โตโยต้าได้ฤกษ์ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ เอสติม่า รุ่นปี 2016 เพิ่มความดุดันและสดใหม่ให้รถเอ็มพีวีรุ่นนี้ที่ทำตลาดมานานนับสิบปี
รูปลักษณ์สะดุดตาแวบแรกที่ด้านหน้า แผงกันชนใหม่ที่มีดีไซน์เหลี่ยมคมเหมือนกับโตโยต้า วิออสรุ่นปัจจุบัน กระจังหน้าสีดำ มีแผงไฟเดย์ไลท์แอลอีดีที่เข้ากันอย่างลงตัวกับกรอบไฟหน้าแอลอีดีทรงเรียว มีเส้นสายโครเมียมนำสายตาสู่โลโก้เอสติม่า เสาหลังคาสีดำเชื่อมต่อไปถึงแผงหลังคาทำให้ตัวถังรถเป็นแบบทูโทน
ด้านข้างมีสเกิร์ตและล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ หันมาดูที่บั้นท้ายไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีการปรับแผงกันชนเล็กน้อย กรอบไฟหลังแอลอีดีชุดใหม่
เข้ามาชมภายในห้องโดยสารยังคงเลย์เอาท์แบบเดิม แต่ปรับเปลี่ยนรายละเอียดของแผงควบคุมตรงกลางคอนโซล พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบส้ามก้าน มีระบบปรับอากาศระบบสัมผัส ปรับดีไซน์ช่องแอร์ใหม่ ใช้วัสดุตกแต่งที่ให้บรรยากาศพรีเมียมมากขึ้น พร้อมกับมีหน้าจอ TFT ขนาด 2.6 นิ้ว เบาะที่นั่งปรับได้หลายรูปแบบ รองรับผู้โดยสารสูงสุด 8 ที่นั่งและออกแบบมาสำหรับผู้พิการด้วย
เอสติม่าในตลาดญี่ปุ่นจะมีเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.4 ลิตร รหัส 2AZ-FE พละกำลัง 170 แรงม้า แรงบิด 224 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ซูเปอร์ ซีวีที-ไอ นอกจากนี้ยังมีระบบไฮบริด เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร 2AZ-FXE พลัง 150 แรงม้า แรงบิด 190 นิวตันเมตรทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว ขับเคลื่อนสี่ล้อ
สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซินมีอัตราบริโภคน้ำมันอยู่ที่ 11.4 กม.ต่อลิตร ขณะที่รุ่นไฮบริดค่อนข้างประหยัด 18 กม.ต่อลิตร จากการทดสอบตามมาตรฐาน JC08 ส่วนระบบความปลอดภัยครบครันด้วยแพ็คเกจ Toyota Safety Sense C ที่ใช้เลเซอร์เรดาร์ และกล้องในการตรวจจับป้องกันการชน การแจ้งเตือนเมื่อออกจากช่องจราจร และไฟสูงอัตโนมัติ
โตโยต้า เอสติม่า รุ่นปรับไมเนอร์เชนจ์เคาะราคาเริ่มต้นที่ 3.47 ล้านเยน (ราว 1.1 ล้านบาท) ไปจนถึงรุ่นท็อป 4.98 ล้านเยน (ราว 1.6 ล้านบาท)
ความคิดเห็น