[Mazda Skyactiv Asean Caravan Group2] #จบทริป จาก ฮอยอัน เมืองมรดกโลก สู่ความศิวิไลซ์ ณ มหานครโฮจิมินห์ Share this

[Mazda Skyactiv Asean Caravan Group2] #จบทริป จาก ฮอยอัน เมืองมรดกโลก สู่ความศิวิไลซ์ ณ มหานครโฮจิมินห์

Coke Autospinn
โดย Coke Autospinn
โพสต์เมื่อ 15 July 2559

กลับมาพบกับบทสรุปทริปสุดพิเศษที่จะพาท่องประเทศเวียดนามแบบที่หาที่ไหนไม่ได้กับ มาสด้า สกายแอคทีฟ เอเซียน คาราวาน (Mazda Skyactiv Asean Caravan) โดยความเดิมตอนที่แล้วคาราวานได้เดินทางมาสู่เมืองแห่งมรดกโลก หรือฮอยอันกันไปแล้ว วันนี้จะพาคุณเดินทางสูุ่จุดสุดท้ายคือ มหานครโฮจิมินห์ นั่นเอง

ภายหลังจากที่ คาราวาน มาสด้า สกายแอคทีฟ เอเซียน คาราวาน ได้เดินทางมาจนถึงเมืองแห่งมรดกโลก หรือเมืองฮอยอัน กันแล้ว ซึ่งในค่ำคืนวันนั้นทาง คณะคาราวาน ได้เดินชมเมืองเก่าที่ยังคงเอกลักษณ์ความโบราณผสมผสานกับการออกแบบตึกรามบ้านช่องแบบยุุโรป

20160703_105616

20160703_091204

พร้อมกับเดินเที่ยวตลาดนัดกลางคืนที่คล้ายๆ ตลาดนัดกลางคืนหัวหิน บ้านเรานี่แหละ แต่เสน่ห์มันอยู่ตรงที่ความเก่าแก่และวัฒนธรรมของชาวเวียดนามที่่หาชมที่ไหนไม่ได้ บวกกับราคาของที่ขายที่นี่ เรียกได้ว่าซื้อง่ายขายคล่องกันเลยทีเดียว

IMG_9968

20160703_124022

หลังจากที่ได้เดินเที่ยวเล่น พร้อมซึมซับบรรยากาศเมืองเก่าที่ค่อนข้างประทับใจกับเมือง ฮอยอัน ที่สร้างความประทับใจให้กับคณะสื่อมวชนไปเรียบร้อยแล้ว ตื่นเช้าเริ่มวันใหม่มาพร้อมเดินทางต่อด้วยเป้าหมายในวันนี้สู่เมือง ตรีฮวา (Tuy Hoa) จังหวัด ฝูเอียน

20160702_165503

20160702_165550

IMG_9991

IMG_0009

กับเมืองที่เรียบง่าย ไม่ค่อยมีอะไรหน้าตื่นตาตื่นใจ หรือแหล่งท่องเที่ยวมากนัก เพราะอาศัยเป็นที่พักค้างคืนเพื่อไปต่อที่นคร โฮจิมินห์ เท่านั้น และด้วยในวันนี้จะเน้นการเดินทางเป็นหลักจึงไม่ได้แวะพักเท่าไรนัก

หลักจากพักผ่อน ณ รีสอร์ทบนเขา ที่ค่อนข้างอับสัญญาณทั้งโทรศัพท์ ก็เริ่มเช้าวันใหม่พร้อมเดินทางต่อสู่ มหานครโฮจิมินห์ เมืองที่เรียกได้ว่าเจริญและมั่งคั่งที่สุดในประเทศเวียดนาม แม้จะไม่ใช่เมืองหลวง แต่ด้วยความเจริญและการพัฒนาต้องเรียกได้ว่าทิ้งเมืองอื่นๆ ไปไกล เลยทีเดียว

20160703_065811

20160703_193426

ตึกรามบ้านช่อง การใช้ชีวิต การแต่งตัว แตกต่างจากเมืองต่างๆ ที่เราได้เดินทางผ่านมากว่า 5 วันชนิดที่เรียกได้ว่า คนละประเทศกันก็ว่าได้ ด้วยความทันสมัย และหัวคิดสมัยใหม่ของประชากรใน โฮจิมินห์ วัยรุ่นเริ่มแต่งตัวตามสมัยนิยม เลยมีการโชว์เล็กโชว์น้อย ใส่กางเกงขาสั้น กระโปรงสั้นมีให้เห็น

แตกต่างจากเมืองอื่นๆ เช่น ฮานอย ที่วัยรุุ่นจะยังคงแต่งตัวมิดชิด ใส่หมวก ไม่ค่อยกล้าสบตาผู้คนสักเท่าไหร่ ก็เหมือนกับประชาชนในประเทศไทยในยุค 20-30 ปีที่แล้ว ที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหวกับยุคนี้ อย่างนั้น

20160703_213717

20160703_184404

และด้วยความเจริญ ความวุ่นวายก็เพิ่มเติมเข้ามาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งสภาพการจราจรที่เข้าขั้นสาหัส ด้วยจำนวนรถยนต์ และจักรยานยนต์ที่มหาศาล บวกกับการขับขี่ ใช้รถใช้ถนนในรูปแบบที่ว่า ไฟเขียว ไฟแดง ไม่มีผลกับบุคคลเหล่านี้เลย

แต่จะว่าแปลกก็ใช่แม้การขับขี่ของคนประเทศนี้จะเป็นแบบ อยากจะนึกเลี้ยวก็เลี้ยวทันที แม้จะต้องตัดเลนถนนกว่า 3 เลน เพื่อกลับรถ อยากจะผ่าไฟแดงก็ขับขี่ก็แบบไม่สนใจใคร แต่กลับไม่มีอุบัติเหตุเลยแม้แต่น้อย ด้วยการสังเกตุบนท้องถนนมาร่วม 6 วัน

20160704_072227

20160704_072457

อาจจะเพราะเค้าขับขี่กับแบบไม่มีกฎหมายก็จริง แต่พวกเค้าไม่ได้ใช้ความเร็วสูงเลย ถ้าเป็นในตัวเมือง รถยนต์และมอเตอร์ไซค์ จะขับขี่อยู่ประมาณ 40-50 เท่านั้น (ตามกฏหมายบังคับให้ใช้ความเร็วในเมืองได้ที่ 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วแต่เมือง)

และในส่วนของถนนนอกเมืองจะขับขี่กันความเร็วไม่เกิน 100 แม้จะเป็นถนนทางด่วน ทางหลวง ก็ตาม ซึ่งกฎหมายบังคับความเร็วของประเทศนี้ค่อนข้างเอาจริง กล้องตรวจจับก็มีคคุณภาพสูงชนิดที่ว่าใครขับเกินจะส่งไปยัง มอนิเตอร์ ของตำรวจ บริเวณสุดทางอีกฝั่งของเมืองเพื่อรอปรับกันเลยทีเดียว

20160630_174111

รวมไปถึงอัตราค่าปรับก็เข้าขั้นแพงมากด้วย จากการถามไกด์ค่าปรับจากความเร็วจะอยู่ที่ 1,000 บาท - 2,000 บาท ต่อครั้งเลยทีเดียว หลังจากที่รัดเลาะพยายามขับบังคับรถฝ่าฝูงมอเตอร์ไซค์ที่เข้าขั้นมหาศาล บวกกับรถยนต์ที่ขับขี่กันแบบตามใจฉัน ก็ถึงที่หมาย ณ โรงแรมหรูกลางเมือง โฮจิมินห์

พร้อมการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคณะ มาสด้า สกายแอคทีฟ เอเซียน คาราวาน ในกรุ๊ป 3 กับพี่ๆ สื่อมวลชลอีกกรุ๊ปที่มารออรับไม้ต่อด้วยการวิ่งจากเมือง โฮจิมินห์ เวียดนาม สู่ กัมพูชา และกลับคืนสู่ประเทศไทยในอีก 3 วันข้างหน้า

IMG_9972

IMG_9975

ส่วนสื่อมวลชนในกรุ๊ป2 ก็เตรียมตัวเดินทางกลับสู่บ้านเราที่คิดถึงด้วยเครื่องบิน ในเช้าวันต่อไป ก็ถือเป็นทริปประวัติศาสตร์จากทางมาสด้า ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า สมรรถนะ และเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ จากมาสด้า สุดยอดขนาดไหน

ที่ได้ทดสอบกันครบทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น มาสด้า 2 เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร มาสด้า 3, มาสด้า ซีเอ็กซ์-3, และพี่ใหญ่ มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ที่ทุกรุ่นได้โชว์สมรรถนะกันอย่างเต็มที่ ทั้งอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยม ในช่วงเร่งแซงที่ค่อนข้างอันตรา ในช่วงที่ต้องทำเวลาเพื่อเข้าเมือง

ระบบช่วงล่างที่โดดเด่นสุดๆ ทั้งการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง การขับผ่านสภาพถนนที่หลากหลายความมั่นใจในการขับขี่แบบเต็มแม็กซ์ รวมไปถึงอัตราการประหยัดน้ำมันที่มีเวลาให้ได้ลองกันทุกรุ่น ทุกคันแบบเต็มๆ

อยากจะบอกว่าเติมแค่วันละ 1 ถังเท่านั้น ยังเหลือๆ ให้วิ่งต่อได้วันละ 500-600 กิโลเมตรเลยทีเดียว แม้สภาพถนนและการจราจรจะชวนให้ขับลำบากสุดๆ ทั้งคาราวานก็ผ่านมาได้อย่างสนุกสนานและจบได้ด้วยดี

received_10204746845309418

สุดท้ายทางผม ก็ขอขอบคุณ บริษัท มาสด้า เซลล์ ประเทศไทย จำกัด กับทริปทดสอบรถยนต์สุดพิเศษนี้ที่ชวนเราไปเปิดหหูเปิดตากันถึงประเทศเวียดนาม รวมไปถึง พี่ๆ น้องๆ สื่อมวลชนที่น่ารักทุกคนที่ช่วยเหลือกันสุดๆ ระหว่างการขับขี่ที่ต้องอาศัยทีมเวิร์คจริงๆ พร้อมกับประโยคที่ติดหูกันสำหรับทริปนี้กับ "คนไทยไม่ทิ้งกัน" สวัสดีครับ

IMG_0026

ขอขอบคุณ บริษัท มาสด้า เซลล์ ประเทศไทย จำกัด กับทริปการทดสอบและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างอาเซียน ที่สุดแสนพิเศษและสุดประทับใจในครั้งนี้ด้วยครับ

ร่วมทริปคาราวานและเขียนบทความโดย Peerapat.h

ติดตามข่าวสารอัพเดตเพิ่มเติม ได้ที่นี่

ค้นหารถยนต์มือสองสภาพดีการันตีจาก วันทูคาร์ ได้ที่นี่


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ