หลังจากเกิดกรณีการโกงค่ามลพิษเครื่องยนต์ดีเซลของโฟล์คสวาเกน ปรากฏว่าลูกค้าชาวยุโรปให้ความสนใจซื้อรถดีเซลลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ยอดขายรถยนต์นั่งขุมพลังดีเซลในยุโรป ซึ่งเคยมีสัดส่วนมากกว่า 50% ในยุโรป ได้ลดลงต่ำกว่า 50% เป็นครั้งแรกในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งรายงานข่าวระบุว่า ลูกค้าชาวยุโรปหันไปให้ความสนใจเครื่องยนต์เบนซินหรือรถพลังงานทางเลือกแทน
บริษัทวิเคราะห์การตลาดรถยนต์ LMC Automotive รายงานว่า สัดส่วนยอดขายรถดีเซลลดลง 2.2% ไปอยู่ที่ 50.1% ในช่วงสี่เดือนแรก และถ้าคิดเฉพาะเดือนเมษายนลดลง 3.1% เหลือ 49.7% ของยอดขายรถทั้งหมด ถึงแม้ตัวเลขการปรับลดลงจะดูเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าเยอะเมื่อเทียบกับตลาดรถในภาพรวมของยุโรปที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ที่น่าสนใจก็คือ ตลาดรถยนต์นั่งดีเซลที่มีการปรับลดลงมากที่สุด คือรถซับคอมแพกต์ รถคอมแพกต์แฮทช์แบ็ก และรถมินิแวนขนาดเล็ก ขณะเดียวกัน รถซีดานขนาดใหญ่ก็มีการปรับลดลงเช่นกันแต่ไม่มากนัก
รายงานข่าวระบุว่า ยอดขายรถดีเซลในยุโรปจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยภายในปี 2027 จะลดเหลือ 35% ของยอดขายรถทั้งหมด เนื่องจากบรรดาค่ายรถทุ่มเทพัฒนารถพลังงานทางเลือกมากขึ้น อาทิรถปลั๊กอินไฮบริด และรถพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
ความคิดเห็น