New Ford Focus 1.5 EcoBoost ขับสนุก สมรรถนะเหลือล้น เทคโนโลยีจัดเต็ม

สัมผัสแรกกับ ฟอร์ด โฟกัส 1.5 อีโคบูสท์ (Ford Focus 1.5 EcoBoost) บนเส้นทางการทดสอบในจังหวัดชลบุรี และสนามพีระเซอร์กิต ที่โดดเด่นด้วยอัตราเร่ง ความสนุกและความมั่นใจในการขับขี่ พร้อมออพชั่นความปลอดภัยและความสะดวกสบายแน่นคัน

ถือเป็นรถยนต์ ซี-เซกเมนต์ อีกหนึ่งรุ่นที่ หลายต่อหลายคนเฝ้ารอการเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับ ฟอร์ด โฟกัส 1.5 อีโคบูสท์ ซึ่งในปัจจุบันเทรนการดาวไซส์เครื่องยนต์ให้มีขนาดความจุ ซีซี น้อยลง แต่พ่วงเทอร์โบทดแทนสมรรถนะที่หายไป

เป็นแนวทางการทำตลาดที่เริ่มเห็นกันมากขึ้นในตลาดรถยนต์ประเทศไทย ซึ่งข้อดีก็คือรถยนต์จะมีความประหยัดมากยิ่งขึ้น ลดการปล่อยไอเสียดียิ่งชึ้น แต่สมรรถนะการใช้งานและพลังแรงม้ากลับมีมาให้เต็มๆ

ฟอร์ด โฟกัส 1.5 อีโคบูสท์ ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เข้าข่ายนี้ และวันนี้เรามาพบกับสัมผัสการการขับขี่แรกกับ โฟกัส 1.5 อีโคบูสท์กันดีกว่า ว่าจะมีสมรรถนะการขับขี่ที่จี๊ดจ๊าด เร้าใจขนาดไหน

โดยเส้นทางทดสอบจะแบ่งเป็น 2 ช่วงคือช่วง การทดสอบในสนามพีระเซอร์กิต และการทดสอบฟรีรันวิ่งบนเส้นทางรอบแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดชลบุรี ซึ่งต้องเรียนไว้ก่อนว่าในช่วงทดสอบส่วนใหญ่จะเป็นเลนสวนและมีการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่น แต่ก็ยังพอจะมีจังหวะที่จะทำความเร็วเพื่อทดสอบได้อยู่บ้าง

เริ่มต้นที่รูปลักษณ์ การออกแบบเส้นสายและหน้าตาตามสไตล์รถยนต์ฟอร์ดในยุคนี้คือกระจังหน้าแบบสปอร์ต 2 ชั้น พร้อมชุดโคมไฟหน้าที่มาพร้อมเส้นไฟเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ แต่เสียดายที่ไฟหน้ายังเป็นแบบฮาโลเจน ซึ่งถ้าเป็นแบบ โปรเจคเตอร์ หรือ แอลอีดี น่าจะทำให้รถยนต์ดูหรูหรา และสวยงามกว่านี้มากทีเดียว

รวมไปถึงชุดโคมไฟท้ายที่ออกแบบใหม่รูปทรงเพรียวขึ้น แต่ยังคงเป็นไฟแบบธรรมดาไม่ใช่ แอลอีดี แต่อย่างใด แต่โดยรวมแล้วถือเป็นรถยนต์อีกรุ่นที่หล่อแบบเรียบๆ อารมณ์ประมาณว่าไม่หลุดโลก ไม่อวกาศมากนักแต่ก็หล่อได้ ซื้อไปปุ๊ปเปลี่ยนล้อแมกซ์สวยๆ สักชุด จบได้เหมือนกัน

ภายในที่ปรับปรุงใหม่ให้อารมณ์ความสปอร์ต และสวยงามมากยิ่งขึ้น แผงคอนโซลกลางออกแบบใหม่ พร้อมหน้าจอแบบ Capacitive Touch Screen ขนาด 8 นิ้ว ซึ่งการตอบสนองตามนิ้วมากขึ้น จากการทดสอบลื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเหมือนเล่น Tablet คุณภาพดีเครื่องนึงเลยทีเดียว

เบาะโดยสารตอนหน้าและผู้ขับขี่ให้ความกระชับลดอาการโคลงเคลงจากการเลี้ยว การดันหลังมีไม่มากนัก ความแข็งของเบาะกำลังดีเลยทีเดียว ในส่วนของเบาะผู้โดยสารตอนหลังนุ่มนวลสบาย แต่ยังมีข้อเสียงตรงที่ความชันขอเบาะยังอยู่ในระดับที่สูงอยู่พอสมควร หากเทียบกับรถยนต์ในเซกเมนต์เดียวกัน

ทางด้านเครื่องยนต์ต้องบอกเลยว่าเป็นพระเอกของงานนี้ก็ว่าได้ กับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี อีโคบูสท์ เทอร์โบ ที่ทุกคนรอคอย ด้วยพละกำลังสูงถึง 180 แรงม้า พร้อมแรงบิดมหาศาลถึง 240 นิวตันเมตร และสามารถเติมเชื้อเพลิง E85 ได้ด้วย

โดยระบบเทอร์โบจะทำงานตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ 1,600-5,000 รอบต่อนาที เลยทีเดียว เรียกได้ว่ามาตั้งแต่ต้น ซึ่งจากการทดสอบการขับขี่ต้องบอกเลยสนุกสุดๆ ต้นจัดสั่งได้ดั่งใจ จากรถยนต์หยุดนิ่งหากกดคันเร่งแบบ 100% อาการหลังติดเบาะมีมาให้เห็นอย่างแน่นอน

และที่สำคัญโฟกัสรุ่นนี้ได้มาพร้อมเกียร์ชุดใหม่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด ไม่ใช่เกียร์ CVT หรือ พาวเวอร์ชิฟท์แต่อย่างใด การทำงานการส่งกำลังได้อย่างเรียบเนียน ความสนุกสนานสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการกวาดรอบเมื่อเปลี่ยนเกียร์แบบรถยนต์ในยุคก่อน

จากการทดสอบการทำความเร็วในช่วงต้น ทำความเร็วได้ดีมาก ต้นจัด เทอร์โบพร้อมทำงานตั้งแต่ประมาณ 1,500-1,600 รอบต่อนาที การแซงรถยนต์คันหน้าในเลนแบบสวน ไม่ต้องเผื่อระยะให้เหนื่อย เมื่อกดคิกดาวน์รถพร้อมพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วทันที วิ่งแบบไม่ทันสังเกตุความเร็วขึ้นถึง 140-150 เอาง่ายๆ

แต่การทำความเร็วในช่วงปลายจะค่อนข้างช้านิดนึงเพราะจะเครื่องยนต์ที่มีขนาดเพียง 1.5 ลิตร แต่หากพูดถึงความเป็นจริงแล้ว การทำงานของเทอร์โบในช่วงรอบ 1,600-5,000 รอบต่อนาที น่าจะครอบคลุมการใช้งานแทบจะ 100% อยู่แล้ว เพราะรอบเครื่องยนต์ถึง 5,000 รอบต่อนาที คงไม่มีใครลากเกินกว่านี้และใช้งานบ่อยๆ แน่นอน

การทำงานของระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบ อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง และด้านหลังแบบอิสระคอนโทรลเบรด มัลติลิงค์ คอยล์สปริง หนึบแน่นเกาะถนนตามสไตล์รถยนต์ยุโรป แต่ยังแอบคิดว่าน่าจะทำได้แน่นและกระชับกว่านี้หากต้องการเน้นความสปอร์ตจริงๆ เพราะช่วงล่างยังดูเบาไปนิด ซึ่งอาจจะมีผลมาจากตัวรถยนต์ที่มีขนาดน้ำหนักเบาลง จากการลดขนาดเครื่องยนต์

และระบบช่วยในการเข้าโค้งที่มีประโยชน์มากๆ คือระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง (Torque Vectoring Control) ที่จะลดการส่งกำลังแรงบิดไปยังล้อที่อยู่ในเลนในขณะเข้าโค้งซึ่งผลคือจะทำให้รถยนต์ เข้าโค้งด้วยความเร็วสูงได้ดีขึ้น พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือรถยนต์มุดโค้งได้ดีมากขึ้น แม้จะเข้าด้วยความเร็วสูง ซึ่งทำให้ช่วยเพิ่มความสนุกและความมั่นใจในการขับขี่ได้ดีที่เดียว

นอกจากนี้ระบบอำนวยความสะดวกยังมาแน่นๆ คันไม่ว่าจะเป็นระบบเซ็นเซอร์เตือนการชนรอบคันที่ทำงานได้ค่อนข้างไว ระบบช่วยจอดอัจฉริยะที่พัฒนาเพิ่มเติมการจอดแบบถอยเข้าซองจากเดิมจะมีเพียงจอดเทียบข้างเท่านั้น และระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ ซึ่งมีการพัฒนาให้ระบบสามารถทำงานถึงความเร็ว 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว

โดยรวมถือเป็นซี-เซกเมนต์อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อย ด้วยรูปลักษณ์ที่หล่อแบบเรียบหรูไม่ต้องแต่งเยอะ จะมีเพียงบางออพชั่นที่น่าจะใส่มาให้ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นเช่น ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์หรือแอลอีดี ซึ่งถ้ามีมาให้น่าจะทำให้รถดูหรูและพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้น

เครื่องยนต์ 1.5 อีโคบูสท์ เทอร์โบ ที่ต้องยอมรับถึงสมรรถนะแบบหมดใจเลยว่า จัดจ้านและโดนใจจริงๆ โดยเฉพาะช่วงต้นที่จัดมากๆ ความเร็วสั่งได้ดั่งใจ ช่วงล่างที่มั่นใจหนึบแน่น เกาะถนนพร้อมระบบที่ชอบมากๆ คือระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง (TVC) ที่ใช้ได้จริงๆ และมีประโยชน์มากๆ

ระบบอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยแน่นคันทั้ง ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติที่เราควบคุมเพียงการเปลี่ยนเกียร์ การเหยียบเบรคและคันเร่งเท่านั้น ซึ่งอัพเกรดมาทำให้จอดได้ทั้งเทียบข้างและเข้าซอง และระบบช่วยเบรคอัตโนมัติที่ทำงานได้ถึงความเร็ว 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยค่าตัวที่ 1,099,000 บาท ก็ถือว่าคุ้มค่าพอตัวเลยทีเดียว และนับว่าป็นรถยนต์อีกรุ่นที่ขับสนุกจนอยากให้คุณได้ลองเองเช่นกัน