[Advertorial] เปลี่ยนมือขับชุดสุดท้ายพิสูจน์สมรรถนะ 2 หมื่นกิโลเมตรด้วย โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ Share this

[Advertorial] เปลี่ยนมือขับชุดสุดท้ายพิสูจน์สมรรถนะ 2 หมื่นกิโลเมตรด้วย โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่

Tadsaneeya
โดย Tadsaneeya
โพสต์เมื่อ 29 July 2559

คาราวานไฮลักซ์ รีโว่ เดินทางมาถึงช่วงเวลาสุดท้ายในทวีปเอเชียกันแล้ว วันนี้ทุกคนต้องบอกลาอิสตันบูลและเอเชีย เพื่อมุ่งหน้าสู่ทวีปยุโรป โดยจะข้ามช่องแคบบอสฟอรัสสู่อิสตันบูลฝั่งยุโรปและมุ่งหน้าตรงไปยังเมืองพลอฟดิฟ ประเทศบัลแกเรีย โดยคณะสื่อมวลชนกลุ่มที่ 5 ซึ่งมาถึงเมืองอิสตันบูลเมื่อเช้ามืดวันนี้

วันที่ 35 เส้นทาง  :  อิสตันบูล ตุรกี - พลอฟดิฟ บัลแกเรีย

ในช่วงเช้าวันนี้คณะสื่อมวลชนกลุ่มที่ 4 ได้ออกสำรวจเมืองอิสตันบูล เมืองที่มีความสำคัญ และมีประชากรหนาแน่นที่สุดในตุรกี อีกทั้งยังเป็นเมืองเดียวของตุรกีที่มีพื้นที่อยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) และทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) โดยทั้ง 2 ทวีป ถูกแบ่งออกจากกันโดยช่องแคบบอสฟอรัส ทะเลมาร์มารา และช่องแคบดาร์ดะแนลส์ ในอดีตบริเวณนี้เคยเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ อันเป็นที่ตั้งเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมาก ส่งผลให้อิสตันบลูมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป เช่น ไปแซนทีอุม คอนสแตนติโนเปิล สแตมโบล อิสลามบูล เป็นต้น

st5 ep09 35 01

สิ่งที่เป็นไฮไลท์และพลาดไม่ได้ที่จะต้องมาเยือน คือ Blue Mosque หรือ มัสยิดสีฟ้า ชื่อเดิม คือ สุเหร่าสุลต่านอาร์เหม็ดที่ 1 (Sultan Ahmed Mosque) โดยสุเหร่านี้สร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1609 – 1616 ภายใน Blue Mosque มีหอเรียกสวด อยู่ 6 หอ เป็นหอคอยสูงให้ผู้นำศาสนาขึ้นไปตะโกนร้องเรียกจากยอดให้ผู้คนเข้ามาสวดมนต์ตามเวลาในสุเหร่า โดยชื่อมัสยิดสีฟ้าได้มาเพราะว่าภายในประดับด้วยกระเบื้องสีฟ้าจากอิซนิค เน้นลวดลายดอกไม้ต่างๆ ที่ตกแต่งได้อย่างวิจิตรตระการตา เช่น กุหลาบ ทิวลิป คาร์เนชั่น เป็นต้น

st5 ep09 35 02

ภารกิจแรกของวันนี้ คือ การข้ามชายแดนจากประเทศตุรกีเข้าสู่ประเทศบัลแกเรีย ซึ่งเสียเวลาที่ด่านขาออกจากประเทศตุรกีกันพอสมควร ในส่วนของขั้นตอนการตรวจคนนั้นค่อนข้างสะดวกและรวดเร็ว เพียงแค่แสตมป์บนหนังสือเดินทางก็เป็นอันเรียบร้อย แต่สำหรับรถ ต้องมีการเข้าเครื่องสแกนกันหลายรอบ และมี 3 คันที่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจค้นกันแบบเข้มข้น คณะคาราวานจึงถือโอกาสพักผ่อนเอนกายกันภายในรถ ที่เรียกได้ว่ากว้างขวางและอยู่ได้อย่างสบาย บ้างก็เปิดบลูทูธฟังเพลง บ้างก็เอามือถือและโน้ตบุคมาชาร์จแบตเตอรี่เพื่อทำงาน จนกระทั่งรถทุกคนผ่านด่านตรวจได้เรียบร้อย จึงมุ่งหน้าสู่ด่านขาเข้าของประเทศบัลแกเรีย ซึ่งขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองเร็วกว่าที่คาดไว้ เพราะไม่มีการค้นรถ มีเพียงการตรวจสอบเอกสารนิดหน่อยเท่านั้น

จากนั้นคาราวานเข้าสู่ประเทศบัลแกเรีย หรือ สาธารณรัฐบัลแกเรีย (Republic of Bulgaria) เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในเรื่องของนมเปรี้ยวและโยเกิร์ตเป็นอย่างมาก พรุ่งนี้คาราวานจะพาสำรวจความสวยงามของเมืองพลอฟดิฟพร้อมชิมโยเกิร์ตชื่อดัง

วันที่ 36 เส้นทาง  : พลอฟดิฟ - รูเซ บัลแกเรีย

วันนี้เป็นการเดินทางในทวีปยุโรปอย่างเต็มตัว ทีมคาราวานเริ่มล้อหมุนเวลา 9 โมงเช้า โดยเป้าหมาย คือ เมืองรูเซ (Ruse) ตั้งอยู่บริเวณชายแดนประเทศบัลแกเรีย เพื่อเตรียมพร้อมข้ามชายแดนไปยังประเทศโรมาเนียในวันถัดไป โดยมีระยะทาง 305 กิโลเมตร

โดยช่วงเช้านี้มีโปรแกรมเยือนเมืองเก่าพลอฟดิฟ (Plovdiv) ซึ่งห่างจากโรงแรมเพียง 15 นาที เมืองพลอฟดิฟ เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศบัลแกเรีย รองจากเมืองโซเฟีย โดยมีประชากร 338,153 คน เป็นศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดพลอฟดิฟ และมีความสำคัญด้านเศรษฐกิจ การขนส่ง วัฒนธรรม และการศึกษา

st5 ep09 36 01-01

คณะคาราวานเริ่มต้นเดินเล่นกันที่เขตเมืองเก่า ผ่านเส้นทางที่เป็นถนนคนเดินเส้นหลักของเมือง มีร้านค้าต่าง ๆ มากมายทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก อาคารบ้านเรือนต่าง ๆ ยังดูเก่าและคงความคลาสสิกไว้เช่นเคย

จากนั้นออกเดินทางต่อ ซึ่งเส้นทางในวันนี้ ทำให้ ไฮลักซ์ รีโว่ ได้แสดงสมรรถนะหลายอย่าง บางช่วงเป็นถนนขรุขระ แต่ช่วงล่าง DCS ของรถก็ยังนิ่ง แน่น ทำให้การนั่งภายในห้องโดยสารรู้สึกสบายตลอดเส้นทาง หลังจากนั้นเส้นทางต้องมีขึ้นเขากันเล็กน้อย และเป็นเลนสวน มีทั้งโค้งกว้างและแคบ แต่รถก็ยังหนึบ พวงมาลัยก็ยังให้ความแม่นยำในการเข้าโค้งเช่นเคย สร้างความสบายให้กับผู้ขับขี่และคนนั่งได้อย่างดี ในส่วนของเบรคนั้น ทำให้การเดินทางขึ้นลงเขาและการเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ รถไม่มีส่าย ให้ความสมดุลดีมาก

การเดินทางมาถึงยอดเขา ซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ที่สร้างไว้ เพื่อจารึกถึงการปลดแอกของประเทศบัลแกเรีย และคาราวานได้แวะทานอาหารกลางวัน พร้อมกับชมวิวจากบนยอดเขาแห่งนี้ ซึ่งทิวเขาแถบนี้ไม่มีความแห้งแล้งให้เห็น ทุกอย่างดูเขียวชอุ่มไปหมด

st5 ep09 36 04-02

เมื่อได้เวลาจึงออกเดินทางกันต่อ สภาพถนนยังคงเป็นสองเลน ผ่านเส้นทางธรรมชาติสลับกับชุมชน บางครั้งต้องเร่งแซงรถใหญ่ที่ขับอยู่ด้านหน้าเป็นระยะ ๆ ระบบเกียร์ Sequential Shift ทำให้การเร่งแซงได้อย่างมั่นใจ รวมทั้งยังทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ GD Efficient Boost ได้อย่างลงตัว

และมาถึงจุดหมายที่เมืองรูเซ (Ruse) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 5 ของประเทศบัลแกเรีย ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

วันที่ 37 เส้นทาง  :  รูเซ บัลแกเรีย – บูคาเรสต์ – บราซอฟ โรมาเนีย

เข้าสู่วันที่ 37 ของการเดินทาง คาราวานไฮลักซ์ รีโว่ มีภารกิจเดินทางข้ามประเทศกันอีกครั้ง จึงออกเดินทางกันแต่เช้า เพราะต้องเผื่อเวลาสำหรับขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองที่ชายแดนประเทศโรมาเนีย โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่เมืองบราซอฟ (Brasov) ระยะทาง 274 กิโลเมตร

st5 ep09 37 03

ออกจากเมืองรูเซมาได้ไม่นาน คาราวานก็เข้าสู่ด่านตรวจขาออกของบัลแกเรีย และขาเข้าของโรมาเนีย แต่ปรากฏว่าไม่ได้ใช้เวลานานอย่างที่คิด เจ้าหน้าที่ตรวจเพียงแค่หนังสือเดินทางเท่านั้นเส้นทางช่วงต้นหลังจากผ่านเข้ามาเป็นถนนสองเลน ทิวทัศน์สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้และทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มสลับกับชุมชนในบางช่วง โดยคาราวานได้แวะรับประทานอาหารกลางวันกันที่เมืองบูคาเรสต์ (Bucharest) เมืองหลวงของโรมาเนีย ซึ่งการจราจรช่วงเข้าเมืองค่อนข้างวุ่นวายพอสมควร ไฮลักซ์ รีโว่ทั้ง 9 คัน ต้องพยายามขับเกาะกลุ่มกัน มีการเร่งเครื่องยนต์และแตะเบรกกันตลอดเวลา ตอกย้ำในส่วนของ Power Engine ว่าตอบสนองได้ดีกว่าในทุกสถานการณ์ ผ่านไปไม่นานคาราวานก็มาถึงร้านอาหารที่ทุกคนรอคอย ร้านอาหารไทย “คุณนาย” กับเมนูอาหารที่คุ้นเคยแต่ไม่ได้ทานกันนานมากแล้ว ทั้งกะเพราหมู แกง ยำเนื้อ ปลาหมึกผัดพริก เรียกได้ว่าเป็นมื้อที่เจริญอาหารที่สุดสำหรับทุกคน

และก่อนจะลาเมืองบูคาเรสต์ คาราวานได้ขับไปวนที่ประตูชัย Triumph Arch ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเหล่าทหารหาญชาวโรมาเนียที่เสียชีวิตจากการสู้รบในสงครามโลกครั้งที่ 1 และทุกวันที่ 1 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันชาติโรมาเนีย จะมีการสวนสนามของกองทัพโรมาเนียภายใต้ประตูชัยแห่งนี้

st5 ep09 37 01-01

จากนั้นจึงเดินทางกันต่อ เพื่อไปแวะชมปราสาทบราน (Bran Castle) หรือ ปราสาทแดร๊กคูล่า (Dracula’s Castle) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นปราสาทที่สวยงามที่สุดในโรมาเนีย ตั้งอยู่บนยอดเขา คาราวานจึงต้องขับขึ้นเขากันอีกครั้ง ซึ่งช่วงล่วง DCS ก็เอาอยู่แบบสบายๆ หนึบมั่นใจทุกโค้งจนถึงยอดเขา อันเป็นที่ตั้งของตัวปราสาท

st5 ep09 37 04

st5 ep09 37 05

คณะคาราวานมีโอกาสได้เยี่ยมชมตัวปราสาททั้งภายนอกและภายในกันอย่างใกล้ชิด คาราวานเดินชมส่วนต่างๆ ของปราสาทกันจนครบถ้วน จึงได้ออกเดินทางไปยังเมืองบราซอฟ (Brasov) จุดหมายของวันนี้

เดินทางผ่านเส้นทางธรรมชาติและบ้านเรือนแบบโบราณกันมาสักพัก คาราวานไฮลักซ์ รีโว่ก็เข้าสู่เมืองบราซอฟ เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมเมืองหนึ่งของประเทศโรมาเนีย มีความเก่าแก่ที่สามารถสืบประวัติไปได้ถึงสมัยยุคหินกันเลยทีเดียว คาราวานเริ่มสำรวจเมืองจากป้อมปราการบนเนินเขาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของที่พัก ซึ่งเป็นจุดชมวิวเมืองเก่าที่สวยที่สุด มองลงไปจะเห็นจัตุรัสที่ว่าการเมือง (The Council Square) ตั้งเด่นเป็นศูนย์กลางอยู่ภายในมืองเก่า และด้วยความที่บราซอฟเป็นเมืองที่มีความเก่าแก่ ผ่านความเจริญในยุคสมัยต่างๆ มาอย่างยาวนาน ทำให้สถาปัตยกรรมภายในเมืองมีความสวยงามหลากหลาย ผสมผสานทั้งศิลปะของโรมาเนสก์ ไบเซนไทน์ รอคโคโค่ เรอเนซองซ์ และบาโรก ปัจจุบันบริเวณเมืองเก่าแห่งนี้ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว จุดนัดพบ ศูนย์รวมร้านค้าและร้านอาหารมากมาย

วันที่ 38 เส้นทาง :  บราซอฟ – เซียไวร่า – ออราเดีย โรมาเนีย

การเดินทางวันที่ 38 ของคาราวานไฮลักซ์ รีโว่ ยังคงอยู่กันที่โรมาเนีย ประเทศที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของเมืองเก่า วันนี้คาราวานจะเดินทางต่อไปยังเมืองเก่าสุดคลาสสิก เมืองมรดกโลกเซียไวร่า (Sighisoara) และไปจบการเดินทางวันนี้ที่เมืองออราเดีย (Oradea) เมืองชายแดนโรมาเนีย

คาราวานเริ่มเดินทางจากเขตทรานซิลเวเนีย บนถนนสองเลน ผ่านหุบเขาและโค้งค่อนข้างหลากหลาย สองข้างทางยังเป็นบรรยากาศของทุ่งใหญ่และต้นไม้สลับกับแนวเขาสีเขียว ผ่านหมู่บ้านโบราณเล็ก ๆ และปราสาทหรือป้อมปราการขนาดย่อมบนเนินเขาเป็นระยะ

ใช้เวลาไม่นานนัก คาราวานก็เดินทางมาถึงเมืองเซียไวร่า (Sighisoara) เมืองป้อมปราการบนเนินเขาที่สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 12 ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี คณะคาราวานเริ่มเดินชมเมือง โดยสิ่งที่สะดุดตาที่สุดก็คือ หอนาฬิกาโบราณอายุกว่า 600 ปี สัญลักษณ์สำคัญของเมือง ซึ่งสามารถเดินขึ้นไปด้านบนเพื่อชมวิวได้ ด้านล่างคือจตุรัสซิทาเดล (Citadel) ที่มีร้าน  ขายของที่ระลึกและร้านอาหารตั้งเรียงรายกันอยู่  ใกล้ ๆ กันจะเห็นอาคารสีเหลือง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเจ้าชายวลาดอีกด้วย

st5 ep09 38 01

หลังจากเดินเล่นและรับประทานอาหารกลางวันกันเป็นที่เรียบร้อย คาราวานจึงเดินทางกันต่อ โดยเส้นทางช่วงนี้เป็นถนนสี่เลน คาราวานจึงเร่งทำความเร็วกันได้อย่างเต็มที่ ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงเมืองออราเดีย

st5 ep09 38 02

ถึงแม้เมืองนี้จะไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวหลัก แต่ก็เป็นเมืองที่มีความสำคัญของโรมาเนีย ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม อีกทั้งยังอยู่ใกล้ชายแดนประเทศฮังการีเพียง 8 ไมล์เท่านั้น

st5 ep09 38 04-01

คณะคาราวานได้ออกไปเดินเล่นในเมืองเก่าและจตุรัสกลางเมืองในช่วงเย็น ซึ่งวันนี้มีการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลยูโรนัดชิงชนะเลิศ ระหว่างฝรั่งเศสและโปรตุเกสที่กลางจตุรัส ทำให้วันนี้คึกคักเป็นพิเศษ เดินชมบรรยากาศการเชียร์กีฬาของชาวโรมาเนียกันสักพัก คณะคาราวานก็กลับมาพักผ่อน เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางข้ามไปยังประเทศฮังการีในวันพรุ่งนี้

วันที่ 39 เส้นทาง  : ออราเดีย โรมาเนีย  - บูดาเปสต์ ฮังการี

วันที่ 39 ของการเดินทาง คาราวานไฮลักซ์ รีโว่ยังคงมุ่งหน้าสู่ประเทศต่อไปในทวีปยุโรป โดยเป้าหมายของวันนี้ คือ กรุงบูดาเปสต์ เมืองหลวงของประเทศฮังการี ดินแดนที่ได้รับการขนานนามว่า กรุงปารีสแห่งยุโรปตอนกลาง ถือเป็นเมืองที่มีความสำคัญที่สุดของฮังการี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการท่องเที่ยว โดยระยะทางรวมของวันนี้คือ 318 กิโลเมตร

คาราวานวิ่งออกจากเมืองออราเดีย มาบนเส้นทางที่ค่อนข้างเรียบ ทิวทัศน์สองข้างทางสวยงาม ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงด่านตรวจชายแดน ขั้นตอนการผ่านแดนของทั้งโรมาเนียและฮังการีเป็นไปอย่างราบรื่น มีการตรวจวีซ่าและหนังสือเดินทางเท่านั้น คาราวานไฮลักซ์ รีโว่ก็เข้าสู่ประเทศฮังการีได้ทันที

st5 ep09 39 01

จากชายแดน คาราวานวิ่งสู่ถนนไฮเวย์ 4 เลน ทำให้มีโอกาสทดสอบสมรรถนะอัตราเร่งของเครื่องยนต์ GD Efficient Boost กันอีกครั้ง ว่าหลังจากผ่านการเดินทางที่ต่อเนื่องยาวนานมาถึง 38 วัน สมรรถนะยังแกร่ง แรง ได้คงที่หรือไม่ ซึ่งไฮลักซ์ รีโว่ก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง สามารถเร่งทำความเร็วแบบต่อเนื่อง เรียกได้ว่าแรงดีไม่มีตกตลอดเส้นทาง ประสานการทำงานกับระบบช่วงล่าง DCS ที่ยังคงความหนึบ เกาะถนนในทุกโค้ง และระบบพวงมาลัยที่ให้การควบคุมได้ง่าย ทรงตัวดี คล่องได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังได้กระจกมองข้างขนาดใหญ่ที่สะท้อนภาพได้ชัด ไม่หลอกตา ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการแซงหรือเปลี่ยนเลนขณะทำความเร็วได้เป็นอย่างดี ทำให้การเดินทางในวันนี้ราบรื่น และถึงกรุงบูดาเปสต์ได้ภายในเวลาไม่นาน

คณะคาราวานมาถึงบูดาเปสต์ในช่วงบ่าย เคลื่อนขบวนข้ามสะพาน Chain bridge สะพานหลักของเมืองที่ทอดข้ามแม่น้ำดานูบและทำหน้าที่เชื่อมสองฝั่งของเมืองเข้าหากัน คาราวานมุ่งหน้าสู่ด้านบนของฝั่งเมืองเก่า โดยเข้าพักภายในพื้นที่ที่เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของเมืองที่โรงแรม Hilton Budapest

st5 ep09 39 02

จากนั้นเริ่มสำรวจเมืองที่จุดท่องเที่ยวหลักด้านหน้าโรงแรม ที่เรียกว่า Fisherman Bastion ซึ่งสร้างขึ้นโดยกลุ่มชาวประมงฮังกาเรียน เพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญของชาวประมงผู้เสียสละชีวิตปกป้องบ้านเมืองในคราวที่ถูกพวกมองโกลเข้ามารุกราน บนป้อมชาวประมงแห่งนี้ ถือเป็นจุดชมวิวรอบเมืองบูดาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง

st5 ep09 39 04

หลังจากนั้นคณะคาราวานแยกย้ายกันไปชอปปิ้งและเดินเล่นตามอัธยาศัย ซึ่งการเดินเรียบแม่น้ำดานูบในช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ถือเป็นบรรยากาศที่น่าประทับใจไม่น้อย กับภาพพระอาทิตย์ที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวคล้อยต่ำลงด้านหลังป้อมปราการ Fisherman Bastion แสงสีส้มอ่อนค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้ม จากนั้นเข้าสู่ช่วงเวลาที่หลายคนรอคอย กับภาพความสวยงามของอาคารรัฐสภาที่เปิดไฟสว่างจ้า โดยมีแม่น้ำดานูบทอดยาวเป็นฉากหน้า ซึ่งอาคารรัฐสภาฮังการี (Hungary Parliament) ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอันตระการตาที่ไม่ควรพลาด เพราะนี่คืออาคารรัฐสภาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยตัวอาคารมีความสวยงามด้วยสภาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคที่ดูคลาสสิกด้วยหลังคาสีแดง อาคารรัฐสภาแห่งนี้เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1885 และใช้เวลากว่า 20 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์ โดยรูปแบบอาคารได้รับอิทธิพลมาจากอาคารรัฐสภาแห่งลอนดอน

ดื่มด่ำภาพความงดงามริมฝั่งแม่น้ำดานูบกันพอสมควรแล้ว คณะคาราวานจึงแยกย้ายกันไปพักผ่อน เก็บแรงไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ กับภารกิจวิ่งผ่าน 5 ประเทศภายในวัน

วันที่ 40 เส้นทาง  :  บูดาเปสต์ ฮังการี – สโลวาเกีย – สาธารณรัฐเช็ก – ออสเตรีย – เบิร์ชเทสการ์เดน เยอรมัน

เข้าสู่ช่วงเวลาของการเดินทางสุดท้าทายอีกครั้ง สำหรับคาราวานไฮลักซ์ รีโว่ เพราะวันนี้ต้องเดินทางข้ามแดนกันถึง 5 ประเทศภายในวันเดียว ด้วยระยะทางรวม 690 กิโลเมตร โดยมีปลายทางอยู่ที่เมืองเบิร์ชเทสการ์เดน ประเทศเยอรมัน

st5 ep09 40 02

การเดินทางของวันที่ 40  เส้นทางส่วนมากในวันนี้ยังคงเป็นถนนสี่เลน คาราวานจึงใช้ความเร็วกันอย่างเต็มที่ ซึ่งอัตราเร่งอันทรงพลังของเครื่องยนต์ GD Efficient Boost ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม และถึงแม้จะเร่งความเร็วมากขนาดไหนแต่ภายในห้องโดยสารก็ยังคงนิ่งสนิท สมดุลดี ไม่มีการส่าย

ผ่านไปไม่นาน คาราวานก็เข้าสู่เขตแดนของประเทศสโลวาเกีย (Slovakia) จากนั้นเข้าสู่ประเทศสาธารณรัฐเช็ก (Czech) ซึ่งเส้นทางที่คาราวานผ่านห่างจากกรุงปรากไม่ถึงร้อยกิโลเมตร เดินทางต่อมาไม่นานก็ถึงเส้นแบ่งเขตแดนของประเทศเช็กและ ออสเตรีย (Austria)  ซึ่งข้อดีของการขับรถผ่าน 5 ประเทศในวันเดียวก็คือ มีโอกาสได้เปลี่ยนคลื่นวิทยุฟังเพลงของแต่ละประเทศ โดยคนขับสามารถหาคลื่นวิทยุด้วยปุ่มบังคับบนพวงมาลัยที่ออกแบบมาให้อย่างพอดี โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน ทั้งสะดวก เพลิดเพลิน และปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในการขับขี่วันนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ถึงแม้บางช่วงจะมีฝนตกลงมาบ้าง ก็ถือเป็นโอกาสได้ทดสอบสมรรถนะของถนนที่เปียกลื่น เพื่อย้ำความมั่นใจในช่วงล่าง DCS ขณะวิ่งด้วยความเร็วบนทางด่วนที่มีโค้งกว้าง สลับเนินขึ้น-ลงเขาอยู่ตลอดเวลา ว่าหนึบจริง เอาอยู่ทุกโค้ง

st5 ep09 40 01

จนในที่สุดเราก็มาถึงปลายทางที่เมืองเบิร์ชเทสการ์เดน (Berchtesgaden) ประเทศเยอรมัน (Germany)

st5 ep09 40 04

คาราวานไฮลักซ์ รีโว่ ค่อยๆ เคลื่อนตัวผ่านหุบเขาที่เขียวชอุ่มและสวยงามในช่วงฤดูร้อน โดยเฉพาะในวันที่มีฝนตกลงมาแบบนี้ ทำให้อากาศหลังฝนตกเย็นสบายและสดชื่นมาก โดยคณะคาราวานพักกันที่ Grunberger Hotel ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางอ้อมกอดของขุนเขา แต่กว่าจะมาถึงก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อนทันทีที่มาถึง

วันที่ 41 สี่สิบเอ็ด เส้นทาง  :  เบิร์ชเทสการ์เด้น เยอรมัน – ลินซ์ ออสเตรีย

คาราวานไฮลักซ์ รีโว่เริ่มต้นการเดินทางวันที่ 41 กันอย่างไม่เร่งรีบนัก เพราะจุดหมายปลายทางของวันนี้คือเมืองลินซ์ ประเทศออสเตรีย ซึ่งอยู่ห่างจากเบิร์ชเทสการ์เด้นไปเพียง 206 กิโลเมตรเท่านั้น ทำให้คาราวานพอมีเวลาที่จะแวะเยี่ยมชมอีกหนึ่งสถานที่สำคัญของเยอรมันที่อยู่ระหว่างทาง นั่นคือ เคลสไตน์เฮาส์ (Kehlsteinhaus) หรือที่เรียกอีกชื่อว่า รังอินทรีย์ (Eagle's Nest) สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศเยอรมนี

st5 ep09 41 01

การเดินทางไปเคลสไตน์เฮาส์ คณะคาราวานต้องขับรถขึ้นเขาที่มีความโค้งและชันพอสมควร แต่ช่วงล่าง DCS ในไฮลักซ์ รีโว่ ที่หนึบและเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ ก็พาคาราวานผ่านขึ้นมาได้อย่างสบายจนถึงที่หมาย ปัจจุบันเคลสไตน์เฮาส์ได้แปลสภาพเป็นภัตตาคารและจุดชมวิวบนเทือกเขาแอลป์ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่อากาศวันนี้ปิด บรรยากาศค่อนข้างมืดครึ้มและมีหมอกหนา ทำให้ทัศนวิสัยไม่ค่อยจะดีนัก คณะคาราวานเดินเล่นกันได้ไม่นาน ฝนก็ตกลงมา ทำให้อากาศยิ่งหนาวเหน็บขึ้นไปอีก ทุกคนจึงตัดสินใจออกจากเคลสไตน์เฮาส์ แล้วเดินทางกันต่อ

st5 ep09 41 02

เนื่องจากฝนเพิ่งตกลงมา ทำให้การขับรถในช่วงขาลงลำบากกว่าตอนขาขึ้นพอสมควร เพราะนอกจากทางจะลาดชันแล้ว ถนนยังเปียกลื่นอีกด้วย แต่ด้วยระบบป้องกันในไฮลักซ์ รีโว่ ที่เรียกได้ว่าจัดเต็ม ทั้งระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติ DAC ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ระบบเบรก ABS และระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) ก็ช่วยให้คาราวานผ่านเส้นทางอันตรายไปได้ด้วยความมั่นใจและปลอดภัยทุกคน

คาราวานขับผ่านเส้นทางธรรมชาติที่สวยงามของประเทศออสเตรีย ที่สองข้างทางถูกล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์อันยิ่งใหญ่ บางช่วงจะเห็นยอดเขาที่ยังมีหิมะปกคลุมอยู่ ใช้เวลาไม่นานนักคณะคาราวานก็มาถึงเมืองลินซ์ (Lienz) เมืองเก่าเปี่ยมเสน่ห์ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาแอลป์ คาราวานเลือกพักกันที่นี่เพื่อเตรียมตัวในการพาไฮลักซ์ รีโว่ ไปพิสูจน์สมรรถนะกันที่ยอดเขากลอสกล็อกเนอร์ (GrossGlockner) ยอดเขาที่สูงที่สุดในออสเตรีย ที่ได้ชื่อว่ามีความสวยงามและเป็นเส้นทางสุดท้าทายในฝันของนักขับจากทั่วโลก

st5 ep09 41 03

นับตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ 41 วันของการเดินทาง ทีมคาราวานพร้อมรถไฮลักซ์ รีโว่ 9 คันและฟอร์จูนเนอร์อีก 1 คัน เดินทางกันอย่างหนักแทบทุกวัน ผ่านเส้นทางมาแล้วทุกรูปแบบตั้งแต่ภูเขา ทะเลทราย ที่ราบเขตเมืองอันวุ่นวาย หรือจะเป็นสภาพภูมิอากาศ ทั้งฝนตก พายุลูกเห็บ พายุทะเลทราย อากาศที่ร้อนระดับเกือบ 50 องศา จนไปถึงอุณหภูมิติดลบ ทางโค้งทุกรูปแบบ การเดินทางขึ้น-ลงเขา ถนนเปียกลื่น ขรุขระ ตลอดการเดินทาง ต้องบอกว่าทั้งคณะคาราวานและไฮลักซ์ รีโว่ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงสมรรถนะความหนึบ แกร่ง ทนทานจากการขับจริง บนถนนจริง ทำให้คาราวานมั่นใจที่จะไปถึงจุดหมายอย่างแน่นอน

แล้วมาติดตามเส้นทางสุดท้าทายของกลอสกล็อกเนอร์กันได้ที่ www.toyota.co.th/hiluxrevocaravantrip พร้อมร่วมสนุก “อ่านแล้วแชร์” ง่าย ๆ เพียงแค่คลิ๊ก และพิมพ์ #hiluxrevocaravantrip รับกล้อง GoPro Hero4 และของที่ระลึกอื่น ๆ อีกมากมาย

โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ขับจริง หนึบจริง แกร่งจริง


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ