจุดนี้อุณหภูมินอกรถอยู่ที่ 6 องศาเซลเซียส แต่ด้วยระบบทำความร้อน (Heater) ของรถ ก็ช่วยเพิ่มความสบายในการขับขี่ ไม่ต้องทรมานกับอากาศหนาว
สภาพถนนในช่วงนี้เป็นถนนสวนเลนและมีโค้งตลอดทาง เข้าโค้งแต่ละครั้งต้องแม่นยำมาก เพราะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ สำหรับผู้ที่ไม่ชำนาญทาง แต่ทั้งกำลังของเครื่องยนต์และความแม่นยำของพวงมาลัยในไฮลักซ์ รีโว่ ทำให้คาราวานผ่านช่วงนี้มาได้โดยสวัสดิภาพ จนใกล้ถึงจุดเป้าหมายของวันนี้ สภาพภูมิประเทศเป็นแบบกึ่งทะเลทราย โดยการเดินทางต่อจากนี้จะเข้าสู่พื้นที่ทะเลทรายอย่างเต็มรูปแบบอย่างแน่นอน
วันที่ 8 ผ่านการเดินทางเข้าสู่วันที่แปด สมาชิกของคาราวานไฮลักซ์ รีโว่หลายคนเริ่มอ่อนล้าไปบ้างแต่พลังใจยังมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์หน้าใหม่บนเส้นทางสายไหมร่วมกันกับไฮลักซ์ รีโว่
คาราวานเคลื่อนตัวออกมาที่พัก ผ่านเส้นทางภายในเมืองเจียยวี่กวนถนนเป็นเลนสวนดินลูกรัง สองข้างทางมีต้นไม้เขียวชอุ่ม จนได้เห็นกำแพงภูเขาคล้ายกำแพงเมืองจีน แต่เป็นสีน้ำตาลคล้ายกับใช้ดินทำ และนี่คือแนว กำแพงเมืองจีน ที่ถือเป็นด่านสุดท้ายที่ตั้งอยู่ในเมืองเจียยวี่กวน
หลังจากเก็บภาพความงามของเจียยวี่กวนเรียบร้อยแล้ว ก็ออกเดินทางไปยังจุดไฮไลท์ ซึ่งอยู่ห่างตัวเมืองเจียยวี่กวน 6 กิโลเมตร นั่นคือ ด่านป้อมปราการเจียยวี่กวน นอกจากจะเป็นป้อมปราการด่านแรกแล้ว ในอดีตยังเป็นจุดแบ่งเขตอารยธรรมกับพวกคนเถื่อนอีกด้วย จากภาพที่เห็น ป้อมปราการมีทะเลทรายที่ดูแห้งแล้งล้อมรอบแต่ฉากหลังเป็นภูเขาหิมะ ด้านในเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยม มีร้านขายของเรียงราย และมีการแสดงโชว์การต่อสู้ให้ตื่นเต้นพอหอมปากหอมคอ และทีมคาราวานก็ไม่พลาดที่จะขึ้นไปเดินด้านบนแนวกำแพงเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์การเดินทางครั้งนี้ ขอบอกว่าวิวสวยมาก ๆ
เป้าหมายต่อไป คือ เมืองตุนหวงที่มีทะเลทรายหรือเนินทรายหมิงซาซานสุดอลังการรอเราอยู่กับระยะทาง 380 กิโลเมตร ทีมคาราวานได้แล่นผ่านพื้นที่ที่เป็นกึ่งทะเลทรายแห้งแล้งวิวสวยแปลกตาทีเดียว เส้นทางเป็นถนน 4 เลน ส่วนมากเป็นทางตรงยาว ๆ สลับกับโค้งบ้าง ทำให้เราได้ทดสอบอัตราเร่งของเครื่องยนต์ GD Efficient Boost ซึ่งก็ทำงานได้ดั่งใจ ไม่มีการสะดุดของรอบเครื่องเมื่อต้องเปลี่ยนเกียร์ ทำให้ขับสบายและนิ่ง วันนี้อากาศเริ่มร้อนขึ้นจากเมื่อวานที่ต้องใช้ระบบทำความร้อนเพื่อคลายหนาว วันนี้เปลี่ยนมาใช้เครื่องปรับอากาศในรถเพิ่มความเย็นระหว่างการเดินทางบวกกับนั่งฟังเพลงกับเครื่องเสียงในรถไฮลักซ์ รีโว่กันแบบชิว ๆ มองดูบรรยากาศภายนอกไปเรื่อย ๆ
ผ่านไปไม่นานก็เริ่มเห็นเมือง เห็นเนินทรายกองมหึมาตั้งกองอยู่สุดทางของถนน นั่นคือ สัญญาณว่าคาราวาน ไฮลักซ์ รีโว่ ได้มาถึงเมืองตุนหวงเป็นที่เรียบร้อย
เมืองตุนหวงตั้งอยู่ทางตะวันตกของมณฑลกานซู (Gansu) เป็นศูนย์กลางสำคัญบนเส้นทางสาย เป็นทางผ่านและจุดแวะพักของขบวนคาราวานพ่อค้า และถนนเส้นทางสายไหมเป็นเส้นทางแห่งการเผยแพร่พุทธศาสนาจากอินเดียเข้ามายังประเทศจีน ตุนหวง จึงกลายเป็นศูนย์รวมเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมหลายชนชาติ
มาถึงคณะคาราวานก็ไม่รอช้าที่จะพารถไฮลักซ์ รีโว่ ไปทดสอบสมรรถนะ ทุกคันมุ่งหน้าตรงดิ่งเข้าไปยังจุดท่องเที่ยวประจำเมืองทันที ที่นี่ทีมคาราวานก็ได้ประสบการณ์การขับขี่กับไฮลักซ์ รีโว่ บนเนินทราย ที่สามารถขับผ่านเนินแล้วเนินเล่า ด้วยการใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ในโหมด 4H ผนวกกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ที่ช่วยให้การขับเคลื่อนไปได้บนพื้นทรายที่มีความลื่น พร้อมกับการใช้ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ขณะเข้าโค้ง ไม่มีการแฉลบออกนอกเส้นทางยัง “หนึบ” อยู่ ซึ่งทีมผู้ขับขี่ทุกคนรู้สึกสนุกและมั่นใจมากกับการทดสอบครั้งนี้
วันที่ 9 วันนี้เป็นวันสุดท้ายของคณะสื่อมวลชนช่วงที่ 1 ที่อยู่ร่วมกันมาตั้งแต่วันแรกของการเดินทาง และถือเป็นการต้อนรับคณะสื่อมวลชนช่วงที่ 2 ที่เดินทางจากประเทศไทยมาถึงเมืองตุนหวงเมื่อวานนี้อย่างเป็นทางการ
เช้านี้ทีมคาราวาน ไฮลักซ์ รีโว่ ทั้ง 2 คณะ เดินทางด้วยรถบัสไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว ๆ 25 กิโลเมตร เพื่อไปยังถ้ำโม่เกา ตั้งอยู่ที่หน้าผาเชิงเขาด้านตะวันออกของภูเขาหมิงซาซาน อุโมงค์นี้เริ่มขุดเจาะตั้งแต่ปี ค.ศ.366 จนสำเร็จผลขึ้นเป็นกลุ่มถ้ำหินที่มีขนาดใหญ่โตมหึมา กอรปด้วยเนื้อหาสาระ ที่มีความสมบูรณ์แบบ นับเป็นขุมทรัพย์อันล้ำค่าแห่งพุทธปฏิมาศิลป์ที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร และได้รับการอนุรักษ์ไว้ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดของโลกจนถึงปัจจุบัน จนได้รับฉายานามว่า “เพชรน้ำหนึ่งแห่งศิลปะตะวันออก”
ช่วงบ่ายทีมคาราวานช่วงที่ 2 รับไม้ต่อมุ่งสู่เมืองฮามิ ซึ่งห่างออกไปราว ๆ 420 กิโลเมตรเส้นทางส่วนมากจะเป็นทางตรง มีวิวสองข้างทางที่สวยงาม มาในรูปแบบของความแห้งแล้งกึ่งทะเลทรายอีกแล้ว แต่ยังคงความสวยงามในแบบที่เป็น เมื่อเข้าเขตทะเลทรายอากาศค่อนข้างร้อน ซึ่งทีมคาราวานก็โชคดีที่เตรียมเครื่องดื่มโค้กไว้ใน Cool Box หรือช่องเก็บของรักษาความเย็นมาจากโรงแรม ได้โอกาสหยิบมาดื่มดับร้อนเบา ๆ นั่งกันไปเรื่อย ๆ บางช่วงก็ถือว่าได้ข้ามผ่านส่วนนึงของทะเลทรายโกบี ลมแรงมาก แต่ช่วงล่าง DCS และโครงสร้างแชสซีส์ใหม่ Firm ก็ยังนิ่ง ไม่นานก็มาถึงเมืองฮามิ
ทริปนี้นอกจากจะพิสูจน์สมรรถนะของไฮลักซ์ รีโว่ ทั้งความหนึบ แกร่ง ทนทาน กับการขับจริงบนเส้นทางระดับโลกแล้ว เรื่องความปลอดภัยในการเดินทางทั้งรถและคนก็เป็นเรื่องสำคัญ
หนทางยังอีกไกล อยากรู้คาราวานจะเดินทางไปไหน รอติดตามเรื่องราวและภาพบรรยากาศได้ที่นี่ www.toyota.co.th/hiluxrevocaravantrip #hiluxrevocaravantrip
โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ขับจริง หนึบจริง แกร่งจริง
ความคิดเห็น