ยามาฮ่าประเมินภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ในปีนี้ขยายตัวได้เล็กน้อย เป็นผลจากการขยายตัวของตลาดสปอร์ตขนาดเล็กและบิ๊กไบค์ แต่รับยังไม่เห็นปัจจัยบวกชัดเจน ยันเป้าหมายตลาดรวม 1.7 ล้านคัน พร้อมเพิ่มยอดตัวเองอีกครึ่งหมื่นทะลุ 2.45 แสนคัน
ประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ในช่วงครึ่งปีแรกมีการขยายตัวราว 0.4% หรือมียอดขายรวม 911,7416 คัน เป็นผลมาจากการเติบโตของตลาดรถสปอร์ตขนาดเล็กและบิ๊กไบค์
การเติบโตดังกล่าวทำให้สัดส่วนของรถจักรยานยนต์แบบสปอร์ตเพิ่มขึ้นจาก 13% ในปีที่ผ่านมาเป็น 16% ในช่วงครึ่งปีแรก และทำให้สัดส่วนของรถจักรยานยนต์เกียร์ธรรมดาลดลงจาก 51% เหลือ 49% และรถจักรยานยนต์ออโตเมติกลดลงจาก 36% เหลือ 35%
ขณะที่ตลาดรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ก็มียอดจำหน่ายเติบโตขึ้นเป็น 13,029 คัน เติบโตกว่า 30% และเชื่อว่าน่าจะทำยอดจำหน่ายรวมได้ถึง 2.5 หมื่นคันมากขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
"สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ผู้บริโภคเริ่มหันมาใช้จักรยานยนต์เพื่อไลฟ์สไตล์มากขึ้น ผู้ประกอบการก็มีการนำเสนอสินค้าที่หลากหลายมากมาย ขณะเดียวกัน สถาบันการเงินก็เข้ามาร่วมกับเรามากขึ้น รวมถึงบางค่ายเริ่มที่จะมองเรื่องการทำตลาดรถมือสองในอนาคต"
อย่างไรก็ตาม ประพันธ์กล่าวว่ายังไม่เห็นสัญญานบวกที่จะส่งผลดีต่อตลาดรถจักรยานยนต์แบบครอบครัว ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของประเทศอย่างชัดเจน ทำให้มองว่าตลาดรวมในปีนี้น่าจะปิดที่ 1.7 ล้านคันตามที่มีการคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้
สำหรับยามาฮ่า ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายการจำหน่ายเป็น 2.45 แสนคัน จากเดิม 2.4 แสนคัน เป็นผลจากการที่ได้รับการตอบรับจากสินค้าต่าง ๆ อาทิ เอ็ม-สแลช, เอ็นแมกซ์ หรือแกรนด์ ฟีลาโน่ เป็นอย่างดี ขณะที่ตลาดบิ๊กไบค์คาดว่าจะทำยอดได้ถึง 2,100 คันในปีนี้
"แผนงานหลักในครึ่งปีหลังจะอยู่ที่การเปิดตัวบิ๊กไบค์อีก 1-2 รุ่น พร้อมการขยายไรเดอร์ คลับอีก 3 แห่งในปีนี้ รวมถึงการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กอีก 2 รุ่น ภายใต้งบประมาณในการทำตลาด 800 ล้านบาท เพื่อให้ได้ผลตามที่เราตั้งเป้าเอาไว้"
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น