พ่อแม่ของชายหนุ่มชาวอังกฤษที่ถูกรถคันอื่นขับชนจนเสียชีวิต ได้นำเศษซากรถที่ประสบอุบัติเหตุของลูกชายมาจัดแสดงด้านหน้ารัฐสภาอังกฤษเพื่อรณรงค์ให้เพิ่มบทลงโทษที่หนักขึ้นกว่าเดิม
การรณรงค์ดังกล่าวได้รับความร่วมมือจาก “Brake” องค์กรการกุศลที่มุ่งรณรงค์ความปลอดภัยบนท้องถนน อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในเมืองรอชเดลในปี 2014 โดยโจเซฟ บราวน์-ลาร์ตลีย์วัย 24 ปีเสียชีวิตในทีเกิดเหตุทันทีหลังจากถูกอัดดิล ฮารูนขับชนอย่างแรงจนรถของโจเซฟขาดสองท่อน
ฮารูน มีอายุเพียง 18 ปีในเวลานั้นขับฝ่าไฟแดงและใช้ความเร็วสูงถึง 128 กม.ต่อชม. ในเขตพักอาศัย ก่อนที่จะถูกศาลตัดสินจำคุก 6 ปี
โจเซฟ บราวน์-ลาร์ตลีย์
อย่างไรก็ตาม พ่อของบราวน์-ลาร์ตลีย์ระบุว่า โทษดังกล่าวเบามากเกินไปจนเขารู้สึกเหมือนถูกเตะเข้าที่ปากสองครั้งซ้อน และไม่อยากเชื่อว่าเมื่อฮารูนออกจากเรือนจำก็จะมีอายุน้อยกว่าลูกชายของเขาที่เสียชีวิตไปแล้วด้วยซ้ำ
“มันเหมือนกับถูกเตะเข้าที่ฟันหน้าสองครั้ง เพราะคุณต้องสูญเสียลูกชาย แล้วกฎหมายบ้านเมืองยังทำให้คุณผิดหวังซ้ำอีก” พ่อของบราวน์-ลาร์ตลีย์กล่าว
ด้านดอว์น บราวน์-ลาร์ตลีย์ แม่ของเหยื่อที่เสียชีวิตระบุว่า “ผู้พิพากษาถูกกำหนดกรอบโดยกฎหมาย ดังนั้นเราต้องเปลี่ยนกฎหมายให้เข้มงวดมากกว่านี้”
อัดดิล ฮารูน ถ่ายภาพมาตรวัด 228 กม.ต่อชม. ด้วยโทรศัพท์มือถือ
รายงานข่าวระบุว่า ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ฮารูนถ่ายภาพมาตรวัดในรถของตนเองซึ่งกำลังขับด้วยความเร็วสูงถึง 228 กม.ต่อชม. พร้อมกับส่งข้อความไปหาเพื่อนของเขาว่า “กำลังออกจากลีดส์ไปที่รอชเดล เจอกันในอีก 11 นาที”
ฮารูนให้การรับสารภาพข้อหาขับขี่เป็นอันตรายทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยไม่มีใบขับขี่ ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยไม่มีประกันภัย และการขับขี่ที่เป็นอันตราย
รถของโจเซฟ บราวน์-ลาร์ตลีย์ขาดสองท่อน
Brake ซึ่งกำลังรณรงค์แคมเปญ Roads to Justice ระบุว่า ครอบครัวบราวน์-ลาร์ตลีย์รู้สึกเหมือนถูกทรยศโดยระบบยุติธรรม และเรียกร้องให้เพิ่มบทลงโทษสำหรับผู้ขับขี่ที่ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต โดยผลสำรวจก่อนหน้านี้ระบุว่า 66% ของคนอังกฤษต้องการให้ผู้ขับขี่ที่ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตต้องถูกจำคุกอย่างน้อย 10 ปี
ขณะที่ผลสำรวจ 91% ของคนอังกฤษเชื่อว่าผู้ขับขี่ที่ดื่มแอลกอฮอล์หรือเสพสารเสพติดและทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ควรถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาซึ่งมีโทษจำคุกตลอดชีวิต
ขอขอบคุณภาพจาก Greater Manchester Police
ความคิดเห็น